นายกฯ ชื่นชม พม.ดูแลคนพิการ ตั้งเป้าปี 65 เน้นปฏิรูป จัดครอบครัวอุปการะ

นายกฯ ชื่นชม พม. เดินหน้าดูแลผู้พิการตามนโยบาย”ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ตั้งเป้าปี65 ปีแห่งการ “ปฏิรูปงานด้านคนพิการ" จัดครอบครัวอุปการะดูแลผู้พิการขาดคนดูแล พบมากขึ้นจากเหตุโควิด

31 ม.ค.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีถึงการขับเคลื่อนการดูแลกลุ่มคนพิการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย ”ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของรัฐบาล โดยกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ได้ตั้งเป้าให้ปี 2565 นี้ เป็นปีแห่งการ “ปฏิรูปงานด้านคนพิการ” ตั้งแต่การค้นหาคนพิการเชิงรุกตามชุมชน นำผู้ตกหล่นมาขึ้นทะเบียนคนพิการ เพื่อรับสิทธิ สวัสดิการ และการคุ้มครองต่างๆ ขยายพื้นที่โรงพยาบาลให้สามารถตรวจรับรอง และออกบัตรคนพิการจบในที่เดียวครบทั้ง 77 จังหวัด ภายในเดือนสิงหาคม 2566 จากปัจจุบันที่ทำได้แล้วใน 40 จังหวัด

ที่สำคัญ คือ เตรียมแก้ พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยจะปรับเกณฑ์พิจารณาการออกบัตรคนพิการให้ชัดเจนและง่ายขึ้น ขณะเดียวกันจะปฏิรูปบัตรคนพิการ ให้เป็นบัตรคนพิการดิจิทัลผ่านแอพพลิเคชั่น บัตรคนพิการ-PWD ซึ่งสามารถใช้แทนบัตรคนพิการได้เลย ภายในบัตรระบุข้อมูลสิทธิและสวัสดิการที่ได้ เชื่อมโยงข้อมูลกับตลาดงานคนพิการ กู้ยืมเงินออนไลน์ ตลอดจนมีการชี้เป้าหน่วยงานช่วยเหลือคนพิการที่ใกล้ที่สุดผ่านกูเกิ้ลแมป แต่ส่วนคนพิการที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ยังสามารถใช้บัตรคนพิการได้ปกติ

รองโฆษกฯกล่าวว่า ยิ่งไปกว่านั้น กระทรวงพัฒนาสังคมฯจะมุ่งฝึกอาชีพใหม่ และอาชีพเก่าที่ยั่งยืนสำหรับผู้พิการ ซึ่งเป็นล้วนเป็นอาชีพที่เคลื่อนไหวออกจากที่พักอาศัยน้อย เช่น อาชีพที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี วิเคราะห์และจัดการข้อมูล ขายของออนไลน์ เกษตรกรรม เป็นต้น โดยเป็นความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนอย่างครบวงจร ตั้งแต่สนับสนุนองค์ความรู้ สร้างมูลค่าเพิ่มและคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ เพิ่มช่องทางตลาด ทั้งนี้ เพื่อให้คนพิการสามารถพึ่งพิงตัวเองได้ จากการมีอาชีพและรายได้ และสามารถเป็นที่พึ่งแก่ครอบครัวต่อไป

รองโฆษกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลผู้พิการที่ขาดคนดูแล เนื่องด้วยผู้ดูแลเสียชีวิต และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พบว่ามีผู้ดูแลผู้พิการเสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้พิการเดือดร้อนมากขึ้นอีก ทางกระทรวง พม. จึงได้ริเริ่มโครงการจัดหาครอบครัวอุปการะ เพื่อเป็นครอบครัวทดแทนให้คนพิการที่ไม่มีใครดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในชุมชนที่คุ้นเคย ทั้งนี้ จะทดลองทำในคนพิการที่ไม่มีผู้ดูแล หรือเด็กพิการในสถานสงเคราะห์ ที่ไม่สามารถตามหาพ่อแม่เจอแล้ว ประมาณ 100 คน ขณะที่ครอบครัวอุปการะจะได้เงินตอบแทนจากรัฐ เช่น เงินค่าดูแล 3 พันบาทต่อคนต่อเดือน ค่าอุปโภคบริโภคและค่าอุปกรณ์ เป็นต้น และมีการติดตามทุกเดือน

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการดูแลคนไทยทุกคน โดยหวังสร้างสังคมไทยให้เป็น “สังคมแห่งโอกาส” โดยเฉพาะให้ผู้พิการเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และการได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุก ๆ ด้านไปพร้อมกัน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และมีส่วนร่วมนำการเปลี่ยนแปลงสู่โลกใหม่หลังโควิด - 19 อย่างยั่งยืน 
ทั้งนื้ ประชาชนยังสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ โดยหากพบเห็นผู้ที่เดือดร้อน มีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หรือโทรแจ้งขอความช่วยเหลือมาได้ที่ สายด่วน พม. โทร 1300. ตลอด 24 ชั่วโมง” นางสาวรัชดา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ร่วมผู้นำ 17 ประเทศ แถลงเรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "วันนี้ ผมร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศที่มีตัวประกันที่ยังอยู่ในกาซา ออกถ้อยแถลงร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด

แฉเล่ห์ 'พท.' วางยาแก้ รธน. ล็อกคำถามประชามติครั้งแรก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคเพื่อไทยจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่

รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร

รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย