
13 มิ.ย.2567- รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ หน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยสถิติการเจ็บป่วยของคนไทยที่เป็นดัชนีบอกถึงผลการดำเนินงานต่างๆ ในภาพรวม จากสถิติปี พ.ศ. 2564-2566 ฐานข้อมูลออนไลน์ จากกระทรวงสาธารณสุข :https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php พบว่า
คนไทยป่วยและมารับบริการน้อยลง 26.7 ล้านครั้ง ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อย 1.9 หมื่นล้านบาท สมควรมีการศึกษาวิจัยเชิงลึกต่อไปว่า จำนวนที่ลดลงเป็นเพราะเหตุปัจจัยใดบ้าง
เมื่อคำนวณโดยนำเอาจำนวนครั้งการรักษาผู้ป่วยนอก เฉลี่ยต่อปีของปี พ.ศ.2564-2565 เป็นตัวตั้ง แล้วลบโดยจำนวนครั้งการรักษาผู้ป่วยนอก ในปี พ.ศ.2566 พบว่า มีจำนวนลดลง 26,672,454 ครั้ง และจำนวนคนลดลง เท่ากับ 13,334,354 คน
เมื่อคำนวณโดยนำเอาจำนวนผู้ป่วยใน เฉลี่ยต่อปี ของ ปี พ.ศ. 2564-2565 เป็นตัวตั้ง แล้วลบโดยจำนวนผู้ป่วยใน ในปี พ.ศ.2566 พบว่า มีจำนวนลดลง 36,150 คน และจำนวนวันนอน ลดลง เท่ากับ 8,091,897 วันนอน
เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้ โดยเอาจำนวนครั้งของผู้ป่วยนอกและจำนวนคนของผู้ป่วยใน มาคูณกับต้นทุนต่อหน่วยของการให้บริการ จะพบว่า มูลค่าที่ประหยัดได้รวมเท่ากับ 19,384,119,956 บาท
รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า 1. ข้อมูลต้นทุนที่นำมาใช้ได้จากการศึกษาในโรงพยาบาลชุมชน ดังนั้นถ้าใช้ต้นทุนเฉลี่ยของโรงพยาบาลทุกระดับ น่าจะมียอดรวมของเงินที่ประหยัดได้สูงกว่านี้มาก
- ข้อมูลนี้ไม่ได้นับจำนวนการเสียชีวิตของคนไทย ซึ่งเป็นปัจจัยชี้วัดความสำเร็จของนโยบายสุขภาพที่สำคัญเช่นกัน
- การมารับบริการของผู้ป่วยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมาก ทั้งปัจจัยที่ตัวผู้ป่วยเอง และปัจจัยด้านระบบบริการ
- ปัจจัยด้านผู้ป่วย เช่น ลักษณะของการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น การเลือกวิธีการรักษาตนเอง เลือกไปการรับบริการ ณ หน่วยบริการ ทัศนคติต่อบริการต่างๆ เป็นต้น
- ปัจจัยด้านระบบบริการ เช่น ความเพียงพอและทั่วถึงของสถานบริการและบุคลากร ประสิทธิผลของบริการ กฎระเบียบที่กำหนด เช่น การจำกัดจำนวนผู้รับบริการต่อวัน การประชาสัมพันธ์ ค่าใช้จ่ายที่เก็บจากผู้ป่วย เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป คือ ในรอบ 3 ปีนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจคือ
- คนไทยป่วยและไปใช้บริการสาธารณสุข ลดลง 26.7 ล้านครั้ง
2.ประหยัดค่าใช้จ่ายให้ระบบบริการ 1.9 หมื่นล้านบาท
ตัวเลขเหล่านี้ ล้วนมีนัยยะสำคัญ ที่ต้องไปแกะหาที่มาที่ไป 1. ควรมีการศึกษาวิจัยเชิงลึกว่า คนไทยมาใช้บริการลดลง เป็นเพราะเหตุปัจจัยใดบ้าง และแต่ละปัจจัยส่งผลต่อจำนวนครั้งของการมารับบริการมากน้อยเพียงใด
- มีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องแนวโน้นการเสียชีวิตของคนไทยและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้
สิ่งที่น่าสังเกต คือ ในรอบ 3 ปีที่อ้างอิงมาเป็นช่วงเวลาของการปลดล็อกกัญชา ให้ใช้ปลูกตามบ้าน เพื่อให้ประชาชนใช้พึ่งพาตัวเอง สมควรไปศึกษา เพิ่มเติมว่า นี่คือสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยน้อยลงหรือไม่” .


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สว.ประพนธ์ จี้เร่งคลอดกม.ควบคุมพืชกัญชา ไม่จำเป็นต้องกลับไปเป็นยาเสพติด
“สว.ประพนธ์” จี้เร่งคลอดกฎหมายคุมกัญชา ชี้ที่ผ่านมาไร้ปัญหาหนักเท่ายาบ้า ยันยังไม่จำเป็นต้องกลับไปเป็นยาเสพติด
นายกฯ ส.นักวิจัย ซัด 'สมศักดิ์' ปมยึกยักนโยบายกัญชา จี้ ออก พ.ร.บ. ควบคุม สยบปัญหารอบด้าน
รศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยั
'ศุภชัย' สอนมวย เพื่อไทย หัดพูดความจริงกับประชาชนเรื่องกัญชา
นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ภายหลังจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่า
คลิปเดือด! 'ชาดา' ซัดรัฐบาลอาฆาตแค้น
ชาดา ไทยเศรษฐ์ โพสต์คลิปแรงใส่รัฐบาล มัวแต่โจมตีฝ่ายค้าน ทั้งที่ปัญหายาเสพติด เกษตร และพนันออนไลน์ยังรอแก้ จี้กลับไปทำงานให้ประชาชนเห็นผลงานจริง ย้ำหนุนแก้รัฐธรรมนูญ-นิรโทษกรรม แต่ไม่ยุ่งมาตรา 112
'ศุภชัย' ซัดกลับ 'สมศักดิ์' อย่าโยนบาปกัญชาใส่ภูมิใจไทย ชี้ ปล่อยน้ำกระท่อมคลั่งเกลื่อนเมือง คือผลงานอดีตรมว.ยุติธรรม
นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวตอบโต้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่าพรรคภูมิใจไทย
2 แสนชื่อหนุน ‘สมศักดิ์’ ดันกัญชากลับเป็นยาเสพติด ใช้เฉพาะการแพทย์
กลุ่ม “YNAC” ไม่นะกัญชาและยาเสพติด เป็นตัวแทน 2 แสนรายชื่อ เข้าพบ “สมศักดิ์” ขอเป็นแรงหนุนให้นำกัญชาเป็นยาเสพติด – ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น พร้อมเป็นกำลังใจ ไม่ปล่อยให้โดดเดี่ยว


