
21 ก.ย. 2568 – “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “หัวอกประชาชนกับบัญชีม้า” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,154 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2568 พบว่า จากข่าวบัญชีม้าในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างรู้สึกกังวลมาก ร้อยละ 38.30 ว่าบัญชีตัวเองอาจถูกอายัดโดยไม่รู้ตัว โดยปรับพฤติกรรมตนเองด้วยการตรวจสอบธุรกรรมบ่อยขึ้น ร้อยละ 57.89 ทั้งนี้เชื่อมั่นต่อธนาคารและหน่วยงานรัฐในการปกป้องผู้บริสุทธิ์จากผลกระทบบัญชีม้า ร้อยละ 61.87 โดยบทเรียนหรือข้อคิดจากข่าวบัญชีม้า คือ ทำให้ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องและตรวจสอบธุรกรรมของตนเองบ่อยขึ้น ร้อยละ 66.98 รองลงมาคือ ระวังไม่ให้หลงเชื่อคนแปลกหน้าที่ติดต่อมาขอใช้บัญชี ร้อยละ 56.41 ในภาพรวมรู้สึกเชื่อมั่นต่อรัฐบาลนายอนุทิน ในการจะเข้ามาแก้ปัญหาบัญชีม้า ร้อยละ 64.04
ดร.พรพรรณ บัวทอง ระบุว่า จากข่าวบัญชีม้า แม้ประชาชนจะมีความกังวลสูง แต่ก็เลือกที่จะ “ปรับตัวเชิงรุก” ด้วยการตรวจสอบธุรกรรมบ่อยครั้งและระมัดระวังการโอนเงินมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยัง “ฝากความหวัง” ไว้กับสถาบันการเงินและรัฐบาลอนุทินในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยตัวเลขความเชื่อมั่นที่ออกมาค่อนข้างสูง ทำให้ต้องจับตามองว่ารัฐบาลจะสามารถฟื้นความมั่นใจและตอบโจทย์ความกังวลของประชาชนได้หรือไม่
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อัญชลี รัตนะ ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่าปัจจุบัน “บัญชีม้า” ได้กลายเป็นหนึ่งในปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่แพร่หลายอย่างมากในประเทศไทย นับตั้งแต่การระบาดของโรคอุบัติใหม่โควิด-19 เนื่องจากการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชนมากขึ้น การเปิดบัญชีม้าได้กลายเป็นกลไกสำคัญที่เอื้อให้อาชญากรรมทางการเงินแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ส่งผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลและระบบเศรษฐกิจโดยรวม การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในด้านกฎหมายที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้รัดกุมและทันสมัย ในด้านเทคโนโลยี ภาครัฐต้องเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการตรวจสอบและติดตามให้มีความรัดกุม ฉับไว สามารถจำแนกผู้กระทำผิดและผู้เสียหายได้ชัดเจน และการให้ความรู้ การสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพและตระหนักถึงความผิดทางกฎหมายที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคน ทุกหน่วยงานสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของรูปแบบอาชญากรรมในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างความปลอดภัยทางการเงินให้กับประชาชนและประเทศได้ในระยะยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81
รัฐบาลเตรียมออกพระราชกำหนด ตอบโต้สแกมเมอร์ คุมซิมบ็อกซ์-บัญชีม้า
“ไชยชนก” เตรียมออก พรก. ใช้เป็นเครื่องมือปราบสแกมเมอร์ ย้ำ เดินหน้าหลายมาตรการ ทั้งจำกัดซิมการ์ด-เพิ่มขั้นตอนเปิดบัญชีธนาคาร เล็งคุยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาวิธีป้องกันใช้ซิมบ๊อกซ์ ส่วนบัญชีม้าหากพบคนเดิมทำผิดซ้ำในช่วง 3 ปี จ่อห้ามเปิดบัญชีตลอดชีพ ขณะที่ ”ผบ.ตร.“
นายกฯ กำชับ ปปง. ปราบสแกมเมอร์เฉียบขาด 'ฉัตรชัย' ชงขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม
นายกฯ มอบนโยบาย ปปง. ชี้สังคมสนใจภารกิจปราบสแกมเมอร์ ลั่นหากไม่เฉียบขาดโดนตราหน้าไม่มีผลงาน -นานาชาติคว่ำบาตร ‘ฉัตรชัย’ ขอสนับสนุนเอไอสู้อาชญากรรม โวจัดการแล้ว 8 แสนบัญชีม้า
ดุสิตโพลชี้ภาพรวมคนไทยเฝ้าดูแต่ยังไม่มั่นใจต่อการเมืองไทย
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,126 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนตุลาคม 2568 เฉลี่ย 4.02 คะแนน เท่ากับเดือนกันยายน 2568 ที่ได้ 4.02 คะแนน
ไม่เอาไว้ ผบ.ตร.สั่งลงดาบรองผู้กำกับการ สน.ดอนเมืองพันบัญชีม้า!
ผบ.ตร.ย้ำเด็ดขาดไม่เอาไว้ ตัดนิ้วร้าย 'รองผู้กำกับการ' พัวพันบัญชีม้า พร้อมสั่งขยายผลคดีถึงที่สุด
โพลชี้ประชาชนชอบ 'คนละครึ่ง'
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับนโยบายลดค่าครองชีพ” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,216 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เข้าร่วมโครงการของภาครัฐที่ช่วยลดภาระค่าครองชีพ คือ คนละครึ่ง

