1 พ.ย.2566 - ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6)ประกอบมาตรา 98(3)หรือไม่จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทไอทีวีจำกัดมหาชนซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆอยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้งสส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 19 ก.ค 2566 และนายพิธา ผู้ถูกร้องได้ยื่นขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาจำนวน 2 ครั้งครั้งละ 30 วันซึ่งศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตตามคำขอนายพิธา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาโดยศาลรัฐธรรมนูญได้ดำเนินกระบวนพิจารณามาแล้ว 11 ครั้งเรียกให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐานจำนวน 12 รายศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแต่เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้รอคำชี้แจงและพยานหลักฐานจากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งศาลเรียกไปก่อนหน้านี้และเรียกให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งคำชี้แจงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วยโดยกำหนดนักพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 15 พ.ย.2566เวลา 09.30 น.
ส่วนคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพระพุทธะอิสระขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..)พ.ศ..เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ และต่อมาผู้ถูกร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีระบุพยานบุคคลฉบับลงวันที่ 9 ต.ค.2566และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค 2566 นั้น คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 12 ก.ค 2566 และดำเนินกระบวนพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานมาแล้ว 37 ครั้ง มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 7 วันนับแต่วันได้รับหนังสือแล้ว จึงกำหนดและพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 15 พ.ย 2566 เวลา 09:30 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' ร้องนายกฯ 'ยุบสภา' ซัดพรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งหนัก ทำถกแก้รธน.ล่ม!
สส.พริษฐ์ หรือ 'ไอติม' ตั้งคำถามถึงสาเหตุที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องชะงัก หลังพรรคเพื่อไทยล่มประชุมสภาต่อเนื่อง 2 วัน ซัดแรง!หรือแท้จริงแล้วเป็นเพราะความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล มากกว่าประเด็นข้อกังวลทางกฎหมาย พร้อมเรียกร้อง นายกฯ ควรพิจารณาข้อเสนยุบสภา!
ดร.ณัฏฐ์ ชี้เกมยื้อแก้รธน. 'ปชน.-พท.' ข้ามขั้นตอน เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรธน. ส่งตีความก็ไม่ช่วย
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน เผย พลิกเกมยื้อแก้ไข รธน.ฉบับ ปชน.-พท. แม้บรรจุเป็นวาระแล้ว เป็นการลักไก่ ข้ามขั้นตอน ไม่ใช่ปัญหาความขัดแย้ง แม้ส่งศาลรธน. ย่อมไม่มีอำนาจรับไว้พิจารณา
'หมอเปรม' ยันไม่ถอนญัตติส่งศาลฯวินิจฉัย ชี้การเมืองสามก๊ก แก้รธน.ไม่มีทางสำเร็จ
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.ผู้เสนอญัตติต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาให้ส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมล่มเป็นวันที่ 2 ว่า สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการเมืองแบบสามก๊กได้ชัดเจนมาก
'ธรรมนัส' ชี้แก้รธน. รัฐบาลต้องเดินไปด้วยกัน ไม่โกรธหากเห็นต่าง
'ธรรมนัส' ยันวิปรัฐบาลคุยกันแล้ว ประเด็นแก้รัฐธรรมนูญต้องเดินไปด้วยกัน แต่ไม่โกรธกันถ้าต่างมีหลักการของตัวเอง
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'เพื่อไทย' ต้องลงทุนยกร่างรธน.ฉบับใหม่
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไมต้องลงทุนยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่" โดยระบุว่า
'หยุดเดินดีกว่าเดินต่อแล้วตกเหว' เพื่อไทยบอกชัดเหตุหนุนญัตติ 'หมอเปรม'
'เพื่อไทย' แถลงจุดยืน หนุนญัตติ 'หมอเปรมศักดิ์' ยื่น 'ศาล รธน.' ตีความ บอกประสานทุกฝ่ายแล้ว ประเมินล้มเหลว ถูกตีตกแน่ ชี้หยุดเดินดีกว่าเดินต่อแล้วตกเหว ลั่นอยากพูดคำว่าแก้ได้แล้ว ไม่ใช่แก้แล้ว