เปิดรายงานสภาสูง ชี้พฤติการณ์จาบจ้วงสถาบันฯ ทวีรุนแรง เข้าข่ายภัยมั่นคง

เปิดรายงาน กมธ. สภาสูง ชี้พฤติการณ์จาบจ้วงล่วงละเมิดต่อสถาบันฯ นับวันยิ่งทวีความรุนแรง เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคง ย้ำมีการทำเป็นกระบวนการ หวั่นเกิดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม

19 ก.พ. 2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า สำหรับการประชุมวุฒิสภาวันจันทร์ที่ 19 ก.พ.นี้ มีระเบียบวาระที่น่าสนใจคือ รายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง "แนวทางเชิงรุก Knight 410 สื่อสารความจริงด้วยความรักเพื่อความมั่นคงของประเทศ"

โดยเป็นรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ที่มีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ สมาชิกวุฒิสภา และอดีต รมว.ยุติธรรม ยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ

ซึ่งรายงานดังกล่าวระบุว่า เป็นผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากการจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในเรื่องที่เกี่ยวกับการสื่อสารในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามแนวคิดการสื่อสารสมัยใหม่ ด้วยการใช้วิธีการ เครื่องมือ และรูปแบบการสื่อสารที่ทันสมัย สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯได้ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลจากแนวคิดต่างๆ โดยได้ริเริ่มหลักสูตรเชิงรุกด้านการสื่อสาร เพื่อพัฒนาความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้ง มุ่งเน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมด้วยกลยุทธ์ด้านการสื่อสารแบบ Proactive สร้างองค์ความรู้ที่เป็นชุดความรู้ ความคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่คู่สังคมไทย และเพื่อความมั่นคงของประเทศ

รายงานดังกล่าวระบุว่า คณะอนุกรรมาธิการศึกษาและเสนอแนะแนวทางด้านการสื่อสารในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่อยู่ในคณะกรรมาธิการฯ ประสบผลสำเร็จในการใช้หลักสูตรต้นแบบ 2 หลักสูตร หนึ่งในนั้นคือ หลักสูตร Knight 410 ที่เป็นหลักสูตร เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมการสื่อสารในเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกต้อง เพื่อดำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ

ซึ่งในเอกสารดังกล่าวระบุว่า คำว่า “Knight 410” มีความหมายว่า “อัศวินผู้ทำหน้าที่สื่อสารความจริงด้วยความรัก” (คำพ้องเสียงที่หมายถึงอัศวินของรัชกาลที่ 10)

ที่น่าสนใจ รายงานดังกล่าวระบุถึงสภาพปัญหาในปัจจุบันที่มีการแสดงความคิดเห็นพาดพิงสถาบันฯ ไว้ว่า เป็นเรื่องที่ดําเนินการในลักษณะที่เป็นภัยต่อความมั่นคง โดยมีการกระทําที่เป็นกระบวนการ

โดยเนื้อหาช่วงดังกล่าว ระบุไว้ดังนี้ จากสถานการณ์ในปัจจุบัน มีผู้นำวิทยาการสมัยใหม่ด้านการสื่อสารมาเป็นเครื่องมือในการเรียกร้องและแสดงความคิดเห็นพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดสภาพปัญหาในสังคม ดังนี้

1.มีการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการใช้ภาษาที่รุนแรง นําไปสู่ความขัดแย้ง สร้างความเกลียดชังและแตกแยกในสังคม

2.มีการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง หรือบิดเบือน อันเป็นการกระทําผิดกฎหมาย แล้วนําไปขยายผลใน Social Media โดยอ้างหลักการในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพ อันเป็นชนวนเหตุหรือเงื่อนไขนําไปสู่การใช้ความรุนแรง ทําให้เกิดปัญหาลุกลาม บานปลาย ขยายวงกว้างและยากต่อการควบคุม เนื่องจากต้องใช้มาตรการบังคับใช้ทางกฎหมายเข้ามาควบคุม และเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้เรียกร้องและเจ้าหน้าที่รัฐในการระงับเหตุ

3.มีการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง หรือบิดเบือน ด้วยการใช้ภาษาที่รุนแรงในลักษณะดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย อันเป็นการกระทําผิดกฎหมาย ผู้ที่พบเห็นการกระทําดังกล่าวไม่กล้าที่จะสื่อสารความจริง เพราะเกรงว่าจะถูกรบกวนความเป็นส่วนตัวหรือบางคนกล้าที่จะสื่อสารแต่ผลที่ได้กลับทําให้เกิดแนวร่วมมุมกลับ หรืออาจเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้ที่กระทําผิดกฎหมายเสียเอง เนื่องจากขาดองค์ความรู้ในเรื่องกฎหมาย หรือขาดทักษะด้านการสื่อสาร เป็นต้น

ในรายงานดังกล่าวระบุว่า จากสภาพปัญหาดังกล่าว แม้ว่าหน่วยงานของรัฐจะได้ดำเนินการในการปกป้องและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการอื่นทางสังคมก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

รายงานระบุว่า ในทางกลับกันพฤติการณ์การจาบจ้วงล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการดูหมิ่น หมิ่นประมาทและแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์พระราชินีและรัชทายาท ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์

"พฤติการณ์การจาบจ้วงล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถูกดําเนินการในลักษณะที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ มีการกระทําที่เป็นกระบวนการ ใช้วิธีการสร้างเครือข่ายแล้วเผยแพร่แนวความคิดและอุดมการณ์ไปยังประชาชนที่นิยมในตัวผู้นำกลุ่มแนวความคิดนั้นๆ ด้วยการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์การโฆษณา ผ่านทางหนังสือ หรือบทความ รวมถึงการชุมนุมเรียกร้องของประชาชนที่มีเผยแพร่ทางสื่อสารมวลชนอันเป็นชนวนให้เกิดการปลุกกระแสให้ประชาชนบางส่วน เข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อนึ่ง พฤติการณ์ดังกล่าว นอกจากจะมีลักษณะที่ไม่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพสังคมและจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นของประเทศไทยที่ให้ความเคารพสักการะและเทิดทูนองค์พระมหากษัตริย์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีความแตกต่างจากชาติอื่น ซึ่งมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม" รายงานดังกล่าวระบุไว้ตอนหนึ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.ป้อง 'อนุทิน-เอกนิติ' ร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' บอกอาจไม่รู้เบื้องลึกมาก่อน!

'พล.อ.สวัสดิ์' มอง 'อนุทิน-เอกนิติ' ร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อาจไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังมาก่อน ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรม เชื่อรัฐบาลชัดเจนหากพบเชื่อมโยงสแกมเมอร์จัดการตามกฏหมายอยู่แล้ว

สภาสูงอวยรัฐบาลแก้น้ำท่วมไม่ล่าช้า! แต่ติดใจเงินเยียวยา 9 พันบาท

'สว.ภิญญาพัชญ์' ชี้รัฐบาล ควรจัดศูนย์ One Stop Service บริการ ปชช. เร่งจ่ายเงินเยียวยา ถามให้ 9,000 เท่าเทียมหรือไม่ มองรัฐบาลทำงานไม่ล่าช้า ลงพื้นที่รวดเร็ว

มาดุ! 'บิ๊กเกรียง' ฉะคนปล่อยเฟคนิวส์ หาน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะเอาหัวเสียบประจาน

'บิ๊กเกรียง' รับมอบของบริจาคช่วยอุทกภัย ฉะ คนปล่อยเฟคนิวส์ หาว่าน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะหัวเสียบประจาน ถามเอาจากไหนมาพูด บอก เสียหาย ถ้าเล่นการเมืองกัน ทำขวัญของประชาชนตกต่ำ ให้กำลังใจ 'นายกฯอนุทิน-รัฐบาล' เชื่อทำตามแผนฟื้นฟู-เยียวยาอยู่แล้ว

ศาลสั่งจำคุก 4 ปี 'สว.ธนกร' คดีลักทรัพย์คนตายจากอุบัติเหตุ

ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายธนกร ถาวรชินโชติ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งในขณะนั้นเพียงผู้ที่ทำธุรกิจประมง เเละนายอภิชัย หมู่มาก จำเลยที่ 1 เเละ2 ฐานลักทรัพย์ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท

ดิ้นสู้สุดซอย! 'โจ๊ก' ให้ข้อมูล สว. ขยี้องค์กรตำรวจพังพินาศ รับส่วยเว็บพนัน-ซื้อขายตำแหน่ง

'บิ๊กโจ๊ก' เข้าแจง 'กมธ. การกฎหมายฯ สว.' ซัดตำรวจซื้อขายตำแหน่ง เป็นเรื่อง 'เลวระยำ' ลั่น ถ้าเราไม่ส่งเสริม ลูกน้องก็ไม่กล้าทำ ชี้ จากคนไร้อำนาจ พอขึ้นมาก็เอาหมดทุกอย่าง