‘พิธา’ ฝากฝัง ‘ชัยธวัช’ ขอสมาชิกรักตัวเองอย่างไร ให้รักหัวหน้าใหม่อย่างนั้น ย้ำ แกนกลางก้าวไกลยังคงอยู่ โว นำเลือกตั้งครั้งแรกก็ได้มา 151 แล้ว หากเทียบบัญญัติไตรยางค์ รอบหน้าไม่ต่ำกว่า 300 ชู 3 กลยุทธ์ แข่ง-ขยับ-ขยาย จนกว่าจะถึงเส้นชัย
24 ก.ย.2566-ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ในกิจกรรม “ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” ในช่วงสุดท้าย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ขึ้นบรรยายในหัวข้อ “ยุทธศาสตร์ก้าวไกลก่อนถึงวันเข้าทำเนียบ” ตอนหนึ่งระบุว่า แม้ว่าเราจะลาจากกันแต่ขอบอกกับทุกท่านว่าจากกันไม่ตลอดไป เพราะจะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม 3 ปี กับ 185 วัน เป็นการเดินทางของพวกเราที่ตนจะไม่มีวันลืม ตนเต็มใจกับสิ่งที่ได้ทำร่วมกันมาทุกๆวันที่เราทำร่วมกัน มันคือการจุดไฟกลางสายลม การจุดไฟกลางสายลมนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่เรากำลังร่วมกันสำเร็จแล้ว ไม่ว่าท่านจะหวังสมหวังหรือผิดหวัง แต่ในเมื่อไฟที่จุดติดกลางสายลมแล้ว อย่าให้มันดับโดยเด็ดขาด กลับมาเมื่อไหร่ จุดไฟเหมือนเดิมแน่นอน บอกกับพี่น้องแล้วว่าจากกันไม่ตลอดไป กลับมาอีกครั้ง ก้าวต่อไปก้าวไกลทั้งแผ่นดิน แต่พี่น้องอย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด อย่าไปฟังนักวิชาการ อย่าไปฟังกูรูการเมืองที่บอกว่าถึงแม้ผู้นำชุดใหม่จะเป็นผู้นำชั่วคราว แต่เขาไม่ใช่ชุดผู้นำขัดตาทัพแต่อย่างใด เขาคือผู้นำตัวจริงเสียงจริงของพรรคก้าวไกล
“พรรคก้าวไกลไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล พวกเราคือผู้คนและการเดินทาง ถึงแม้บุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่อยู่ ต้องลาออก ต้องโดนตัดสิทธิ์ ย้ายพรรค แต่แกนกลางนั้นยังอยู่ นั่นก็คืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เราคือสายธารแห่งความหวัง เราคือสายธารของความเป็นไปได้ เราคือสายธารของความศรัทธา เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่เข้าใจผิดว่าหัวหน้าพรรคคนเมื่อกี้ เป็นแค่หัวหน้าพรรคขัดตาทัพ เขาเข้าใจผิด เพราะเขาผู้นั้นคือตัวจริงเสียงจริงของฝ่ายประชาธิปไตย ท่านรักพิธาอย่างไร ต้องรักชัยธวัชอย่างนั้น อย่างที่ผมบอกกับพี่น้องไว้ว่าพรรคก้าวไกลของเราคือผู้คนและการเดินทางมันคือสายธาร”
นายพิธา กล่าวว่า เราเป็นสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ แม้จะมีอุปสรรค เราก็สามารถที่จะไหลไปเรื่อยๆ สายน้ำที่อยู่ใกล้ดิน หมายถึงใกล้ชิดประชาชน น้ำไหลจากบนลงล่างเสมอ หมายถึงความถ่อมตัว ไม่มีหรอก ฝนตกขึ้นฟ้า ฝนต้องตกลงดิน แต่เมื่อสายธาร สายน้ำถูกบีบกระทบ โดนดันมากๆสายน้ำก็พร้อมที่จะพังทลายเหมือนผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา จงเป็นสายน้ำ ที่ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ไม่ว่าจะอยู่ใน product แบบไหน ก็สามารถที่จะปรับตัวได้ จะเป็นน้ำแข็งก็ได้ จะเป็นไอน้ำก็ได้ ตราบใดที่อุดมการณ์เรายังเหมือนเดิม ตราบใดที่หลักการเรายังเหมือนเดิม ตราบใดที่เนื้อหาของพวกเรายังเหมือนเดิม ตราบใดที่เรายังมีความฝันและมีเป้าหมายเดียวกัน ความฝันที่ไม่มีเป้าหมายก็เป็นแค่ความฝันใช่หรือไม่ เป้าหมายของเรา ในการทำงานการเมืองที่ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้าน ก็คือฝ่ายค้านเชิงรุก
“ก่อนที่จะขึ้นมาเมื่อวานได้ไปเจอนักข่าวต่างประเทศเขาถามผมว่าแล้วพรรคก้าวไกลจะเอาอย่างไรต่อ ชนะแล้วบริหารไม่ได้ พี่น้องรู้ไหมครับว่าผมตอบว่าอย่างไร … ผมนำเลือกตั้งครั้งแรก ได้มา 151 จาก 50 เป็น 150 เดี๋ยวเลือกตั้งครั้งต่อไป เทียบบัญญัติไตรยางค์ก็รู้แล้วว่าจาก 150 จะกลายเป็นเท่าไหร่”
นายพิธา กล่าวว่า แล้วเมื่อความฝันมีเป้าหมาย ชนะเลือกตั้งขนาดนั้น ไม่ได้ปกครองต่อไปให้มันรู้ไป เราจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ก็คงมีคำถามต่อว่าแล้วฝ่ายค้านเชิงรุกเป็นอย่างไร แตกต่างจากฝ่ายค้านทั่วไปอย่างไร ผมก็ต้องบอกพี่น้องภายในหนึ่งประโยคหวังว่าพี่น้องจำได้แล้วเอาไปประชาสัมพันธ์ต่อ พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านที่ไม่ได้จ้องจะค้านรัฐบาลอย่างเดียว จะเป็นฝ่ายค้านพี่อยู่ข้างประชาชน จะเป็นฝ่ายค้านที่จะสั่งสมชัยชนะไปเรื่อยๆ จนเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดของคนไทย ด้วยกลยุทธ์ แข่ง ขยับ และขยาย
1.เราพร้อมจะแข่งทุกสนามเลือกตั้ง 4 ปี 4 สนามใหญ่ เกิดก้าวไกลทั่วประเทศแน่นอน ปีที่หนึ่ง อบจ. ปีที่สองเทศบาล ปีที่สาม ผู้ว่าราชการกทม. ปีที่สี่ เลือกตั้งใหญ่แล้วเจอกัน 2.แข่งเสร็จแล้วไม่พอ เราต้องขยับด้วย ตอนนี้เรามี สส. เขต บัญชีรายชื่อ มีท้องถิ่น มีส้มจี๊ด มีมูลนิธิ เวลาเราขยับมันไม่ขยับคนเดียว ไม่ใช่แค่ประธานไม่ใช่แค่หัวหน้าขยับ เวลาขยับกันทีขยับกันเป็นองคาพยพ ไม่สะเทือนให้มันรู้ไป 3.สุดท้ายเราต้องขยาย ตนมีความมั่นใจเหลือเกินว่าพรรคก้าวไกลจะขยายสมาชิกที่ตอนนี้มีอยู่ 80,000 กว่าคน เพิ่มขึ้นเดือนละ 10,000 คน สักวันหนึ่ง อีกไม่นาน พรรคก้าวไกลจะขยายฐานสมาชิก และเป็นพรรคที่มีสมาชิกเยอะเป็นอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แล้วอีกไม่นานความฝันที่เรามีร่วมกันจะกลายเป็นความจริงของพวกเราที่พวกเราภูมิใจร่วมกัน
“อย่าลืมสิ่งที่พวกเราได้ทำร่วมกันมา เราชนะในกติกาที่เขาเขียน เราชนะในช่วงที่ไม่มีใครคิดว่าเราจะชนะได้ เราชนะในการเลือกตั้งที่มีส่วนร่วมของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ขอให้พากันออกไปจนกว่าจะถึงเส้นชัยของพวกเรา จะก้าวอย่างไร ต้องก้าวด้วยกัน เพื่อที่จะก้าวต่อไปก้าวไกลทั้งแผ่นดิน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ค้าน ‘VAT’15% ‘พิธา’ สอน ‘อิ๊งค์’ ต้องปฏิรูปภาษี
"พิธา" แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ดีกว่าเจาะจงที่แวต ถามตัวเลข 15% มาจากไหนไม่เข้าใจ ด้านประธานหอการค้าขอนแก่นระบุการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรขึ้นไม่เกิน 10%
'พิธา' แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ มากกว่าปรับขึ้น VAT 15% สงสัยอยู่ดีๆก็โพล่งมา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรัฐบาลมีแนวคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ว่า ภาษีในประเทศ มีทั้งภาษีทางตรง
'พิธา' ลุยช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.อุบลฯ หวังเป็นตาอยู่ ศึก 2 ขั้วใหญ่ชนกันเอง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยนายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้