สะพัดฝ่ายค้านเสียงแตก! เพื่อไทยบ้อท่าคุมไม่อยู่ สวิงโหวตรับร่างพรบ.งบฯปี 2566

1 มิ.ย. 2565 - รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 วงเงินกว่า 3.18 ล้านล้านบาท ที่ได้อภิปรายมาตั้งแต่วันที่ 31พ.ค.ต่อเนื่องวันที่ 1 มิ.ย. และจะสิ้นสุดในวันที่ 2 มิ.ย. โดยในวันสุดท้ายการอภิปราย ฝ่ายค้านจะมุ่งเน้นนำเสนอ ในหัวข้อ การจัดสรรงบประมาณที่เอื้อให้พวกพ้อง ส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ จากนั้นจะมีการลงมติในวาระที่ 1 ว่าจะรับหลักการหรือไม่รับหลักการ ตามกฎหมาย หากจะรับหลักการต้องใช้เสียงของส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้เกินกึ่งหนึ่ง ปัจจุบันมีเสียงส.ส.ประมาณ 477 เสียง โดยเสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 239 เสียง

รายงานข่าวระบุว่า แม้ก่อนหน้า พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติพรรคพลังปวงชนไทย พรรคไทยศรีวิไลย์ ที่รวมเสียงกันได้ 208 เสียง และกำลังพยายามรวบรวมเสียงจาก พรรคเล็กที่มี 18 เสียง และกลุ่มของรอ.ธรรมนัส อีกประมาณ 16-18 เสียง ที่เคยแสดงท่าทีว่าจะโหวตคว่ำงบประมาณร่วมกับฝ่ายค้าน เพื่อให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่ล่าสุดเสียงของกลุ่มพรรคเล็ก 18 เสียง มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน เกิดเสียงแตกภายในกลุ่ม ระหว่างที่กลุ่มที่จะลงคะแนนเสียงไม่รับหลักการ กับกลุ่มที่จะของดออกเสียง

"ขณะที่อีกบางส่วน มีท่าทีจะหันกลับไปสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล รวมไปถึงเสียงจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ไม่มีความเป็นเอกภาพทั้งหมด เนื่องจากมีกลุ่มที่แสดงท่าที ต้องการย้ายพรรคการเมือง อาทิ กลุ่มส.ส.ศรีสะเกษ จากพรรคเพื่อไทย 3 เสียง และกลุ่มงูเห่า งูแฝง ที่ถูกทาบทามจากบางพรรคการเมือง ที่ได้มีสัญญาใจต่อกันกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางคน โดยกลุ่มนี้ถือเป็นอีกตัวแปรสำคัญ ที่อาจจะไม่ได้โหวตไปในทิศทางเดียวกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด" รายงานระบุ

นอกจากนี้ท่าทีของกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ที่ได้ลดท่าทีแข็งกร้าว และเห็นว่าเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องนำไปแก้ไขปัญหาต่างๆให้ชาวบ้าน นำไปพัฒนาประเทศ หากพร้อมใจไปในทิศทางไม่รับหลักการไปเลย ทั้งที่สถานะยังอยู่ฝ่ายรัฐบาล อาจจะทำให้ส่งผลเสียในทางการเมือง ขณะเดียวกัน ได้เริ่มมีการวางบุคคลเข้าไปอยู่ในโควตา กรรมาธิการงบประมาณแล้ว ดังนั้นกลุ่มของรอ.ธรรมนัส กลุ่มของพรรคเล็กที่เสียงแตก และกลุ่มสวิงโหวตในเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะเป็นตัวแปรสำคัญ ที่หากไม่พร้อมใจเทไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด จะส่งผลต่อการลงคะแนนเสียงทันที ที่จะทำให้ ร่างพรบ.งบประมาณพ.ศ.2666 ผ่านในวาระ1 ไปได้.

มีรายงานว่า เบื้องต้นได้มีการจัดสรรโควตาของแต่ละพรรคการเมือง ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ66 ที่มีทั้งหมด 64 คน แบ่งเป็น สัดส่วนครม.16 คน สัดส่วนส.ส.48 คน ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย 13 คน พรรคพลังประชารัฐ 10 คน ภูมิใจไทย 6 คน ก้าวไกล 5 คน ประชาธิปัตย์ 5 คน เศรษฐกิจไทย 2 คน ชาติไทยพัฒนา 1 คน เสรีรวมไทย 1 คน ประชาชาติ 1 คน เศรษฐกิจใหม่ 1 คน เพื่อชาติ1 คน รวมพลังประชาชาติไทย 1 คน พลังท้องถิ่นไท 1 คน

มีรายงานอีกว่า การจัดสรรโควตากรรมาธิการในพรรคเพื่อไทย 13 คนครั้งนี้ ที่ใช้ระบบการคัดเลือกที่มาจาก ส่วนกลาง ที่มีหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และคณะแกนนำ คณะที่ปรึกษาที่มีบทบาทในพรรค เป็นผู้คัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมจะมาเป็นกรรมาธิการ ที่จะมีสัดส่วนทั้งจากส.ส. และคนนอกที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นกรรมาธิการ ซึ่งแตกต่างจากการจัดสรรครั้งที่แล้ว ที่จะให้โควตาแต่ละภาคเสนอชื่อผู้ที่มีความเหมาะสม ไปเป็นตัวแทนของกรรมาธิการฯงบประมาณ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ