โฆษกดีเอสไอ เผย พร้อมสอบปากคำ 51 วิศวกร ปมมีชื่อเกี่ยวข้องคุมงานก่อสร้างตึก สตง. หลังก่อนหน้านี้ “ชัยฤทธิ์” - “สมเกียรติ” 2 วิศวกรเข้าแสดงตนปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง ขณะที่สัปดาห์หน้า เชิญ บ.อิตาเลียนไทย - พิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี เข้าให้ข้อมูล หลังเลื่อนนัดพบพนักงานสอบสวน
18 เมษายน 2568 - ที่บริเวณหน้าห้องประชุม กคร. หรือกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (กองคดีฮั้วประมูล) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคารเอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ และในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 คดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ว่า จากการที่ดีเอสไอได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 แห่งเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา เราได้มีการตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าในเครื่องมีพยานหลักฐานใดบ้าง และยังได้ยึดพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการก่อสร้าง นอกจากนี้ ห้องประชุม กคร. ดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายยังทำให้พนักงานสอบสวนพบข้อมูลเกี่ยวกับ 51 วิศวกร ซึ่งดีเอสไอจะต้องมีการทยอยเชิญทั้ง 51 วิศวกรเข้าให้ข้อมูลในฐานะพยาน เพื่อขอข้อมูลข้อเท็จจริงนำไปประกอบการดำเนินการกิจการ โดยเฉพาะประเด็นของการควบคุมงาน
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า สำหรับวิศวกรทั้ง 51 รายที่ดีเอสไอพบว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับตึก สตง.นั้น ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีการ 2 วิศวกร ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลก่อนหน้านี้แล้ว ได้แก่ 1.นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และ 2.นายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) ส่วนอีก 2 วิศวกรที่ประสานขอเข้าพบพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลในวันนี้ ตนยังไม่ได้รับรายงานยืนยัน แต่ได้มีนายชัยฤทธิ์ เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเขายอมรับว่ามีตัวเขาปรากฏอยู่ในรูปภาพจริง ๆ ทั้งนี้ ดีเอสไอจะต้องเชิญวิศวกรทั้ง 51 รายเข้าให้ปากคำพยานแน่นอน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการควบคุมงานจริงหรือไม่ มีใครเป็นวิศวกรในโครงการนี้จริงบ้าง แล้วจึงจะขยายผลไปได้ว่ามีการปลอมลายเซ็นหรือไม่ กระบวนการทำงานถูกต้องหรือไม่
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของนายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปีที่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร สตง.นั้น วานนี้ (17 เม.ย.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ไปพบเจ้าตัวแล้ว และพบว่ามีอาการป่วยจริง โดยเจ้าตัวยังได้ขอเวลาในการเตรียมเอกสารมาให้การ คาดว่าจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า
พ.ต.ต.วรณัน ยืนยันว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่แจ้งขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน หรือกรณีของนายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำตารางนัดหมายพยานไว้เรียบร้อยแล้ว หรือหากตำรวจ สน.บางซื่อ มีการเรียกสอบปากคำนายปฏิวัติ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ดีเอสไอก็อาจไปร่วมสอบปากคำด้วยได้
สำหรับภาพรวมคดีนอมินีขณะนี้ มีความคืบหน้าไปกว่า 50% แล้ว และหลังจากนี้เป็นกระบวนการพิจารณาว่าหลักฐานมีความเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลใดหรือไม่ ส่วนคดีที่ทำคู่ขนานก็จะมีทั้งคดีการฮั้วประมูล (มาตรา 7 และมาตรา 8) ซึ่งได้ขยายผลออกมา โดยองค์ประกอบความผิดคดีฮั้วประมูลมีหลายเรื่อง เช่น การที่ทำให้การแข่งขันราคาไม่เป็นธรรมโดยใช้กลอุบายไปฟันราคา เพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาแล้วไปลดค่างานหรือการดำเนินการอย่างอื่นเพื่อลดค่าใช้จ่าย ก็เข้าข้อกฎหมายนี้ได้เหมือนกัน
นอกจากนี้ ยังมีคดีเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เหล็กเส้นที่ตกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานผลิตภันฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ สมอ. ที่หากพบความผิด เจ้าหน้าที่ สมอ. ก็จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นอีก 1 คดี และคดีสุดท้ายที่ดีเอสไอตรวจสอบ คือ กรณีบริษัทที่ขายเหล็กให้กับโครงการก่อสร้างมีการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารภาษีที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ พ.ต.ต.วรณัน ยังยืนยันด้วยว่าไม่กังวล แม้จะมีกระแสข่าวว่าคนที่แก้ไขแบบอาคาร สตง. มีความเกี่ยวข้องกับผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. โดยบอกว่าเรื่องนี้สปอร์ตไลท์ของสังคมค่อนข้างเยอะ ไม่น่าจะมีปัญหา และดีเอสไอรับคดีขนาดใหญ่ ทำงานเป็นรูปแบบคณะกรรมการ เรื่องนี้จึงไม่เป็นประเด็น
ขณะที่ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล เผยว่า วันนี้ตนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ตรวจสอบเอกสาร เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงภาพรวมทั้งหมด และดูว่าเอกสารที่ดีเอสไอได้ตรวจยึดมาจากพื้นที่เป้าหมายทั้ง 4 จุดนั้น เอกสารใดคือเอกสารสำคัญบ้าง เพื่อใช้ดำเนินการในส่วนต่อไปได้ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบพยานเอกสาร ทั้งนี้ ตนเรียนว่ามันต้องดูรายละเอียดทุกอย่าง จึงจะรู้ว่าใครเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันจันทร์ที่ 21 เม.ย.นี้ นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อาจเดินทางมาร่วมประชุมหารือกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยเฉพาะประเด็นพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมก่อสร้างอาคารตึก สตง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ
รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน
จ่อฟันซ้ำ! 'ผบ.คุก - 19 ผู้คุม' พักราชการ-ให้ออกไว้ก่อน
'โฆษกกรมราชทัณฑ์' เผยอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 'ผบ.เรือนจำฯ-จนท.' รวม 20 ราย ส่อ 'พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ 'ดีเอสไอ' ลุยสอบปากคำเก็บหลักฐานมัดผิด
รมว.ยุติธรรม ตั้งดีเอสไอ ร่วมสืบสวนคดีคุก VIP เอื้อนักโทษจีนเทา มีนางแบบจีนส่งถึงที่
"รมว.ยุติธรรม" ลั่นไม่ปล่อยผ่าน ผู้คุมเรือนจำพิเศษเอื้อประโยชน์จีนเทา พบหลักฐานชัดผู้คุม 7 นายพานางแบบจีน 2 คนเข้า “ห้องดัดแปลง” กลางวันแสกๆ เผยสามารถกู้ภาพวงจรปิดได้บางส่วนหลังถูกมือมืดลบข้อมูล จับภาพนักโทษจีนเทาเดินเพ่นพ่านในพื้นที่ต้องห้าม ส่วนผู้ต้องขังจีนเทา 2 รายถูกย้ายทันที เผยพรุ่งนี้เตรียมบุกเข้าเรือนจำตรวจข้อเท็จจริง
สอบครอบครัว‘ก๊กอาน’ ลูก3คนพันสแกมเมอร์
"ดีเอสไอ" ประสานข้อมูล “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ลุยตรวจสอบ "5 ธุรกิจในไทย"
'ดีเอสไอ' ลุยสอบ '5 ธุรกิจในไทย' ครอบครัวก๊ก อาน พัวพันกาสิโน ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์
“ดีเอสไอ" ประสานข้อมูล “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ลุยตรวจสอบ ”5 ธุรกิจในไทย“ ครอบครัวก๊กอาน เบื้องต้นพบ “ลูก 3 คน” นั่งกรรมการบริหารด้วยตัวเอง หลัง ”กรมการปกครอง“ เพิกถอนสัญชาติไทย "ก๊กอานและบุตร 3 คน"


