รัฐบาลปัดข่าวเลิก 30 บาทรักษาทุกที ยันเพิ่มงบ69 ให้ความสำคัญสุขภาพคนไทย

โฆษกรัฐบาล ปัดข่าวยกเลิก 30 บาทรักษาทุกที่ ยันนายกฯให้ความสำคัญอัดงบ 69 เพิ่มมากที่สุด เพื่อดูสุขภาพคนไทย

2 มิ.ย.2568-นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวว่าโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่จะขาดทุนภายใน 3 ปีและจะยกเลิกนั้นเป็นเท็จ ขอเรียนว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ และปี 2569 นี้ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 265,295 ล้านบาท ให้แก่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงที่สุดเท่าที่เคยจัดสรรให้กับกองทุนบัตรทอง นับตั้งแต่มีการจัดตั้งโครงการฯมา ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ และรักษาพยาบาล ให้กับประชาชนหากไปทำกำไรคงเป็นเรื่องที่ประชาชนคงรับไม่ได้

ทั้งนี้ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เร่งผลักดันการใช้งบประมาณของกองทุนบัตรทองฯ ให้คุ้มค่า โปร่งใส และมีประสิทธิผล มุ่งยกระดับการบริการสาธารณสุขทุกมิติ เน้นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ อาทิ การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) รวมทั้งการเพิ่มรายการยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อนำยาที่มีคุณภาพสูงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่มาให้ประชาชนในการรักษาโรค พร้อมการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคในโครงการ คนไทยห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพื่อลดการเกิดโรคของประชาชนในระยะยาว

การจัดสรรงบประมาณในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการผลักดันนโยบายด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงหลัก ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียมตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ บวกกับการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อดูแลสุขภาพคนไทย นอกจากนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับภาคเอกชนไทย และบริษัท Seiko Instruments จากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีด้านทันตกรรม พัฒนาด้ามกรอทางทันตกรรมรุ่นใหม่ และจัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการนำเข้าด้ามกรอฟันของไทยที่มีมูลค่าสูงถึงปีละราว 3,000 ล้านบาท แต่ยังส่งเสริมการจ้างงานภายในประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเทคโนโลยีทางการแพทย์ไทยในตลาดโลกอีกด้วย

”ไม่ต้องกังวลบัตร30 บาทมีแต่จะเพิ่มการดูแลในทุกมิติ ไม่มีลดเด็ดขาด รัฐบาลสนับสนุนนโยบายด้านสุขภาพ โดยจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2569 ได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น และปรับเพิ่มขึ้นทุกรายการ เพื่อให้ครอบคลุมสุขภาพของคนไทย และสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง ตั้งแต่ระดับพื้นฐานขึ้นจนถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงได้ รวมทั้งการสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ได้เอง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนอย่างแท้จริง”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รัฐบาลอิ๊งค์' ตีปี๊บ! ยังอยู่ถึง ก.ย. แถลงผลงาน 1 ปี

'หมอมิ้ง' เผยรัฐบาลเตรียมแถลงผลงาน 1 ปี ก.ย.นี้ ปรับวิธีสื่อสาร อ้างทำงานเพียบแต่บกพร่องอธิบายไม่เยอะ พร้อมเดินหน้าตีปี๊บเอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ใช่กาสิโน

ออกไป! 'จตุพร' ปลุกขจัด 'สทร.' ไล่นายกฯ 'ตระกูลชิน' พ้นแผ่นดินไทย

'จตุพร' เปิดภารกิจประชาชน ร่วมเอานายกฯ ตระกูลชินออกจากแผ่นดินไทย ขจัด 'สทร.' ลุอำนาจ ลั่นบ้านเมืองปกครองด้วยระบบ 'เสือกเป็นใหญ่' ไม่ได้

รัฐบาลเดินหน้ากวาดล้าง 'เยลลี่กัญชา' ผิดกม. ย้ำกัญชาใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น

รัฐบาลขอยืนยันจุดยืนในการควบคุมการใช้กัญชาอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์กัญชาที่ผิดกฎหมายสร้างความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชน

ขวางชักศึกเข้าบ้าน! เปิดทางตั้งฐานทัพอเมริกาในไทย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ต่อต้านฐานทัพต่างชาติ

'สุริยะใส' ชี้ 'จุดอันตราย' ภาษีทรัมป์ ต้องช่วยกันจับตา

“สุริยะใส” ชี้ช่วงอันอันตรายภาษีทรัมป์ 36 % ที่ต้องช่วยกันจับตาให้มากที่สุด  ถือเป็น“เจรจารอบสุดท้าย” ระหว่างรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯ ที่ไม่รู้ว่าถูก “บีบให้ยอม” อะไรบ้างเพื่อแลกกับการเลื่อนหรือผ่อนปรนภาษีนี้