คลอดแล้ว ประกาศกกต.แบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ จับตา กกต.จังหวัด จัดทำรูปแบบการแบ่งเขต

คลอดแล้ว ประกาศกกต.แบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ให้เวลา สำนักงานกกต.จังหวัดสามวัน นำพิมพ์เขียวขั้นต่ำสามรูปแบบ ไปติดประกาศรับฟังความเห็นภายในสิบวัน ก่อนสรุปส่ง กกต.กลางชี้ขาด เอาแบบไหน

1 ก.พ.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)สำคัญสองฉบับที่เป็นกลไกไปสู่การจัดเลือกตั้ง

ประกาศฉบับแรกคือ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งแรก ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อปี 2564 ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนส.ส.เขต จากเดิม 350 เขต เป็น 400 เขต ทำให้จำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศกำหนดไว้เดิมในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ต้องมีการออกประกาศฉบับนี้

ประกาศดังกล่าวระบุถึง จำนวนราษฎรหรือประชาชนโดยเฉลี่ย 165,226 คน ต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคน และมีการแจ้งถึงจำนวนส.ส.และเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดเช่น พื้นที่ซึ่งมี ประชากรเยอะสุดและมีเขตเลือกตั้งมากสุดคือ กรุงเทพมหานคร มีประชากร 5,494,932 มีส.ส.เขตรวม 33 คน ตามด้วย นครราชสีมา ประชากร 2,630,058 มีส.ส.ได้16 คน เป็นต้น

ส่วนประกาศฉบับที่สอง คือ ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2566

ที่มีสาระสำคัญคือการให้ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด จัดทำรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งภายในสามวัน โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งใกล้เคียงกันแล้วประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างน้อยสามรูปแบบเพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัดเป็นเวลาสิบวันนับแต่วันปิดประกาศ เป็นต้น

โดยประกาศดังกล่าว ให้รูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ ต้องประกอบด้วย

(๑) รายละเอียดเกี่ยวกับอำเภอหรือตำบล หรือเขตพื้นที่ที่อยู่ในเขตเลือกตั้งแต่ละเขต

(๒) จำนวนราษฎรของแต่ละเขตเลือกตั้ง และผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งจากจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคนในจังหวัดนั้น ทั้งนี้ ผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งไม่ควรเกินร้อยละสิบของจำนวนเฉลี่ยต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งคน ในจังหวัดนั้น เว้นแต่เป็นกรณีมีความจำเป็นเพื่อให้ราษฎรในชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกันสามารถเดินทางได้โดยสะดวก

(๓) เหตุผลประกอบการเสนอแนะการแบ่งเขตเลือกตั้ง

(๔) แผนที่แสดงรายละเอียดของพื้นที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งแต่ละเขตเลือกตั้ง

โดยรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ต้องมีอย่างน้อยสามรูปแบบ ให้ไปปิดไว้ ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการอบต. และให้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อชนิดต่างๆ ด้วย

โดยรายละเอียดของประกาศทั้งสองฉบับมีดังนี้

-ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. ๒๕๖๖ https://ratchakitcha.soc.go.th/pdfdownload/?id=140A008N0000000003600

-ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง

เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งแรก

ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑)

พุทธศักราช ๒๕๖๔

https://ratchakitcha.soc.go.th/pdfdownload/?id=140A008N0000000003100

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อภิสิทธิ์'​ ลั่น​ ปชป.พร้อมคัดสรรบุคคลลงเลือกตั้ง

'อภิสิทธิ์'​ เผย​ 'ปชป.' พร้อมคัดสรรบุคคลลงเลือกตั้ง​ สั่ง​ 'รองหัวหน้าพรรค​' เตรียมการ หลัง 'กกต.' ประกาศเขตเลือกตั้งใหม่​ จนนครศรีธรรมราช​หาย​ 1 เขต​

มติที่ประชุม กกต. 4 ต่อ 3 เลือก 'ณรงค์ กลั่นวารินทร์' เป็นประธาน กกต. คนใหม่

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดประชุมกรรมการการเลือกตั้ง ประกอบด้วยนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ นายชาย นครชัย นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ และนายณรงค์ กลั่นวารินทร์

กกต. แจงอดีตพนักงานถูกกล่าวหารับเงิน 'ฮั้ว สว.' สั่งให้ออก-ตั้งคกก.สอบแล้ว

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารชี้แจงตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการนำเอกสารไปยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ ในประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรายหนึ่ง

สรุปยอดบริจาคพรรค ส.ค.68 อันดับ 1 ภูมิใจไทย รองลงมา ประชาชาติ-กล้าธรรม

กกต.เผยผลสรุปยอดเงินบริจาคให้พรรคการเมือง ประจำ ส.ค.68 ในส่วนผู้บริจาค 5 พันบาทขึ้นไป พบ 11 พรรค อันดับ 1 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 2 พรรคประชาติ และอันดับ 3 พรรคกล้าธรรม ส่วนพท.และ ปชป.ไม่ปรากฏ