ตำรวจชี้เป้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 50 จุด ให้กัมพูชาจัดการ

ตำรวจไทยเตรียมส่ง 50 กว่าเป้าหมายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดำเนินการกวาดล้าง เผยกัมพูชากลัวที่สุดคือถูกเปิดเผยความลับเป็นฐานคอลเซ็นเตอร์

11 กันยายน 2568 - พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) เปิดเผยถึงการปราบปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตนพูดคุยกับทางกัมพูชาต่อเนื่องจากการประชุมเจบีซี เบื้องต้นนัดกันไว้วันที่ 16 ก.ย.นี้ ที่จ.สระแก้ว โดยทางกัมพูชาจะส่งตัวแทนจากกัมพูชามาเข้าร่วมพูดคุย สิ่งที่เราจะทำคือเอาเป้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 50 กว่าแห่งให้ทางกัมพูชาไปดำเนินการ ซึ่งกัมพูชาต้องไปสำรวจเป้าที่เราให้ไปมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ถ้ามีก็ต้องดำเนินการจับกุมไม่ให้มาหลอกคนไทยได้อีก โดยทั้ง 2 ประเทศมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันในการติดตามเรื่องนี้

เมื่อถามว่ามีความมั่นใจได้หรือไม่ว่าทางกัมพูชาจะดำเนินการให้ตามที่ส่งเป้าหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัย เผยว่า เราพิสูจน์ได้ ถ้าเป้าที่ให้ไปแล้วยังมีการมาหลอกคนไทยอยู่แปลว่ากัมพูชาไม่จริงจังในสิ่งที่พูดกันไว้ และจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการแซงชั่นหรือดำเนินการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ถามต่อว่าหากเอาข้อมูลไปให้แล้วกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามจะเป็นการเอาความลับไปเปิดเผยกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ จเรตำรวจ ตอบว่าสิ่งที่กัมพูชากลัวที่สุดคือการเปิดเผยความลับว่าเขาเป็นประเทศที่มีแก๊งคอลเซนเตอร์ตั้งอยู่จำนวนมาก ซึ่งผมเองยังไม่เห็นเขายอมรับว่ามีแก๊งคอเซ็นเตอร์ในประเทศ การที่เราเปิดเผยข้อเท็จจริงออกไปให้กัมพูชาที่เป็นพื้นที่อำนาจอธิปไตยของกัมพูชา เขามีหน้าที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องดำเนินการ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของอินเตอร์โพลต้องดำเนินการตามรูปแบบนั้นอยู่แล้ว

จเรตำรวจเผยต่อว่า ในกรณีอย่างนี้เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอน ถึงแม้ไม่มีเจบีซีเราก็จะมีการส่งเรื่องนี้ไปอินเตอร์โพลส่งต่อให้ทางกัมพูชาดำเนินการอยู่แล้ว ถ้ากัมพูชาไม่ดำเนินการก็ต้องมีมาตรการต่างๆตามมาแน่นอน ถึงตอนนี้ไม่มีอะไรบิดบังต้องพูดคุยกันอย่างเปิดเผยบนโต๊ะ ถ้ายังมีการดำเนินการอยู่เชื่อว่าผู้บัญชาการระดับสูงระดับประเทศต้องตัดสินใจในการใช้มาตรการกับกัมพูชา

“ลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปัจจุบันตั้งแต่เราเข้มงวดเรื่องเสาสัญญานตามชายแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ขยายไปดำเนินการแถวชายแดนเวียดนามซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการไปพูดคุยกับประเทศเวียดนามบ้างแล้ว พบว่าแก๊งคนร้ายได้ใช้ซิมบล๊อดมากขึ้นในการหลอกลวงคนไทยไม่ใช่อยู่ตามตัวอาคารเหมือนแต่ก่อน เราได้พยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด” พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง

เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี

เสธ ทบ. เผยพบร่างทหาร 2 นาย เหตุปะทะพื้นที่ปราสาทตาควาย 'เนิน 350' แล้ว

พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการปะทะในพื้นที่ปราสาทตาควาย และบริเวณเนิน 350 จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนั

โคราชเดือด! ถล่มยิงเป้าผู้นำเขมร

สโมสรกีฬายิงธนูโคราชเปลี่ยนเป้าซ้อมเป็นรูปผู้นำกัมพูชา ทั้งฮุน เซน–ฮุน มาเนต รวมถึงโฆษกกองทัพและอินฟลูเอนเซอร์เขมร ลูกค้าแห่ทดลองยิง ระบุเป็นกิจกรรมผ่อน

เตือนภัย 'สแกมเมอร์' พุ่งเป้าข้าราชการบำนาญ หลอกอัปเดตสิทธิ ติดตั้งแอปดูดเงิน

ตำรวจเตือนข้าราชการบำนาญและผู้สูงอายุ ระวังมิจฉาชีพโทรอ้างหน่วยงานรัฐ หลอกอัปเดตข้อมูลรับสิทธิ ก่อนส่ง

ทัพเรือเผยเหตุเขมรบุกหนัก เคยใช้สไนป์เปอร์ลอบยิง ผบ.หน่วย ก่อนเปิดฉากรบ

โฆษกกองทัพเรือเปิดเผย ช่วงก่อนการโจมตีบ้านเรือน 3 หลัง ฝ่ายกัมพูชามีความพยายามยั่วยุหลายครั้ง รวมถึงเหตุใช้พลซุ่มยิงลอบยิงผู้บังคับหน่วยระดับผู้นำ ก่อนสถานการณ์พัฒนาไปสู่การสู้รบ