อย่าประมาท! ดร.ปลอดฯ แนะโลกร้อน อุทกภัยมีแต่รุนแรงขึ้น ไทยต้องคิดแบบมีองค์ความรู้

1 ธ.ค.2567-นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี” หัวข้อ “โลกร้อน อุทกภัยมีแต่รุนแรงขึ้น ไทยพร้อมหรือยัง” ระบุว่า  น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมาตลอดปี เริ่มจากแพร่ สุโขทัย แม่สาย เชียงราย เชียงใหม่ และสุดท้ายขณะนี้ที่ภาคใต้ตอนล่าง เป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมาย ฝนตกรุนแรงระหว่าง 200-500 มม. ตกยาวนานเป็นอาทิตย์และตกคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด ลักษณะฝนตกเช่นนี้เรียกว่า พายุฝนไม่ปกติ(Torrential Rain) ซึ่งเกิดจาก  (1) ลมหลายทิศทางมาปะทะกัน (2) อากาศมีความชื้นสูงมาก (3) มีความกดอากาศต่ำ(Low Pressure) หลายตำแหน่ง และ (4) ร่องฝนค่อนข้างเสถียร อยู่คงที่

ปัจจัยสำคัญเหล่านี้ไม่อาจเกิดพร้อมกันได้ ทั้งในมิติเวลาและสถานที่ นอกเสียจากมีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า เป็นตัวเหนี่ยวนำ คำตอบนั้นชัดเจนแล้ว ปรากฏการณ์“ โลกร้อน” ไงครับ

เมื่อธรรมชาติเปลี่ยน มนุษย์ก็ต้องเปลี่ยนตาม ไม่เช่นนั้น ตายแน่นอน  วิธีแก้ไขคือ หยุดข่มเหงธรรมชาติ หยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขณะเดียวกันต้องเพิ่มปริมาณต้นไม้ เพื่อเพิ่มขบวนการ Photosynthesis หรือการสังเคราะห์แสงของพืชสีเขียว

หน่วยราชการที่ทำแผนก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงาน อย่ายึดว่า รับผิดชอบแค่ไหนก็ทำแค่นั้น มีงบประมาณเท่านี้ก็ทำเท่านี้ และที่สำคัญคือ อย่าทำแผนแบบไม่มีเป้าหมาย ขาดยุทธศาสตร์ในเรื่องลดโลกร้อน ตลอดจนขาดการสร้างความยืดหยุ่นหรือ Resilience เช่น ดินโคลนถล่มทั้งอำเภอ หรือฝนตกทีเดียวน้ำท่วม 4 จังหวัดพร้อมๆกัน เป็นต้น

ผมประชุมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวกับน้ำบ่อยครั้ง มีความรู้สึกว่า มีการทำงานแบบแยกส่วน หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Piecemeal คือ เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่ผสมผสานกัน เหมือนมี 5 นิ้วแต่เมื่อเอามารวมกันแทนที่จะเป็น“มือ” แต่ดันกลับเป็น“เท้า” ไปเสีย แถมบางครั้งยังพบว่า หน่วยงานทางด้านแผนยังมีCompetency หรือความเป็นมืออาชีพที่รู้จริงและน่าเชื่อถือไม่เพียงพอ ซึ่งคงต้องมีการปรับปรุงกันเป็นการใหญ่เสียแล้ว

สำหรับเรื่องการช่วยเหลือประชาชนและการเผชิญเหตุนั้น ผมคิดว่า เราต้องกลับมาคิดเรื่องDepot หรือคลังอุปกรณ์เผชิญเหตุอีกครั้ง ที่จริงเรื่องนี้ผมเป็นคนเริ่มกับท่านยงยุทธในขณะเป็นรมต. มหาดไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพราะน้ำท่วมคราวนี้ เราเสียเวลาไปมากในการจัดหาและเคลื่อนย้ายอุปกรณ์เผชิญเหตุที่สำคัญและจำเป็น ทำให้การช่วยเหลือราษฎรทำได้ไม่ทันท่วงที หลายจุดกำลังพลไปถึงแล้วแต่ไม่มีเครื่องมือให้ใช้ ไม่สมกับที่เป็นแผนเผชิญเหตุ (Search and Rescue) แถมงบประมาณก็ยังได้ช้าไม่ทันการณ์เนื่องจากมีสารพัดระเบียบของราชการ ซึ่งควรปรับปรุงอย่างยิ่ง

เราอยู่ในยุคโลกร้อน และก็อาจจะอยู่ไปเป็นเวลาร้อยๆปีก็ได้ สิ่งที่จะ เกิดกับประเทศไทยและคนไทยจะมีแต่มากยิ่งขึ้น รุนแรงขึ้น ดังนั้น จึงอย่าประมาทและต้องอยู่และคิดแบบมีองค์ความรู้ด้วย (Knowledge based) จึงจะเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธปท.-สมาคมแบงก์ออกมาตรการเพิ่มเติม ช่วยลูกหนี้น้ำท่วมใต้

‘ธปท.’ และ ‘สมาคมธนาคารไทย’ ร่วมผลักดันมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ชูพักชำระเงินต้น-ยกเว้นดอกเบี้ย ไม่เกิน 12 เดือน ในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง (ระดับ4)

ประกาศฉบับ 26 เตือน 7 จ.ใต้ ฝนตกหนักมาก เรือเล็กงดออกฝั่ง

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2568) ฉบับที่ 26 โดยมีใจความว่า

อุตุฯ เตือนอากาศเย็นลมแรง อุณหภูมิลด 1-2 องศา ใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

’สิริพงศ์‘ เผยโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมใต้แล้วกว่า 1.07 ล้านครัวเรือน

โฆษกรัฐบาลระบุ ปภ.ร่วมธนาคารออมสิน โอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้แล้ว 11 ครั้ง ครอบคลุม 9 จังหวัด รวมกว่า 9.6 พันล้านบาท อยู่ระหว่างเร่งจ่ายส่วนที่โอนยังไม่สำเร็จ

อุตุฯ ประกาศฉบับ 15 เตือนฝนถล่ม 14 จังหวัดใต้ รับมือน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย" (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 12-16 ธันวาคม 2568) ฉบับที่ 15 มีใจความว่า

อุตุฯ เตือนอากาศเย็น ยอดดอยหนาว ฝนฟ้าคะนอง ใต้ตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี