ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ โพสต์ข้อมูลจากงานวิจัยเด็กไทยอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี พบส่วนใหญ่ ติดเชื้อโควิดตามธรรมชาติแล้ว โดยไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย พร้อมตรวจพบภูมิคุ้มกันต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แม้ไม่เคยได้รับวัคซีน ระบุชัด “วัคซีนอาจไม่มีความจำเป็นในเด็กเล็กที่แข็งแรง”
3 พฤษภาคม 2568 - นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ด็กเล็ก ส่วนใหญ่ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว และมีภูมิต้านทานแล้วตั้งแต่วัยเด็ก วัคซีนมีความจำเป็นหรือไม่" มีรายละเอียดดังนี้ การศึกษาการติดเชื้อ และภูมิต้านทาน ในวัยเด็กไทย อายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี (น้อยกว่า 5 ปี) มีข้อมูลที่น่าสนใจมาก วัคซีนอาจไม่มีความจำเป็น
จากข้อมูลทำการศึกษา ในเด็กปกติแข็งแรง อายุ 6 เดือนถึง 4 ปี จำนวน 830 คน เป็นกลุ่มจำนวนขนาดใหญ่ ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ 2567 หรือปีที่แล้ว ใน 4 จังหวัดคืออยุธยา อุตรดิตถ์ บุรีรัมย์ และตรัง จะเห็นว่าการติดเชื้อในเด็กเกิดขึ้นเร็วมากในปีแรก พบว่าการติดเชื้อไปแล้ว 80% และเมื่ออายุ 3 ถึง 4 ปี ส่วนใหญ่จะติดเชื้อหมดแล้ว โดยจากประวัติ จะมีอาการน้อยมาก และมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น
เด็กกลุ่มนี้เกือบทั้งหมดไม่เคยได้รับวัคซีน เราตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดแล้ว (anti-N positive) และที่น่าสนใจเมื่อตรวจภูมิต้านทานต่อไวรัสสายพันธุ์ JN.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ล่าสุดในช่วงนั้น พบว่ามีภูมิ neutralizing แล้ว และภูมิต้านทานนี้ ยังสามารถข้ามไปยังสายพันธุ์ดั้งเดิม Wuhan แต่ระดับต่ำกว่า อย่างมีนัยยะสำคัญ
ไวรัสโควิด 19 ขณะนี้กลายพันธุ์ ไม่พบ JN.1 แล้ว ไปจนถึงตัว L แล้ว บ้านเราที่พบ เป็นสายพันธุ์ XEC ที่ค่อนข้างเด่น วัคซีนที่มีขายในบ้านเรายังเป็นสายพันธุ์ JN.1
จากข้อมูลการศึกษาของเรา แสดงให้เห็นว่าเด็กเล็ก ที่ปกติแข็งแรง ส่วนใหญ่จะติดเชื้อ โควิด 19 ตามธรรมชาติ แล้ว และมีอาการน้อยมาก หรือไม่มีอาการ ทั้งที่ไม่เคยได้รับวัคซีนเลย
จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าไวรัสนี้ ได้พัฒนาเป็นไวรัสโรคทางเดินหายใจ ที่แพร่กระจายได้ง่ายมาก เด็กเล็กส่วนใหญ่จึงติดไปแล้ว และมีภูมิต้านทานธรรมชาติเกิดขึ้น ส่วนในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน ส่วนใหญ่ก็ได้รับภูมิต้านทานจากมารดา การศึกษานี้จึงทำการศึกษาตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
จึงไม่มีความจำเป็นในการให้วัคซีนในเด็กเล็กไทย ที่ปกติแข็งแรง เพราะส่วนใหญ่จะติดเชื้อในธรรมชาติอยู่แล้ว โดยเป็นการติดเชื้อแบบไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ภายใน 1-2 ปีแรก เช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ
รายละเอียดดูได้จากรูป ที่แสดง
การศึกษานี้ได้รับทุนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สวรส เป็นงานวิจัยที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ที่ยังไม่มีการศึกษามาก่อน ส่วนในเด็กโตและผู้ใหญ่ จะมีการนำมาเล่าให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง มีหลายเรื่องที่น่าสนใจมากโดยเฉพาะ imprint immunity
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' เตือน RSV กำลังระบาดหนัก ทิ้งท้ายปลายฤดู
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า RSV กำลังระบาดอย่างมากทิ้งท้ายปลายฤดู
'หมอยง' แจงยังไม่มีผลวิจัยเพียงพอให้ 'ผู้สูงอายุ' ฉีดวัคซีนไข้เลือดออก
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่องวัคซีนไข้เลือดออก (ตอนที่ 5)
'หมอยง' เปิดข้อมูล 'ไข้เลือดออก' ก่อนตัดสินใจฉีดวัคซีน
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง "วัคซีนไข้เลือดออก" โดยระบุว่า
‘สมศักดิ์-สธ.’ หนุนทหารชายแดน ส่งวัคซีน พร้อมดูแลจิตใจประชาชน
นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากบัญชาของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้
เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง BDMS ส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืน เปิดตัวแคมเปญ “BDMS PREVENTIVE VACCINE” มอบสิทธิ์ฉีดวัคซีนราคาพิเศษ สำหรับลูกค้าประกันสุขภาพ
เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมมือกับ BDMS เดินหน้าส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืนให้คนไทย เปิดตัว
‘หมอยง’ ชี้โควิดเปลี่ยนสายพันธุ์เร็ว ยากจะป้องกันการติดเชื้อด้วยวัคซีน-ภูมิคุ้มกันดั้งเดิม
โควิดไวรัส เป็นไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมและ เกิดความหลากหลายทางพันธุกรรมอย่างมากและรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด


