เชือดแล้ว! สั่งให้ออกจากราชการ 6 ตำรวจ เรียกรับสินบนแลกไม่จับกุมผู้กระทำผิด


2 ก.พ.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพลตำรวจตรี อัฏชพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล ๑ ที่ ๕๕ / ๒๕๖๖ เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน

ด้วยมีข้าราชการตำรวจ ดังต่อไปนี้

๑. ร้อยตำรวจเอก ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรธุรการ สถานีตำรวจนครบาลห้วยชวางรับเงินเตือนระดับ ส.๑ ชั้น ๑๖ จำนวน ๒๒,๖๐๐ บาท

๒. ร้อยตำรวจเอก ยอดฤทธิ์ ลางคุลเสน ร้องสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง รับเงินเดือนระดับ ส.๑ ชั้น ๒๖.๕ จำนวน ๓๓,๓๔๐ บาท

๓. ดาบตำรวจ กฤษฏา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง รับเงินเดือนระดับ ป.๓ ขั้น ๑๘ จำนวน ๒๕,๘๙๐ บาท

๔. สิบตำรวจเอก นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม)สถานีตำรวจนครบาลท้วยขวาง รับเงินเดือนระดับ ป.ด ขั้น ๒๑.๕ จำนวน ๑๘,๐๒๐ บาท

๕. สิบตำวจเอก เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง รับเงินเดือนระตับ ป.ด ชั้น ๑๖.๕ จำนวน ๑๕,๕๔๐ บาท

๖. สิบตำรวจเอก วัชรนนท์ ชาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลหัวยขวาง รับเงินเตือนระดับ ป.๑ ขั้น ๑๖ จำนวน ๑๕,๒๙๐ บาท

มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน เนื่องจากต้องหาคดีอาญาที่ ๘๔/๒๕๖๖ ของสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ฐานความผิด "เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" อันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ และมีเหตุให้พักราชการได้ ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.๒๕.๔๗ ข้อ ๓ (๑)

คือ ร้อยตำรวจเอกปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา กับพวกรวม ๖ ราย เป็นข้าราชการตำรวจมีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดอาญา รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านมือง ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่กลับมีพฤติการณ์ เรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการไม่จับกุมผู้กระทำผิดดำเนินคดีอันเป็นการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และพฤติกรณ์ดังกล่าวไม่น่าไว้วางใจ ถ้ให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความ เสียหายได้และพิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งข้าราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๓๑ และ ๑๙๙ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติพ.ศ.๒๕๖๕ ประกอบกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.๒๕๔๗ข้อ ๘ จึงให้ ร้อยตำรวจเอก ปฏิกาณ ศิริชัยวัฒนา, สิบตำรวจเอก นันทวัชร์ สุวรรณา, ร้อยตำรวจเอก ยอคฤทธิ์ ลางคุลเสน, ดาบตำรวจ กฤษฎา คำมะนา, สิบตำรวจเอก เฉลิมชัย ศิริวังโส และ สิบตำรวจเอก วัชรนนท์ ชาวยอง ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ตามมาตรา ๑๔๑ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๕ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันทราบคำสั่งและหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันพ้นกำหนด ๙๐ วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีต้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ผบช.น’ สั่งล่าชายชาวจีน บังคับ ‘น้องไอ’ อัปยาจนเสียชีวิต

น.1 สั่งล่าชายชาวจีน  บังคับ ‘น้องไอ อัปยาเสียชีวิต เร่งสอบปากคำโมเดลลิ่ง เจ้าของงาน พร้อมกำชับหากพบตำรวจบกพร่องหรือมีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทางวินัยและอาญาทันที

บุกทลายบ่อนจีนเทากลางกรุง เปิดร้านอาหารจีนบังหน้า

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5

นครบาล ลุยกวาดล้างแหล่งมั่วสุม ‘แก๊งวัยรุ่นป่วนเมือง’ ค้นพื้นที่ 9 จุด ได้ของกลางอื้อ

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมายให้พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนปราบปราม กลุ่มวันรุ่นกลุ่มแก๊งที่แสดงพฤติกรรมร่วมกลุ่มกันเพื่อ ก่ออาชญากรรม

'ก.พ.ค.ตร.' ฮึ่ม! แต่งตั้งตร. ใช้ระบบโควตากับคุณธรรมไม่รอบคอบ มีสิทธิคุก

การใช้โควต้าดังกล่าวมีความสอดคล้องกับหลักการพิจารณา อาวุโสและความรู้ความสามารถ และไม่ได้ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย ก็อาจพิจารณานำมาปรับใช้ได้