'บิ๊กตู่' ศอกกลับเสียงดูแคลน  'หน้าผมใหญ่พออยู่แล้ว ยังต้องการอะไรอีก'

นายกฯ ขอบคุณทุกคนเชื่อมั่นตัดสินใจบนความเสี่ยงช่วงโควิดพิสูจน์เสียงดูถูกดูแคลน ลั่นหน้าใหญ่พอแล้วไม่ต้องการอะไรอีก  ระบุบริหารรัฐบาลผสมเป็นทำงานยาก ชี้บ้านเมืองต้องเดินไปข้างหน้า

19 มี.ค.2566 –  ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับฟังการนําเสนอวิสัยทัศน์ เรื่อง “อันดามันพร้อม” โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงทรรศนะและมอบทิศทางอนาคตอันดามัน ตอนหนึ่งว่า วันนี้มาเพื่อติดตามความก้าวหน้าหลังเราได้ผ่านช่วงเวลาในอดีตที่ผ่านมาที่เผชิญชะตากรรมร่วมกันตั้งแต่โควิด-19 เข้ามา และสู้มาถึงวันนี้ แต่ก็ยังไม่ประมาทขอบคุณที่ทุกคนไว้ใจและเชื่อมั่นการตัดสินใจของนายกฯ ในการเป็นรัฐบาลที่จำเป็นต้องตัดสินใจบนความเสี่ยง ซึ่งหลายคนก็ดูถูกดูแคลนว่าจะทำได้หรือไม่จะรับผิดชอบใครได้หรือไม่ แต่ถ้าวันนั้นตนเองไม่ตัดสินใจแบบนั้นวันนี้ก็ไม่เกิดและจะตายยิ่งกว่าโควิดอีก เพราะไปไหนไม่ได้แล้วมีหลายอย่างต้องหยุด ถ้าเราแก้ปัญหาได้เตรียมความพร้อมได้สังคมทุกคนช่วยกันไปได้หมดทุกเรื่อง ตนเองยืนยันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 8 ปีจนถึงปีนี้ จะเห็นว่าเราพยายามแก้และทำหลายๆอย่าง อย่างไรก็ตามการทำอะไรต้องไม่ขัดกฎหมายบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นจะเละไปหมดในวันข้างหน้า

“ วันนี้เราทำมาเยอะแล้วและเดินมาไกลแล้วประเทศไทยเดินมาไกลแล้ว เราไม่สามารถย้อนกลับไปที่เดิมได้อีกแล้ว อย่างที่ท่านพูดทุกวันถ้าบ้านเมืองมีปัญหาอยู่อีกมันจะถอยกลับไปที่เดิมแล้วก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ผมเป็นกังวลตรงนี้ ประชาชนต้องเข้าใจและต้องมีส่วนร่วมทั้งหมดไม่ใช่คนรวยจะได้ นายกฯ ได้หรือใครจะได้อะไรต่างๆผมไม่เคย หน้าผมใหญ่พออยู่แล้ว ผมจะต้องการอะไรอีก และผมไม่ถือว่าเป็นคนวิเศษวิโส ไม่ใช่ ผมเป็นมนุษย์คล้ายๆท่าน เป็นคนรับใช้ของท่านจะบอกให้ ผมคิดอย่างนี้เสมอมาตลอดระยะเวลา  8 ปี ผมพูดจริง ขอระบายสักหน่อยพอได้พูดหายใจออกหน่อย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า หลายคนอยากเป็น แก้ให้ได้ก็แล้วกัน หากทำได้ก็ยินดีด้วย แต่วันนี้ตนเองยังทำอยู่ มันติดตรงนี้ ที่ตนเองทำอยู่ เพราะยังเป็นรัฐบาลรักษาการใช่หรือไม่ แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ซึ่งต้องดูว่าจะสามารถแก้ไขอย่างไรได้ งบฯ ที่เสนอมาก็ต้องเข้าไปที่สภาฯใครเป็นรัฐบาลเข้ามาตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน กำหนดไม่ได้ แต่ยืนยันว่าจะเสนอสิ่งเหล่านี้เข้าไปในปีงบประมาณปี 67 ซึ่งใครจะเป็นรัฐบาลต่อก็ว่าไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกล่าวถึงช่วงนี้ นายกฯ ถามคนในห้องว่า”เลือกใครล่ะ  เรียกเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือกับคนในห้องก่อนนายกฯ จะกล่าวต่อว่า “พอแล้ว เดี๋ยวไปพาดหัวข่าว ปากนี้ชอบหาเรื่องไปเรื่อยเลย ไม่มีอะไรผมเป็นคนแบบนี้ เป็นคนง่ายๆจริงใจ ผมคิดยังไงก็พูดอย่างนั้น ไม่มีอะไร”

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาตนเองไม่เคยไปเที่ยวไหนทั้งสิ้น เพราะไม่อยากสร้างปัญหาสร้างภาระให้กับใคร เมียกับลูกไม่ไปด้วยนี่คือปัญหาของตนเอง เพราะไม่อยากให้เป็นภาระ จึงมีเวลาทำงานให้พวกเราเยอะหน่อย ชีวิตของตนเองมีแค่ตื่นมาไปทำงานเย็นกลับบ้าน ทุกวันที่ผ่านมา แต่ตนเองมีทีมที่ดี บริหารจนทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งรัฐบาลผสมอยู่กับตนเองได้ 4 ปีไม่ใช่รัฐบาลคสช. จนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งทุกคนก็รู้อยู่การเมืองทำได้ยากแค่ไหน ตนเองไม่เคยใช้อำนาจอะไรสักอย่าง เพียงแต่ขอร้องให้ทำความเข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การทำงานทุกอย่างต้องร่วมมือกันไม่มีปัญหาขัดแย้งกันเราก็จะทำได้ ได้ข่าวว่ามีใครมาร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ สั่งการไปแล้ว หากไม่ถูกก็ทำไม่ได้ ขอบคุณแรงใจที่ให้นายกฯ เป็นกำลังใจให้ด้วยการเป็นายกฯรักษาการต่อไปได้ระยะหนึ่ง วันหน้าเป็นเรื่องของประชาชน ตนเองมีความสุข

“ วันนี้มาในนามนายกฯ ไม่ได้มาในนามอื่น คนทุกรุ่นคือคนไทยหากเราไม่รักกันแล้วใครจะรัก หากไม่ร่วมการแก้ไขปัญหาแล้วใครจะทำ ทั้งนี้หากมีปัญหาก็ต้องหาทางออก ถ้าดันทุรังบ้านเมืองก็ตีกันอยู่อย่างนี้ อย่าให้บ้านเมืองกลับไปเหมือนเดิมเด็ดขาด ย้ำว่าเราเดินมาไกลมากแล้ว เดินถอยหลังก็ไม่ได้ เราต้องเลือกว่าจะเดินไปสู่ยอดหรือจะถอยหลังกลับไปเหมือนเดิม ฝากพวกเราทุกคนไว้ด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ในช่วงท้ายนายกฯกล่าวว่า แม้นายกไม่ใช่คนเก่งเศรษฐศาสตร์ แต่บริหารการเงินการคลังได้ ที่อยู่มา 8 ปีแล้วไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอะไร เลยหรืออย่างไร ที่เขาพูดกัน เอาล่ะมีคนพูดเตือนแล้วว่าเริ่มพูดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกล่าวว่า เวลาพูดแล้วมีคนขัดแย้งตั้งแต่แรกผมขี้เกียจพูด ผมไม่อยากพูด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างพูด พล.อ.ประยุทธ์  ทำน้ำเสียงอ่อนหวาน และกล่าวว่า “ท่านครับ นุ่นครับนี่ครับ นั่นคงไม่ใช่ผม ผมต้องเป็นอย่างนี้ จริงใจ และตั้งใจทำงานอะไรได้คือได้ไม่ได้คือไม่ได้ อันนี้คือสิ่งที่ต้องให้รัฐบาลหน้าเขาทำให้ได้ ใครอยากทำก็ให้เขาทำไปเถอะ แล้วก็ไปเสนออีกครั้งก็ได้ในรัฐบาลหน้าก็แล้วกัน

“ แต่ผมจะอยู่ตรงนี้ได้นานเท่าไหร่ก็จะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียงนะผมบอกให้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนต้องว่าผมมาหาเสียง กลับกลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ใครก็ว่าหาเสียงหาเสียงแล้วมันจะหาทำไมนักหนา ผลงานก็มีอยู่แล้วนี่ไงเล่า ใช่หรือเปล่า ทำแล้วหรือเปล่า พอแล้วเดี๋ยวเขาหาว่าพูดมาก” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดีป้า' ล่องใต้เยือนภูเก็ต ติวเข้มทักษะโค้ดดิ้งนักเรียน-ครู สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย

ดีป้า จัดกิจกรรม Coding Bootcamp & Roadshow และ Coding War พื้นที่ภาคใต้ตอนบน ภายใต้โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย หลังกิจกรรมในพื้นที่

นายกฯ ลงภูเก็ต ติดตามก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด และปัญหาดินสไลด์ จากเหตุการณ์น้ำท่วม

เรือประมงอับปาง! ห่างสะพานสารสิน 9 ไมล์ทะเล

นาวาเอกพิเชษฐ์ซองตัน โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค3) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต

นายกฯอารมณ์ดี บอกลงภูเก็ตพรุ่งนี้ ดูปัญหาน้ำท่วม ดินสไลด์ สนามบิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา โดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันที่ 5 ก.ค. จะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดภูเก็ต ไปตรวจดูเรื่องของดินสไลด์ ถนน และสนามบิน