ฉก.นย.จันทบุรี สร้างถนนเลียบชายแดนไทย-กัมพูชาเร่งด่วน 15 กม. ส่งกำลังบำรุง พบวัตถุระเบิด-ทุ่นระเบิด อื้อ คงเหลือระยะทางจริงอีก 4 กิโลเมตร หรือร้อยละ 26% ของการสร้างถนน
30 กันยายน 2568 - หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) ได้ดำเนินการทำถนนเลียบแนวชายแดนเป็นการเร่งด่วนระยะทาง 15 กิโลเมตร เพื่อเป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงและลาดตระเวน ในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันการละเมิดอธิปไตย และดำเนินการแก้ไขลักษณะภูมิประเทศรูปตัวยู ( U ) ให้กลับสู่สภาพเดิม โดยได้ดำเนินการตั้งแต่ วันที่ 15 ก.ย.2568 - 29 ก.ย.2568 เริ่มตั้งแต่
วันที่ 15 ก.ย.68 จัดตั้งกองอำนวยการ
วันที่ 16 ก.ย. 68 เริ่มดำเนินการเปิดเส้นทาง ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร
วันที่ 17 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 2.7 กิโลเมตร
วันที่ 18 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 3 กิโลเมตร
วันที่ 19 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 900 เมตร
วันที่ 20 ก.ย.68 ดำเนินการได้ระยะทาง 500 เมตร
วันที่ 21 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 400 เมตร
วันที่ 22 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 800 เมตร
วันที่ 23 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 900 เมตร
วันที่ 24 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 500 เมตร
วันที่ 25 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 500 เมตร
วันที่ 26 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 900 เมตร
วันที่ 27 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 300 เมตร
วันที่ 28 ก.ย. 68 ดำเนินการได้ระยะทาง 800 เมตร
โดยระหว่างการจัดสร้างถนน ได้ส่งช่างเข้าเคลียร์พื้นที่ตลอดแนวกระทั่ง ตรวจพบวัตถุระเบิดและทุ่นระเบิดในพื้นที่จำนวนมาก ประกอบด้วย
1.ส่วนหางของลูกระเบิดยิง จากปลย.AK 47 Type 67 (เบกาลอง) จำนวน 1 หาง
2.กระสุนปืน.ปรส. ขนาด 75 มม. จำนวน 58 นัด
3.ทุนสังหารบุคคล แบบกระโดดระเบิด Type 69 จำนวน 9 ทุ่น
4. ลูกกระสุนปืนใหญ่ ขนาด 120 มม.จำนวน 1 นัด
5.ทุ่นระเบิดดักรถถัง ระเบิดอยู่กับที่ Type 59 จำนวน 1 ทุ่น
6.ลูกยิงปืนคอ (ลย./ค.) ขนาด 81 มม. จำนวน 4 ลูก
7.ดินส่งจรวด PG 2 สภาพเก่า จำนวน 5 แท่ง
โดยชุดตรวจพิสูจน์ฯ ได้ทำการนิรภัย และเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ปลอดภัย เพื่อทำลายต่อไป ส่วนเส้นทางได้ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพพื้นที่ ที่เครื่องจักรสามารถดำเนินการได้ ยังคงเหลือระยะทางจริงอีก 4 กิโลเมตร หรือ ร้อยละ 26%
ทั้งนี้เส้นทางปรับเปลี่ยนไปตามสภาพพื้นที่ ที่เครื่องจักรสามารถดำเนินการได้ ยังคงเหลือระยะทางจริงอีก 4 กิโลเมตร หรือร้อยละ 26% ของการสร้างถนน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทัพใช้เวลา 15 วันปักหมุดชั่วคราวสร้างรั้วชายแดนไทย–กัมพูชา
เปิดแผน 5 ขั้นตอน สร้างรั้วชายแดนไทย–กัมพูชา หลักเขต 52–59 จันทบุรี-ตราด คาดใช้เวลา 15 วัน ร่วมปักหมุดชั่วคราว
ทบ. เผยคืบหน้าจัดสร้างบังเกอร์-หลุมหลบภัยประชาชน ภายใต้กองทุนหทัยทิพย์
ทบ.เร่งก่อสร้างหลุมหลบภัยและหลุมบุคคลคู่ สนับสนุน “กองทุนหทัยทิพย์”
TMAC-CMAC ลงพื้นที่หลักเขต 47 เดินหน้ากำหนดหมุดเก็บกู้ทุ่นระเบิด
TMAC–CMAC ลงพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมคณะ AOT หลังเห็นพ้องพื้นที่ปฏิบัติการร่วม บริเวณหลักเขตแดนที่ 47–48 ไทยขอสงวนสิทธิ์เก็บกู้ในเขตอธิปไตย 5 จุด พร้อมเร่งฝั่งกัมพูชากำหนดพื้นที่นำร่องเพิ่มเติม
เชลยศึกกัมพูชา ร้องขอรักษาฟันก่อนไทยปล่อยตัว 12 พ.ย.นี้
เปิดขั้นตอนส่งตัว 18 เชลยศึกกัมพูชา ฮา! ขอรักษาฟันก่อนกลับ ฝ่ายไทยแจ้งให้ไปทำที่บ้านตัวเอง
'ฮุนเซน' เตรียมเฮ! กองทัพปล่อยตัว 18 เชลยศึกกัมพูชา 12 พ.ย.นี้
กองทัพบก ได้ประสานไปยังกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กป.ชต.) ให้เตรียมความพร้อม สถานที่ ที่พัก เตรียมการปล่อยตัวเชลยศึก
'บิ๊กเล็ก' ชี้ปมปราสาทตาควาย หากเจรจาด้วยสันติวิธีไม่สำเร็จ อาจจำเป็นต้องใช้กำลัง
พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงปมปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ว่า ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และขอยืนยันอีกครั้งว่า ปราสาทตาควาย อยู่ในเขตอธิปไตยไทย

