23 ก.พ.2566 - เมื่อเวลา 16.40 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เขตหลักสี่ กทม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่สามัญพรรคปชป. ประจำปี 2566 กรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าปชป. เตรียมเทียบเชิญให้มาช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ยังไม่ได้รับการเทียบเชิญ และไม่ทราบว่าจะได้พูดคุยวันนี้หรือไม่
เมื่อถามว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เขาไม่ตอบผ่านสื่อ คงต้องพูดคุยกับนายจุรินทร์เสียก่อน และได้ผลอย่างไรจะเรียนให้ทราบต่อไป ขอฟังหัวหน้าพรรคก่อนว่ามีแนวคิดอย่างไร คาดหวังอะไร กับการที่จะให้ตนไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องฟังเหตุฟังผลกันก่อน
ถามว่าส่วนตัวอยากลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ความอยากจะลงหรือไม่ลง ความจริงตนทำอาชีพนักการเมืองมาตั้งแต่ต้น และทำงานสภาอย่างจริงจัง ครั้งที่แล้วลาออกจากหัวหน้าพรรคและส.ส. เพื่อรักษาคำพูดแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่จะเป็นปัจจัยอยู่ที่เราจะทำประโยชน์ให้ส่วนร่วมทั้งประเทศและพรรคด้วยวิธีการใดจะเหมาะสมที่สุด คงไม่ใช่เพราะเรื่องความอยาก แต่เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาว่าทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วมมากที่สุด ด้วยวิธีใด อย่างไร
ถามต่อว่าโอกาสที่พรรคจะเป็นรัฐบาลไม่ง่าย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้เป็นหรือไม่ได้เป็นรัฐบาลไม่ใช่ปัญหา พูดเสมอว่านักการเมือง พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันต้องพร้อมเป็นทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน การทำหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเข้มแข็ง เป็นประโยชน์ทั้งสิ้นกับส่วนร่วม เพราะฉะนั้นไม่มีเงื่อนไขว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่ต้องพิจารณาตัวเราว่ามีความคิดความอ่านอย่างไร แนวทางในทางการเมืองพรรคเป็นอย่างไร สถานการณ์การเมืองการเลือกตั้งเป็นอย่างไร จะทำประโยชน์ที่ดีที่สุดด้วยวิธีใด
ถามอีกว่าสมาชิกพรรคอยากให้กลับมาหาเสียง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคก็ต้องสนับสนุนช่วยเหลือพรรคอยู่แล้ว พรรค คนหลายคนที่ทำงานร่วมกันมาแล้วเขาเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ตนก็สนับสนุน ไม่ต้องมีเงื่อนไขว่าตนจะได้ลงหรือไม่ได้ลงสมัครส.ส.
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รอบหน้าแข่งขันสูงมาก เห็นอยู่ว่าการแข่งขันสูงและเข้มข้นเพียงใด แต่การเลือกตั้งก็ต้องเหนื่อยทุกครั้ง ไม่มีครั้งใดที่ไม่เหนื่อย
ถามถึงจำนวนส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้มากกว่าเดิมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องประเมินจากข่าวสารที่ได้รับ แต่ว่าผู้บริหารจะเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์ และดูว่าผู้บริหารก็มีความมั่นใจ
ถามทิ้งท้ายว่าหลายคนวิเคราะห์ถ้ามีชื่อนายอภิสิทธิ์ลงสมัครเป็นส.ส. และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะสามารถดึงคะแนนเข้าพรรคได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แล้วแต่จะวิเคราะห์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'กรณ์' แนะ ปปง. ยึดทรัพย์สแกมเมอร์รายใหญ่ ต้องสาวให้ถึงคนไทย แฉพยายามโยกย้ายทรัพย์สิน
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอกสารหลักฐานชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา โดยสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเกี่ยวโยงกับวงการสแกมเมอร์ และอาจจะเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามในการฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกรรมเหล่านั้น
อยากได้ก็ตั้งให้! ‘นิพิฏฐ์’ แนะนำ ‘อนุทิน’ ใช้นามสกุล ‘โอษฐภัย’
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง “โอษฐภัย” โดยมีรายละเอียดว่า ผมฟังท่านนายกรัฐมนตรี อ
เทพไท ไม่แปลกใจ 'อภิสิทธิ์-ปชป.' ฉุดกระแสใต้คืนชีพ ห่วง สส.เขต โดนกระสุนดินดำเอาไปกิน
เทพไท ชี้ ผลการสำรวจของนิด้าโพล อาจวัดความนิยมของพรรคการเมือง และจะบ่งบอกถึงส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แต่สำหรับส.ส.ในระบบเขต ยังเชื่อว่าพรรคการเมืองที่มีทรัพยากรพร้อม มีกระสุนดินดำเป็นจำนวนมาก และยิงเข้าเป้า ก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง
ปชป. ขานรับกระแสดีภาคใต้ ลั่นพร้อมสร้างการเมืองสุจริต
“ประชาธิปัตย์” ขอขอบคุณ ความไว้วางใจที่คนไทยมอบให้ พร้อมสร้าง “การเมืองสุจริต” ทำงานด้วย “ความมืออาชีพ” ด้วยนโยบายที่ “ทำได้จริง” เปิดรับสมัคร สส. วันสุดท้ายของแคมเปญ “สส.ที่ดี คุณเองก็เป็นได้นะ”
นิด้าโพลชี้ ปชป. มาแรงในภาคใต้ คะแนนนิยม อภิสิทธิ์ นำ อนุทิน
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคใต้” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18 - 24 พฤศจิกายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ (จำนวน 14 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี
'อภิสิทธิ์' ถึงกับงง! ศูนย์ประสานงานน้ำท่วมเกิดขึ้นซ้ำซ้อน น่าห่วงเรื่องความเป็นเอกภาพ
"พี่มาร์ค" งงหนัก รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินน้ำท่วมสงขลา ตั้ง ผบ.ทสส. เป็นผู้รับผิดชอบ แต่กลับมีการตั้งศูนย์ประสานงานซ้ำซ้อนกันทั้งที่ทำเนียบฯ-กระทรวงต่างๆ ทำให้น่าเป็นห่วงเรื่องความเป็นเอกภาพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ชี้เป็นโจทย์ใหญ่ต้องเร่งแก้ไขด่วน

