18 มิ.ย.2567 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซื้อสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า ว่า ตนและนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เคยทักท้วงประเด็นนี้ไป เพราะอยากจะให้เป็นสินค้าที่ผลิตภายในประเทศเป็นหลัก แต่มีข้อจำกัดในการปฏิบัติจริงบางส่วน ทั้งเรื่องร้านค้าบางร้านขาย และของอีกหลายประเภท ซึ่งข้อกังวลนี้เป็นข้อกังวลจากผู้ปฏิบัติจริง กระทรวงพาณิชย์เลยเสนอมาที่คณะอนุกรรมการกำกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สุดท้ายมีมติยืนตามเดิม
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า นายกฯค่อนข้างห่วงเรื่องนี้ เพราะกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นกลไกที่ต้องการให้มีการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการผลิตและการจ้างงานในประเทศเป็นหลัก จึงให้ทบทวนซึ่งกลไกในการทบทวนไม่เพียงแค่ตนเท่านั้น แต่ต้องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โดยได้ส่งเรื่องนี้ให้คณะกรรมการฯทบทวนแล้ว และให้ส่งเรื่องกลับมาอีกครั้ง ส่วนข้อสรุปคาดว่าอีก 1-2 สัปดาห์ และจะมีการนัดประชุมปลายสัปดาห์หน้า
เมื่อถามถึงแหล่งเงินที่จะใช้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะสอบถามกฤษฎีกาเมื่อใดนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลา มั่นใจว่าทัน และดูกรอบเวลาอยู่ เพราะยังไม่มีข้อกังวล จึงยังไม่ได้สอบถาม ซึ่งยังไม่ได้คิดแผนรองรับหากไม่ได้เงินจาก ธ.ก.ส. เนื่องจากตอนนี้ใช้ 2 แหล่ง คือ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 แต่ต้องดูความเหมาะสม องค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งการลงทะเบียนนำมาประกอบกันด้วย ทั้งนี้ การจะใช้เงิน ธ.ก.ส. ต้องจ่ายผ่านช่องทางบัญชีของเกษตรกร ซึ่งคนเป็นเกษตรจะได้รับ ก็ต้องมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ
เมื่อถามถึงกรณีหุ้นตกต่ำสุดในรอบ 14 ปี จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนอย่างไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่ามาจากปัจจัยการเมืองด้วย ซึ่งกระทบต่อตลาดหุ้น เพราะสถานการณ์ทางการเมืองเดือนมิ.ย. มี 3-4 คดีใหญ่ แต่ไม่ส่งผลต่อปัจจัยพื้นฐาน เพราะฉะนั้นสภาพตลาดยังคงความแข็งแกร่ง รวมถึงกลไกของรัฐบาล ได้ผลักดันการลงทุนต่างประเทศ การพัฒนาคุณภาพแรงงาน เชื่อว่าทั้งหมดจะสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดพื้นฐานได้
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อีกไม่กี่วันเรื่องที่เกิดความลังเลและสงสัยของตลาด สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญ หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีความกระจ่างชัด เชื่อว่าตลาดจะกลับมาสู่ภาวะปกติ ย้ำว่าเป็นเพียงแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น แต่รัฐบาลต้องมีมาตรการออกมาช่วยภายหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มือถือ 'แตงโม' ถึงไทยแล้ว! ดีเอสไอเร่งตรวจDNA พร้อมเรียกแจงทันที
'หมอธวัชชัย' บินจากอเมริกาถึงไทยแล้ว หลังได้มือถือ 'แตงโม' จากบังแจ็ค ลั่นให้รีบสารภาพเรื่องจะได้จบ ด้าน ดีเอสไอรีบตรวจสอบ ชี้พบDNAใครเรียกตัวสอบทันที
อีก 2 เดือน ถึงคิวกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน เฟส 3 เม.ย.
รัฐบาลขอเวลา 2 เดือน เปิดลงทะเบียนแจกเงินกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ยันไม่ให้มีตกหล่น ขณะที่เฟส 3 ยันเกิดไตรมาส 2 มาแน่เดือน เมษายน –มิถุนายน
รัฐบาลลุยไฟกาสิโน 'จุลพันธ์' เร่งเครื่องเต็มสูบเข้าสภา
“จุลพันธ์” เผย ชี้แจงกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต่อ คกก.กฤษฎีกา คณะพิเศษแล้ว 1 ครั้ง พร้อมส่ง “2 รองเลขาฯนายกฯ” เข้าไปนั่งประชุมด้วย หวังรักษาแนวคิด อ้าง ไม่เขียนสัดส่วนกาสิโนกี่เปอร์เซ็นต์ เหตุไม่รู้สถานการณ์สังคมในอนาคต ลั่น โพลค้านพนันออนไลน์ ไม่ใช่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
รมช.คลังปัดดัน‘สุทธาภา’ โอนหมื่นเฟส2วันเดียวจบ
“จุลพันธ์” ลั่นไม่มีการเมืองเอี่ยว ปัดคุยส่วนตัวกับ “สุทธาภา” หลังมีชื่อแคนดิเดตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่
รับคำสั่งเสือกทุกเรื่อง! 'คลัง' เผยกำลังศึกษาแนวทางใช้บิตคอยน์-เงินดิจิทัลในแซนด์บ็อกซ์
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุ ถึงการทำแซ
ดีอี สั่ง เข้มผู้ขาย 'มือถือ-แท็บเล็ต' ทุกยี่ห้อห้ามละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
รองนายกฯ ประเสริฐ สั่ง สคส. คุมเข้มบริษัทผู้จำหน่ายและให้บริการเกี่ยวกับมือถือทุกยี่ห้อ รวมทั้ง Oppo และ realme ต้องไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่มีแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมายติดมากับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต