
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยกคำขอของนายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลา การบังคับตามมติและคำสั่งที่ถอดถอนออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
3 พ.ค. 2566 - ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา คำร้องที่ ๒๘๐/๒๕๖๖ คำสั่งที่ ๗๔๔/๒๕๖๖ ในคดีของศาลปกครองกลางคดีหมายเลขดำที่ บ.๓๖๒/๒๕๖๕ ระหว่าง นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ ผู้ฟ้องคดี กับ สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ ๑ ศาสตราจารย์ สมบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ ๒ นายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ ๓ และผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญชาล ทองประยูร ที่ ๔ ผู้ถูกฟ้องคดี
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า เดิมผู้ฟ้องคดีดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีมติในการประชุมครั้งที่ ๒๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ได้มีคำสั่งสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ ๑๑๙/๒๕๖๕ และที่ ๑๒๐/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และแต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นฟ้องคดีต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติและคำสั่งดังกล่าว รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ทุเลาการบังคับตามมติและคำสั่งที่ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และที่แต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ศาลปกครองสูงสุดพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้างเหตุถอดถอนว่า ผู้ฟ้องคดีใช้คุณวุฒิปริญญาเอกที่ไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ. มาสมัครเข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตำแหน่งอาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติไม่มีฐานะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยมาแต่แรก และแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์สุจริต ขาดจริยธรรมนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวเป็นวาระเพื่อพิจารณาในการประชุมของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ โดยที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องคดีชี้แจงและแสดงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้พิจารณาข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ. อีกครั้ง
ในการประชุมเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๕ โดยผู้ฟ้องคดีได้เข้าร่วมประชุมด้วย และได้ชี้แจงต่อที่ประชุมเกี่ยวกับคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกของผู้ฟ้องคดี กรณีจึงยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้ในการมีมติถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ส่วนกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้างเหตุถอดถอนว่า ผู้ฟ้องคดีมีพฤติการณ์ให้ความช่วยเหลือ แก่นาย ส. ซึ่งถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยการรับโอนที่ดินจากนาย ส. จำนวน ๒ แปลง และกล่าวอ้างว่า เงินของนาย ส. ที่ถูกยึดเป็นของกลางส่วนหนึ่ง จำนวน ๔,๕๐๐,๐๐๐ บาท เป็นเงินของผู้ฟ้องคดี และเมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ฟ้องคดีจนกระทั่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ที่ดินและเงินที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างตกเป็นของแผ่นดิน ผู้ฟ้องคดีก็ไม่ได้รายงานให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงซึ่งเป็นต้นสังกัดทราบ การกระทำของผู้ฟ้องคดีเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้บริหารตามที่กฎหมายกำหนด และกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อ้างเหตุถอดถอนว่า ผู้ฟ้องคดียื่นหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีการ้องทุกข์ โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นการกระทำที่ขาดไร้จริยธรรมและประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงนั้น ศาลปกครองสูงสุดไม่จำต้องพิจารณาว่าการดำเนินการของ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ก่อนมีมติถอดถอนผู้ฟ้องคดีในทั้งสองกรณีดังกล่าวมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะไม่มีผลทำให้ขั้นตอนในการดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ก่อนที่จะมีมติถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วยเหตุพฤติการณ์การกระทำของผู้ฟ้องคดีในกรณีที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ฟ้องคดีเปลี่ยนแปลงไป ในชั้นนี้จึงยังฟังไม่ได้ว่า มติและคำสั่งที่ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และที่แต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ครบองค์ประกอบตามกฎหมายที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติและคำสั่งดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดีได้
ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองกลาง เป็นยกคำขอของผู้ฟ้องคดี ที่ขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติและคำสั่งที่ถอดถอนผู้ฟ้องคดีออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และที่แต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'วีระพล' นั่งนายกสภารามคำแหง 'ไชยันต์' ติดโผกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง “วีระพล ตั้งสุวรรณ” ดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงต่ออีกวาระ ขณะเดียวกันมีชื่อ “ไชยันต์ ไชยพร” นักวิชาการชื่อดัง ติดหนึ่งใน 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ มีผลตั้งแต่ 20 มีนาคม 2568
ศาลฯ ยกฟ้องคดีถอดถอนอธิการบดีม.ราม ชี้มติสภามหาวิทยาลัยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลปกครองกลาง พิพากษายกฟ้องคดีถอดถอน “สืบพงศ์ ปราบใหญ่” พ้นตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชี้ใช้วุฒิปริญญาไม่รับรอง และมีพฤติการณ์ผิดจรรยาบรรณ ถือเป็นเหตุอันชอบ
ลูกเกดหารือสภาจี้ ม.รามฯ ไฟเขียว 'ก้อง-อุกฤษฏ์' สอบในเรือนจำ!
สส.ปชน. จี้ ม.รามคำแหงไฟเขียว 'ก้อง-อุกฤษฏ์' ผู้ต้องขังคดี 112 สอบในเรือนจำ
'จตุพร-วัชระ' จับมือฟาด 'ทักษิณ' สร้างบาดแผลให้ประเทศ
“จตุพร-วัชระ” จับมือฟาด “ทักษิณ”บาดแผลประเทศ “วัชระ” กังวลผู้นำการเมืองไม่มีรากเหง้าเป็นเครื่องมือต่างชาติครอบงำความคิดเด็กเยาวชนเป็นอันตรายต่อประเทศ