ดีเดย์! 1 พ.ค. ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ-เงินบำนาญขั้นต่ำ

30 เม.ย.2567- นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (28 พฤศจิกายน 2566) อนุมัติปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับปริญญาตรีจะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 18,000 บาท และผู้ที่ปฏิบัติงานในตำแหน่งที่ใช้คุณวุฒิระดับ ปวช. จะมีเงินเดือนไม่น้อยกว่า 11,000 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี นั้น วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 คือวันที่มติดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นวันแรก

นางรัดเกล้า กล่าวว่า นอกจากดูแลข้าราชการแรกเข้าแล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญดูแลข้าราชการที่เกษียณและได้รับเบี้ยหวัดบำนาญอีกด้วย โดยคณะรัฐมนตรียังได้ออกพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2567 ซึ่งประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ผ่าน โดยมีสาระสำคัญคือการปรับปรุงอัตราเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ เพื่อกำหนดให้ผู้ได้รับ หรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญแล้วต่ำกว่า เดือนละ 11,000 บาท ให้ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญเพิ่มขึ้นตามอัตราที่กำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ โดยจะมีผลในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เช่นเดียวกัน

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) มีความพร้อม 100% และได้มีหนังสือแจ้งเวียนแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบให้ส่วนราชการต่าง ๆ ทราบแล้ว ตามหนังสือที่ นร. 1012.3/ว 9 ลงวันที่ 9 เมษายน 2567 ทั้งนี้ หากหน่วยงานใด ดำเนินการปรับไม่ทัน การปรับขึ้นเงินเดือนจะให้มีผลย้อนหลัง รวมถึงได้มีการประสานกับสำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางไว้เรียบร้อยแล้ว ขอให้ข้าราชการและผู้ได้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญ มั่นใจได้ว่าการปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแน่นอน

“การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุข้าราชการนั้น ก็เพื่อดึงดูดบุคลากรคุณภาพเข้าสู่ระบบราชการเพื่อให้ระบบราชการของไทยมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น นอกจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุข้าราชการแล้ว รัฐบาลยังคงคำนึงถึงผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญที่จะต้องดำรงชีพอยู่ได้ในสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน จึงได้ปรับเพิ่มเงินเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญให้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต และจะส่งผลให้ความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชน” นางรัดเกล้า กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลชวน รพ.รัฐทั่วประเทศ ร่วมประกวด 'รางวัลศรีสวางควัฒน'

รัฐบาลชวน รพ.รัฐทั่วประเทศ ร่วมประกวดโครงการ 'รางวัลศรีสวางควัฒน' เทิดพระเกียรติ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

ชวนร่วมงาน SUBCON Thailand 2024 ตั้งเป้าสร้างมูลค่า 2 หมื่นล้าน

นายกฯ เปิดงาน 'SUBCON Thailand 2024' 15 พ.ค. ตั้งเป้าจับคู่ธุรกิจ 9 พันคู่ คาดสร้างมูลค่าเชื่อมโยง 2 หมื่นล้าน เดินหน้านโยบายพัฒนาไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมโลก

ดีเดย์ 15 พ.ค. 'อสม.' เฮ! รับเงิน 8 พันบาท

'เกณิกา' เผย 15 พ.ค.นี้ อสม. ทั่วประเทศ รับเงินค่าป่วยการใหม่-เงินตกเบิกย้อนหลัง รวม 8 พันต่อคน ยันรัฐบาลให้ความสำคัญจิตอาสาที่เสียสละดูแลสุขภาพประชาชน

'รองโฆษกรัฐบาล' ทุบ 'โน้ส อุดม' ตลกหากิน อย่าเอาความไม่รู้เรื่องพอเพียงมาทำให้คนอื่นโง่ตาม

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอุดม แต้พานิช หรือ ‘โน้ต อุดม’ จัดรายการทอล์กโชว์ เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ ที่ระบุถึงความพอเพียง ว่า ตนเป็นคนอีสาน เป็นคนชนบท