'วิโรจน์' โดนชนอย่างจัง! สส.ปชป.ซัดไม่รู้จักกทม.ดีพอ แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร

แฟ้มภาพ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร

26 มี.ค.2565 - นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

ไม่รู้จักกทม.ดีพอ แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร?

เห็นคุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของพรรคก้าวไกล ออกมาประกาศทวงคืนสนามหลวง เพื่อจะนำให้มานั่งเล่นหมากรุก เปิดสภากาแฟ แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะมันเป็นการให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนที่รับข่าวสารเรื่องนี้

และก่อนที่คุณวิโรจน์จะทวง ‘สนามหลวง’ ควรจะศึกษาประวัติความเป็นมาให้แตกฉานเสียก่อน ต้องรู้ก่อนว่า ‘สนามหลวง’ มีความเป็นมาอย่างไร และปัจจุบันมีสถานะเป็นอย่างไร

‘สนามหลวง’ มีมาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดขอบเขตพระบรมมหาราชวังขึ้น และเว้นพื้นที่ที่มีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ระหว่างพระบรมมหาราชวังกับพระราชวังบวรสถานมงคล เพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์ชั้นสูง จนมาถึงปัจจุบันนี้

‘สนามหลวง’ ถูกจัดเป็น ‘โบราณสถาน’ โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน ‘สนามหลวง’ ที่มีพื้นที่ 74 ไร่ 63 วา เป็นโบราณสถานประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2520

และถือเป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น ที่ใช้ประโยชน์ในทางศิลปะ ประวัติศาสตร์ หรือโบราณคดี ทั้งนี้ ให้รวมถึงสถานที่ที่เป็นแหล่งโบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์ และอุทยานประวัติศาสตร์ด้วย

ส่วนที่คุณวิโรจน์บอกว่าประชาชนใช้ประโยชน์ไม่ได้นั้น ไม่แน่ใจว่าคุณวิโรจน์ตั้งใจให้คนเข้าใจผิด หรือไม่เคยเดินไปในบริเวณนั้นแต่แกล้งไม่เห็น เพราะเมื่อเดือนกันยายนปี 2563 กทม.โดยสำนักงานเขตพระนคร ได้มีการนำป้ายอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่ของประชาชน ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00น. ซึ่งเป็นการดำเนินการตามประกาศ กทม.เมื่อปี 2555 ที่อนุญาตให้ประชาชนสามารถเข้าไปออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ หรือมีกิจกรรมสันทนาการได้ตามเวลาที่กำหนด

แต่หากจะเข้าไปจัดกิจกรรมใดๆ ที่เป็นการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ยังจำเป็นต้องขออนุญาตจาก กทม. ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอนุญาตให้จัดกิจกรรมได้เพียง 4 กรณี คือ 1.จัดงานพระราชพิธี 2.จัดงานพิธี 3.จัดงานประจำปี และ 4.จัดงานหรือกิจกรรมของหน่วยงานราชการ

สรุปคือ ไม่ได้มีการห้ามแต่อย่างใด และที่ผ่านมาประชาชนยังใช้พื้นที่สนามหลวงมาได้โดยตลอด

ผมเห็นว่า คุณวิโรจน์เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่อยากขอแนะนำว่า การประกาศนโยบายอะไรควรต้องศึกษาสิ่งเหล่านั้นให้ตกผลึกก่อน ต้องรู้ลึก รู้จริง โดยเฉพาะ ‘สนามหลวง’ สถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพราะหากจะแก้ปัญหาให้คนกรุงได้เราจำเป็นต้องรู้ดีในเรื่องนั้น อย่าให้ใครมาว่าได้ว่า ยังไม่รู้จักกรุงเทพฯดีพอแล้วจะมาอาสาแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯได้อย่างไร หรือ จริงๆแล้วการออกมาจุดประเด็นเหล่านี้ มีหวังผลอะไรแอบแฝง ที่ทำให้คนไทยไม่สบายใจหรือไม่ ซึ่งผมในฐานะอดีตรองผู้ว่าฯกทม. และ นักการเมืองรุ่นพี่ ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเลย

#หยุดเล่นการเมืองหมิ่นเหม่ และ ชูนโยบายสร้างสรรค์เพื่อคนกรุงเทพเถอะครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รังสิมันต์'แนะ 3แนวทางแก้ปัญหาเมียนมา!

กมธ.ความมั่นคงเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องถกสถานการณ์เมียนมา 'โรม' ชี้ปัญหาในเมียนมาก็เป็นปัญหาของไทย เหตุคนหนีอพยพข้ามแดน ลั่นไทยอยู่ในฐานะที่น่าไว้วางใจที่สุด ควรเป็นตัวกลางในการเจรจา

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน

'ก้าวไกล' หนุนแก้กฎหมายสกัดรัฐประหาร ลั่นกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีข้อเสนอให้สภากลาโหมเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…)

‘วิโรจน์’ หนุน ‘สุทิน’ แก้กฎหมายกลาโหม สกัดรัฐประหาร ลั่นต้องทำให้ถึงแก่น

‘วิโรจน์’ เห็นด้วยในหลักการ หลัง ‘สุทิน‘ เสนอแก้ ’กฎหมายกลาโหม‘ สกัดรัฐประหาร แต่ต้องแก้ให้ถึงแก่น ไม่ใช่แค่ผิว ชี้ เป้าหมายสูงสุด คือทำให้กองทัพไม่อยู่ในฐานะรัฐอิสระ แนะ ควรปรับสัดส่วน ‘สภากลาโหม’ ให้เหลือแค่ 11 คน-มีทหารไม่เกินกึ่งหนึ่ง