‘ก้าวไกล’ ย้ำเดินหน้าแก้ 112 เปิดพิมพ์เขียวร่าง พ.ร.บ. เตรียมชงเข้าสภาฯ ยันทำสำเร็จ สถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่มั่นคงสถาพร ยอมรับอาจลดเพดาน ปรับเนื้อหา หลังเคยถูกตีตก
19 พ.ค. 2566 – นายธีรัจชัย พันธุมาศ ว่าที่ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่พรรคได้บรรจุไว้เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกลที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หลังจากมีการเปิดสมัยประชุมสภาฯ โดยเมื่อถามถึงกรณีมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลายคนอ้างเหตุผลในการจะไม่โหวตสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะมีนโยบายแก้ 112 ว่า แนวทางเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คือ สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ รศ.118 รัชกาลที่ 5 ตอนนั้น 112 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี แต่หลังรัฐประหารปี 2519 ฝ่ายรัฐประหารต้องการจัดการกับฝ่ายตรงข้าม เลยอาศัยเงื่อนไขตรงนี้ มาเพิ่มโทษมาตรา 112 เป็น 3 – 15 ปี และใช้เป็นเครื่องมือโดยให้ใครก็ได้มาแจ้งความ แล้วใช้เป็นเครื่องมือขจัดฝ่ายตรงข้ามด้วยการดำเนินคดีให้หยุด โดยอาศัย 112
นายธีรัจชัย กล่าวว่า กรณีแบบนี้เราเห็นว่า เราต้องการให้สถาบันฯ อยู่นอกเหนือการเมือง อยู่ใต้รัฐธรรมนูญตามหลักสากล ประเทศอังกฤษ ญี่ปุ่น โดยหลักก็คือ ไม่ให้ใครก็ได้ ดึงสถาบันฯ มาปะทะกับประชาชนที่มีความเห็นต่าง เพราะหากปล่อยให้ใครก็ได้ไปแจ้งความ ผู้มีอำนาจก็อาจใช้คนอื่นไปแจ้งความ แล้วสถาบันฯ ก็ต้องมาปะทะกับคนที่เห็นต่าง ถามว่าจะทำให้สถาบันฯ อยู่มั่นคงถาวรหรือว่าจะปล่อยให้มาปะทะแบบนี้ เราต้องการให้สถาบันฯ อยู่เหนือการเมือง แต่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ และไม่ต้องการให้ใครก็ได้มาแจ้งความ โดยการแก้ไขดังกล่าวก็จะเสนอว่าให้การแจ้งความ ต้องให้สำนักราชเลขาธิการเป็นผู้กลั่นกรอง ไม่ใช่ให้ใครก็ได้จะไปดึงสถาบันฯมาปะทะ กับคนที่เห็นต่าง ซึ่งมองว่าไม่เป็นผลดีกับสถาบันฯ โดยรวม
นอกจากนี้ได้แก้ไขในส่วนของบทลงโทษ โดยมีหลักคือ ต้องมีการคุ้มครองประมุขของรัฐ คือพระมหากษัตริย์ และปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน สองหลักนี้ต้องเหมือนกัน การคุ้มครองก็คือว่าประมุขของรัฐ หากมีใครมาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ต้องมีโทษที่สูงกว่าคนธรรมดา และบทลงโทษต้องไม่มีโทษขั้นต่ำ โดยเปิดโอกาสให้ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจได้ และแก้ไขโดยย้ายมาตรา 112 ออกจากหมวดเดิม ซึ่งอยู่ในหมวดความมั่นคง ก็แก้ไขโดยให้ย้ายมาอยู่ในหมวดสิทธิเสรีภาพ โดยหมวดความมั่นคงนั้น เป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ทำให้พอมีการแจ้งความแล้ว จะยอมความไม่ได้ มันทำให้เกิดความตึงเครียด ระหว่างสถาบันฯ กับประชาชน โดยที่คนอื่นมาแจ้งความ ไม่ใช่สถาบันฯ ไปทำเอง และไม่ได้มีการกลั่นกรองอะไร เราเลยเสนอให้ย้ายหมวดมาอยู่ในหมวดสิทธิเสรีภาพ และหากคดีใดไม่ใช่คดีที่ร้ายแรงอะไร สถาบันฯ ก็อาจให้มีการยอมความกัน ที่จะทำให้สถาบันฯ ไม่ต้องปะทะกับคนที่เห็นต่าง
คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคก้าวไกล กล่าวว่า แนวทางดังกล่าว จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์มั่นคงสถาพร อยู่คู่แผ่นดินไทยได้นาน ที่จะเป็นการส่งเสริม แต่อีกฝ่ายกลับมาบอกว่าแตะสถาบันไม่ได้เลย ถ้าแตะคือต้องการจะดึงลงมา ถามว่าอันไหนทำลายมากกว่า ตนเชื่อว่าอันหลังทำลายมากกว่า เพราะเป็นความคิดแบบเดิมๆ แบบเก่าๆ และต้องการใช้ประโยชน์เพื่อทำลายฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น แต่หากทำแบบก้าวไกลที่เสนอ เราอาจมาเริ่มด้วยการจัดวางพระราชอำนาจแบบประณีต มาใช้เวทีรัฐสภาในการที่จะมาหาทางออกร่วมกันว่า เราอยากจัดวางพระราชอำนาจแบบไหนที่ทำให้สถาบันฯ อยู่เหนือการเมือง ก็คือไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง การบริหารอะไร เป็นประมุขของประเทศ แล้วมาจัดวางกันอย่างประณีต
“ผมเชื่อว่าเป็นวิธีนี้เท่านั้นในโลกสมัยใหม่ ที่่มีการสื่อสารสูงและมีการเปลี่ยนแปลงทางความคิดสูง จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ของเราอยู่มั่นคงสถาพร คู่แผ่นดินนี้มากกว่า เราใช้เวทีคุยแบบมีวุฒิภาวะในสภาฯ ผมเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีและช่วยกันถกเถียงในแง่มุมต่างๆ ไม่ใช่มาโจมตีอะไรกัน หรือมาบอกว่า 112 แก้ไม่ได้” ว่าที่ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ระบุ
เมื่อถามว่า สภาฯ สมัยที่แล้ว ส.ส.ก้าวไกลเคยร่วมกันลงชื่อ เสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ มีความเห็นว่าเสนอไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ จนประธานสภาฯ ไม่บรรจุร่างดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม แล้วเปิดสภาฯ มา จะไปเสนอแก้ 112 ในสภาฯได้อีกหรือ จะมีวิธีการอย่างไร นายธีรัจชัย ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.ก้าวไกล สมัยที่แล้ว กล่าวว่า คงต้องมาหารือกันในพรรคก้าวไกลว่าจะทำอย่างไร หลังจากเคยมีตรงนี้มาแล้ว ต้องมาหารือกันว่าจะมีวิธีการเช่นจะปรับเนื้อหาหรือว่าจะยังคงเดิม เพื่อให้มันเดินไปได้ ก็ต้องมานั่งคุยกันอีกที แต่ว่าพรรคก้าวไกลก็มีตัวร่างที่จะเสนอแก้ไข 112 ไว้แล้ว เนื้อหาก็อย่างที่บอกข้างต้น ที่ตนว่าเป็นประโยชน์และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่มั่นคงสถาพร คู่แผ่นดินไทยแน่นอน
นายธีรัจชัย ย้ำว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลประกาศไว้ เราต้องเอามาทำ แต่ว่ามันจะถูกขวางอย่างไร ก็ต้องมาว่ากันอีกทีหนึ่ง แต่สิ่งที่พรรคประกาศไว้อย่างไร ต้องเป็นแบบนั้น และอยู่ที่ว่าการตั้งรัฐบาลจะมีการต่อรองกันอย่างไรบ้าง อันนั้นคือด่านแรก แต่เจตจำนงของเรา คือต้องทำตามนโยบายทุกอย่างที่เราได้ทำสัญญาประชาคมไว้
อนึ่งก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า สำหรับแคนดิเดตประธานสภาฯ ที่จะมาจากพรรคก้าวไกลตอนนี้ เริ่มมีบางชื่อที่ถูกคาดหมายว่าอาจจะถูกเสนอให้ที่ประชุมโหวตเห็นชอบให้เสนอชื่อเป็นประธานสภาฯ เช่นนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่จะเป็นส.ส.สมัยที่สอง นายธีรชัย พันธุมาศ ว่าที่ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกลที่ก็เป็นส.ส.สมัยที่สองเช่นกัน เป็นต้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประธานสภาฯ แนะดูรธน.เกาหลีใต้ ลงโทษผู้ทำรัฐประหารได้จริง ประชาชนต้องร่วมมือกัน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการกล่าวในการเปิดงานเสวนาวิชาการวันรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2567 ในหัวข้อ “อนาคตรัฐสภาไทย“ ระบุ อยากเห็นรั้วในการป้องกันการรัฐประหาร โ
'วันนอร์' ยันเปิดสภาฯ ถกร่างแก้รธน. รายมาตรา 17 ฉบับ ภายใน ธ.ค.นี้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร แสดงความเห็นกรณีที่นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุ
‘เดียร์’ ซัด ‘พิธา’ บอกนายกฯไม่ตอบกระทู้สภา ทั้งที่ตรงวันแถลงผลงานรัฐบาล
ฝ่ายค้านกลับพยายามจะทำให้สังคมเข้าใจผิด ว่าท่านนายกไม่ยอมมาตอบกระทู้ในสภา โดยที่พรรคของท่านก็ทราบกำหนดการของท่านนายกมาตั้งแต่แรก
ถามอิ๊งค์ยัง! บรู๊ค บอก นายกฯพร้อมแจงฝ่ายค้านซักฟอก MOU 44
“ดนุพร” ขีดเส้นฝ่ายค้าน ขอข้อมูลเชิงลึก อภิปรายปม 'เอ็มโอยู 44' การประชุมลับ ย้ำ นายกฯ –ครม.พร้อมชี้แจงผ่านถ่ายทอดสด ไม่ว่าจะซักฟอกแบบใด ’รัฐบาล‘ ก็ไม่กังวล
'เพื่อไทย' เดินหน้าเต็มสูบ 'นิรโทษกรรม' งัดข้อประชามติชั้นเดียว
'ชูศักดิ์' เผย 'เพื่อไทย' จ่อเข็น 'กม.นิรโทษฯ' ถกพร้อมร่างอื่น พ่วงเดินหน้า 'กม.ประชามติ' แนะ 'ประธานสภาฯ-วิป' เร่งหารือแนวทาง 'แก้ รธน.' เหตุ อาจเสียเวลาเปล่า
ค้าน ‘VAT’15% ‘พิธา’ สอน ‘อิ๊งค์’ ต้องปฏิรูปภาษี
"พิธา" แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ดีกว่าเจาะจงที่แวต ถามตัวเลข 15% มาจากไหนไม่เข้าใจ ด้านประธานหอการค้าขอนแก่นระบุการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรขึ้นไม่เกิน 10%