ศปช.ส่วนหน้า ชง ครม. จ่ายค่าล้างโคลนหลังละ 1 หมื่น ปรับเกณฑ์ใหม่เยียวยาน้ำท่วม

5 ต.ค.2567 - เมื่อเวลา 18.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.เชียงใหม่ ด้วยความเป็นห่วง และได้รับรายงานอย่างต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและสัตว์โดยด่วน

“นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่า ขณะนี้น้ำ เริ่มไหลกลับลงลำน้ำแม่แตงแล้ว ก่อนหน้านี้มีการลำเลียงช้างขึ้นที่สูง แต่เมื่อระดับน้ำเริ่มลดแล้ว ไม่มีช้างที่แช่น้ำ จึงปรับแผน ไม่ต้องเคลื่อนย้ายสัตว์ แต่ให้เฝ้าระวัง ตอดเวลา และได้จัดเตรียมยารวมถึงให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าไปฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ทุกคนกลับมาอยู่ในภาวะปกติโดยเร็ว และให้ทุกหน่วยงาน เฝ้าจับตาสถานการณ์ต่อเนื่องโดยเฉพาะใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า“นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือช้างที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ส่งเจ้าหน้าที่กว่า100นายไปยังศูนย์บริบาลช้าง มีช้างได้รับผลกระทบทั้งหมด 126 เชือก เคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัยแล้ว 114 เชือก เหลือช้างที่นำไปผูกไว้บนที่สูง 9 เชือกขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง จะเร่งนำอาหารสัตว์พร้อมส่งปศุสัตว์เข้าไปช่วยเหลือ

ขณะที่ สถานการณ์น้ำแม่น้ำปิง เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. สถานี P.1 สะพานนวรัฐ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำอยู่ที่ 5.30 ม. สูงกว่าระดับตลิ่งชั่วคราวที่เสริมจากแนวตลิ่งเดิม 1.10 ม. โดยคาดว่า ปริมาณน้ำปิงจะขึ้นสูงสุดในเที่ยงคืนของคืนนี้ ซึ่งระดับน้ำจะสูงขึ้นประมาณ 50 ซม. ทำให้สูงกว่าแนวตลิ่งชั่วคราว 1.60 เมตร ซึ่งได้ประกาศแจ้งเตือนพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำปิงใน จ.เชียงใหม่ บริเวณ อ.เมืองฯ สารภี หางดง สันป่าตอง ดอยหล่อ และ จ.ลำพูน บริเวณ อ.เมืองฯ ป่าซาง และเวียงหนองล่อง

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำกำลังตำรวจ เข้าช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหมู่บ้านสัมมากร อำเภอเมืองเชียงใหม่ และร่วมวางแผนการฟื้นฟู หากระดับน้ำลดลงนอกจากนี้ ตำรวจภูธรเชียงใหม่ ยังนำกำลังสายตรวจออกไปช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่อุทกภัย พื้นที่อำเภอจอมทอง อำเภอแม่ปิง อำเภอแม่ริม พร้อมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โรงครัวประกอบอาหาร และนำส่งอาหารพร้อมน้ำดื่มให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ศปช.ส่วนหน้า ติดตามการฟื้นฟูแม่สาย พร้อมเตรียมชงค่าล้างโคลนหลังละ 10,000 บาท

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (รอง ผอ.ศปช.) พร้อมด้วยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย (ประธาน ศปช.ส่วนหน้า) และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม (ที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า) และคณะ ลงพื้นที่ติดตาม สถานการณ์น้ำ การให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟูพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ระบุว่าขณะนี้ระดมทุกภาคส่วนเข้ามาฟื้นฟูคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะสามารถเคลียร์พื้นที่ให้ประชาชนได้ทั้งหมด

“วันนี้มีการหารือกันถึงการเตรียมเสนอให้ ครม. ให้พิจารณาปรับเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในระดับสูงสุดคือ 9,000 บาทต่อครัวเรือน รวมทั้งจะมีการเสนอค่าล้างโคลนครัวเรือนละ 10,000 บาท เนื่องจากสถานการณ์ที่เชียงรายครั้งนี้ ปัญหาใหญ่คือโคลน ซึ่งต้องใช้คน เครื่องมือและค่าใช้จ่ายสูง หากสามารถช่วยประชาชนในส่วนนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์” นายจิรายุ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชุมพรอ่วม! ฝนถล่มหนัก ดินถล่มทับบ้าน ถนนสายหลักฝั่งอ่าวไทยถูกตัดขาด

จากสถานการณ์ฝนตกหนักครอบคลุมในพื้นที่ จ.ชุมพร ทั้ง 8 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร

ดั๊บเบิ้ล เอ สนับสนุนช่วยเหลือฟื้นฟูหลังอุทกภัยภาคใต้

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เข้ามอบสมุด และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย Double A Care อาทิ หน้ากากอนามัยฯ น้ำยาทำความสะอาดพื้นและฆ่าเชื้อโรค

พยากรณ์ 15 วันล่วงหน้า ลมหนาวพัดยาวฉลองคริสต์มาส

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 13 - 27 ธ.ค. 67

กรมอุตฯ ประกาศฉบับ 8 เตือนอากาศหนาว 13-16 ธ.ค. ใต้ฝนตกหนักคลื่นลมแรง

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 8