'ครูเงาะ' ปลาบปลื้ม 'ในหลวง' ทรงตรัสถึงสัจจะลิขิตของ 'พระอาจารย์ต้น'

23 ต.ค.2567 - หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ "พระทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ" เป็น "พระราชญาณวัชรชิโนภาส" พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ สถานศึกษาธรรมป่านาโสกฮัง จังหวัดอำนาจเจริญ ประกาศเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567

ล่าสุด ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ นักพัฒนาศักยภาพมนุษย์และครูสอนการแสดงชื่อดัง ซึ่งได้ศึกษาแนวทางการปฏิบัติของพระราชญาณวัชรชิโนภาส หรือ พระอาจารย์ต้น ธรรมนาวา ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า เกิดมาไม่เคยเห็นพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมณศักดิ์ที่ออกมาแบบนี้ การที่ในหลวงทรงตรัสถึงสัจจลิขิตของพระอาจารย์ นั่นแปลว่าทรงทราบดี และเป็นการยืนยันหนักแน่นที่จะถวายสมณศักดิ์ให้พระอาจารย์ นั่นแปลว่าพระองค์ทรงมีพระราชวินิจฉัยและวิสัยทัศน์ที่ทรงรู้ชัดถึงประโยชน์อันไพบูลย์ที่รออยู่

ครูเคยมีคำถามว่าทำไมเราต้องมียศให้พระด้วย ท่านบวชมาเพื่อละไม่ใช่หรือ ครูได้ศึกษาที่มาที่ไป คือในสมัยพระพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงตั้งเอตทัคคะ (ผู้เป็นเลิศ) ในด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อยกย่องพระรูปนั้นๆ (แต่ไม่ใช่การให้ยศ) เมื่อพระองค์ปรินิพพาน กษัตริย์ผู้รับช่วงดูแลพระศาสนาจึงเริ่มมีการตั้งสมณศักดิ์ให้พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เริ่มจากลังกาก่อน แล้วมาไทย

ในอดีตบ้านเราการตั้งสมณศักดิ์จะเป็นหน้าที่ของพระราชาเท่านั้น แต่ในสมัย ร.๕ พระองค์เริ่มมีการปรึกษากับพระสังฆราช จนต่อๆมาเริ่มแปลงไปเป็นให้สงฆ์ตั้งแล้วเสนอชื่อ จึงเป็นที่มาที่ในวันนี้การตั้งสมณศักดิ์จึงมีสองสาย สายแรก คือมาจากคณะสงฆ์เสนอชื่อ และเริ่มเป็นที่มาของการซื้อตำแหน่งที่เรารู้ๆกัน (แต่ไม่ใช่ทุกที่ที่สงฆ์ตั้ง จะซื้อตำแหน่งนะคะ ตั้งเพราะงามด้วยธรรมวินัยก็มาก แต่ที่ซื้อก็มี เว้ากันซือๆ)

และอีกทางคือ การแต่งตั้งตรงจากพระราชา ที่เป็นการตั้งโดยพระราชศรัทธาและพระราชประสงค์ ที่จะทรงดูแลปกป้องส่งเสริมพระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พร้อมกับเป็นการบอกประชาชนให้รู้ว่าภิกษุรูปใดที่เราควรเข้าไปหาเพื่อนำความรู้กลับมาใช้ ในฐานะที่ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก

เคยอ่านคำที่ครูบาอาจารย์วัดป่าทั้งหลายที่เคยปฏิเสธการรับยศ แต่เมื่อถึงคราวที่ในหลวงพระราชทาน ท่านก็รับ ท่านไม่ได้ใส่ใจในยศเลย แต่รับเพราะสนองพระราชศรัทธาที่พระราชาทรงมีต่อพระศาสนา

ส่วนตัวครู ไม่เคยสนใจว่าพระรูปใดมียศอะไรเลย ครูสนใจแค่รูปใดให้ความรู้ในการดับทุกข์ของเราได้ แค่นั้นพอ

แต่วันนี้ครูเห็นคนทั่วไปจะมีปฏิกิริยาสามด้านต่อสมณศักดิ์ กลุ่มหนึ่งจะยึดที่ยศพระ งานบุญถ้าได้เชิญพระมียศจะเป็นเกียรติเป็นศรี ใส่ซองละแสนก็ใส่ได้ เข้าใจว่าได้ทั้งหน้าได้ทั้งบุญ หารู้ไม่ว่าพากันทำร้ายพระศาสนาไม่รู้ตัว

ส่วนอีกพวกหนึ่ง ยึดติดกับคำว่าข้าคือคนจริง เพ่งโทษต่อต้านในการรับยศของพระ นัยว่าหมดศรัทธา ทั้งที่จริงก็ไม่เคยได้ศรัทธา เพราะไม่เคยเอาทางปฏิบัติของท่านมาใช้ แค่ศรัทธาไปตามๆกันว่า ไม่มียศ = ดี ฉันชอบ ดูดีถูกใจฉัน ความอคตินี้ก็จะบดบังประโยชน์อันควรได้จากพระรูปนั้นๆ และยังมีโทษต่อตนอีก

พวกสุดท้ายที่ขออนุโมทนา คือกลุ่มแยกแยะวิเคราะห์จากข้อวัตรปฏิบัติและคำสอน ส่วนมากเป็นผู้ปฏิบัติ ที่มักไม่เพ่งโทษใคร

วันนี้ ครูอยากเชิญชวนขาวพุทธผู้มีสติปัญญา มองทุกสิ่งที่แก่น ที่สาระ อย่าลงใจศรัทธา อย่าตั้งท่าปฏิเสธ หากยังไม่เคยได้ศึกษา วันนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทำหน้าที่ของพระองค์อย่างสุดกำลัง ในการรักษา ปกป้อง พระศาสนา และเลือกเฟ้นครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั่วประเทศมาให้เรา ที่เหลือก็คือเราที่จะลองเข้าไปศึกษาแล้วนำความรู้จากครูบาอาจารย์เหล่านี้มาดับทุกข์ในชีวิตของตน

#ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

#ขอแสดงมุทิตาจิตต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ได้รับการดูแลจากพระราชาอันมีที่มาจากการปฏิบัติของท่านเอง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ราชบัณฑิต เปิดข้อเท็จจริง 4 ประเด็น โซเชียลวิพากษ์ 'พระอาจารย์ต้น ธรรมนาวา'

ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ราชบัณฑิต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า เปิดใจพระอาจารย์ต้น ต้อนรับอายุวัฒนมงคล ๔๘ ปี ฝากสังคมรับรู้

สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท 'โลกธรรม 8' เตือนใจพระราชาคณะชุดใหม่

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้พระราชาคณะ ที่ได้รับพระราชทานสถาปนา เลื่อน และตั้งสมณศักดิ์