1 มี.ค.2566 - นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ประกาศเทียบเชิญอดีต 3 หัวหน้าพรรคมาร่วมสู้ศึกเลือกตั้งว่า ได้คุยรายละเอียดคร่าวๆแล้ว แต่มองว่าเป็นปกติประเพณีของพรรค ว่าทุกครั้งที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งคนทุกรุ่นจะมาช่วยกัน ข้อบังคับพรรคเองก็เขียนไว้ชัดเจนว่าสมาชิกมีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายจุรินทร์ตั้งใจประกาศความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ สืบทอดอุดมการณ์ทางการเมืองมาเป็นทอดๆ และให้คนทั้งประเทศรู้ว่าประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนคนทุกรุ่น
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เลือดเก่าไหลออกไปมากแต่เลือดใหม่ที่ไหลเข้ามาจะเพียงพอที่จะรักษาความเป็นสถาบันของพรรคให้แข็งแกร่ง ได้หรือไม่ นายบัญญัติ ยอมรับว่า วิกฤตครั้งนี้แรงกว่าทุกครั้ง แม้เรื่องเลือดไหลออก ไม่ใช่เรื่องใหม่ของประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ตนอยู่พรรคมา 50 ปี มีเลือดไหลออกหลายครั้ง
แต่ครั้งนี้ที้ทำให้แฟนคลับอาจกังวลเพราะไหลไม่จบ ออกไปแล้วไม่จบกลับมาชักชวนคนที่อยู่ให้ออกไปด้วยเป็นระยะ จะด้วยสัมพันธ์ส่วนบุคคล หรือเป็นเจตนาที่จะใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการใช้ทำลายความเชื่อถือของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ จึงทำให้กองเชียร์ของพรรคหวั่นไหว แต่เชื่อว่าอีก 1-2 สัปดาห์ทุกอย่างจะจบ
ถามถึงสนามเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องสู้กับคนคุ้นเคย นายบัญญัติ กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ค่อยดี แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อเกิดแล้วก็ต้องแก้ปัญหากันไป และไม่ใช่ครั้งแรกเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ปรากฏว่าคนที่ออกไปท้ายที่สุดก็ไปไม่ไหวหลายพรรคก็หายไป แต่ประชาธิปัตย์ยังคงอยู่ ครั้งนี้ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น
“มั่นใจว่าเสียงตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ของคนใต้ ดีขึ้น การเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่พรรคเสียที่นั่งไปมากเพราะสถานการณ์พิเศษ คนกลัวระบอบทักษิณมาก เมื่อแกนนำพรรคลงพื้นที่หาเสียง ชาวบ้านพูดกับเราตรงๆว่าขอเลือกทหารเพื่อไปปราบระบอบทักษิณ ผมคิดว่าเราจะได้เพิ่มในหลายพื้นที่ที่เราเสียไป ทั้งในกทม. และภาคใต้ ” นายบัญญัติ กล่าว
นายบัญญัติ กล่าวว่า ส่วนผลสำรวจความเห็นของคนในภาคใต้ที่นายจุรินทร์ไม่ได้ติดอันดับต้นๆ นั้น ต้องยอมรับความจริงว่าในด้านการตลาดเราเป็นรอง การที่เราเจียมเนื้อเจียมตัวไม่ประกาศตั้งแต่ต้นว่าหัวหน้าพรรคเราพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในเวลาที่โพลเขาถามว่าใครเหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรี และจนถึงตอนนี้เราไม่ได้พยายามถึงขนาดทะเยอทะยานจะเป็นนายกฯให้ได้ แต่พยายามเปรียบเทียบให้ชาวบ้านได้เห็นว่าคุณสมบัติของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติประกอบด้วยอะไรบ้าง เพื่อให้ชาวบ้านเห็นว่าระหว่างคนของเรากับคนหลายพรรค ที่ บางคนอาจไม่อยู่ในวิสัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เมื่อเปรียบเทียบแล้วทำให้เรามั่นใจว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ไม่น่าจะเสียเปรียบใครอะไรเลย น่าจะมีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าใครด้วย และมั่นใจว่านายจุรินทร์จะนำพาประชาธิปัตย์กลับมาสู่ยุคเฟื่องฟูได้และถือว่าที่ผ่านมา
"นายจุรินทร์ทำงานหนัก และประสบความสำเร็จ แต่นายจุรินทร์ มีข้อเสียคือการคร่ำเคร่งกับงานมากเกินไปไม่มีเวลาทำให้คนเห็นภาวะความเป็นจริงมากนัก และจากพฤติกรรมก้มหน้าก้มตาทำงานไม่สุงสิงกับใคร ก็เกิดมุกใหม่ว่านายจุรินทร์เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเสน่ห์"
นายบัญญัติ ยังยอมรับเสียงวิจารณ์ที่ว่านายจุรินทร์ไม่สามารถดึงคนในพรรคไว้ได้ซึ่งอาจเป็นเพราะความเคร่งเครียด ของนักการเมืองที่มุ่งมั่นทำงานให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจ แต่น่าชื่นชมและช่วงหลังนี้เข้าใจมากขึ้นความร่วมมือในพรรคก็มีมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง
เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"
พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’
พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
พรรคเพื่อไทย จัดอีเวนต์สัปดาห์หน้า เปิดตัวผู้สมัครสส.ครบทุกเขต-บัญชีรายชื่อ
ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ในวันที่ 25 ธ.ค.พรรคเพื่อไทยจะทำการเปิดอีเวนต์ใหญ่ คือ
'เพื่อไทย' ต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร สส. 3 เขตโคราช
ที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย

