จริงๆ ท่านก็อิสระอยู่แล้วในเรื่องนโยบายการเงิน ผมมองว่าความอิสระนั้นก็มีมาตลอด และสามารถกำหนด และตัดสินได้ด้วยวิจารณญาณ รวมถึงคนที่เข้ามาร่วมกันตัดสินนโยบาย ซึ่งทั้งหมดก็ต้องเป็นไปเพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐ
7 พ.ค.2567- เมื่อเวลา 07.40 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เข้าสักการะพระพรหม ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายายประจำทำเนียบรัฐบาล ภายหลังรับตำแหน่ง
จากนั้น นายพิชัย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นวันเข้าทำงานอย่างเป็นทางการของตน ซึ่งจะเข้าทำงานทั้งสองที่คือที่ทำเนียบรัฐบาล และที่กระทรวงการคลัง ซึ่งจะมีการหารือเป็นการภายใน แต่ตนทราบอยู่แล้วว่าภารกิจเร่งด่วนคืออะไร ตนจะใช้หน้าที่และความรับผิดชอบที่มีอยู่ในการสะสาง และจัดการปัญหาที่คิดว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และดีต่อผลประโยชน์ของประเทศโดยตนจะทำอย่างสุดความสามารถ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ เขาตอบว่าประเด็นดังกล่าวจะเป็นงานประจำไปแล้ว ซึ่งต้องมีการพูดคุย และมีการรายงานความคืบหน้าอยู่ตลอด
เมื่อถามว่า จะมีการแถลงข่าวหรือรายงานความคืบหน้าอย่างไรเมื่อมีการแบ่งงานให้กับรมช.คลัง นายพิชัย กล่าวว่า ขอหารือในช่วงบ่ายนี้ก่อน ตนมีข้อมูลอยู่แล้ว
ถามถึงโปรเจกต์ของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจจากนี้จะมีอะไรหรือไม่ รมว.คลัง เผยว่าทุกคนทราบผลลัพธ์ และเห็นปัญหาเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพใด เพียงแต่ทุกคนมองปัญหา และมีวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน ฉะนั้น เราคงต้องหาข้อยุติที่ตกผลึกแล้ว และพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจร่วมกันมากที่สุดเพื่อนำมาซึ่งแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
ซักว่า จะต้องมีการพูดคุยปัญหากับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือไม่ นายพิชัย ระบุว่า เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นทั้งหน้าที่ และความรับผิดชอบของตน ร่วมกับธปท. ที่เราจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้เครื่องจักรสองเครื่องทั้งนโยบายการคลัง และนโยบายการเงินให้สอดคล้อง และเดินไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก่อนจะเดินทางได้เราต้องตกผลึก และทำความเข้าใจก่อนว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีโอกาสจะพูดคุยกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯธปท.หรือไม่ รมว.คลัง ยืนยันว่า แน่นอน เป็นหน้าที่ที่ต้องพูดคุยอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า มองเป็นเรื่องยากหรือไม่ที่จะพูดคุยกับผู้ว่าฯธปท. นายพิชัย ตอบว่าผู้ว่าฯธปท. จะคุยด้วยข้อเท็จจริงและเหตุผล ประกอบกับในอดีตตนเคยสัมผัสกันอยู่แล้วบ้างในช่วงที่ทำงานด้านการธนาคาร ฉะนั้น จึงคิดว่าจะพูดคุยกัน และไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกันได้
ส่วนกระแสข่าวการแก้ไขกฎหมายให้ธปท. อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลนั้น นายพิชัย กล่าวว่าเรื่องนี้มาดูกันอีกทีดีกว่าว่าใช่ปัญหาหรือไม่
ถามถึงกระแสต่อต้านเนื่องจากมองว่าธปท.ควรเป็นอิสระ นายพิชัย กล่าวว่า ก็เป็นธรรมชาติ และทุกคนต้องมีความเห็นต่าง แต่ถ้าคุยกันแล้วตกผลึกได้ ก็เชื่อว่าความเห็นต่างก็จะค่อยๆแคบลง และนำมาซึ่งข้อสรุปที่ดี เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจมองว่าธปท. ควรอยู่ภายใต้กำกับของรัฐบาลหรือเป็นอิสระ นายพิชัย กล่าวว่า จริงๆ ท่านก็อิสระอยู่แล้วในเรื่องนโยบายการเงิน ตนมองว่าความอิสระนั้นก็มีมาตลอด และสามารถกำหนด และตัดสินได้ด้วยวิจารณญาณ รวมถึงคนที่เข้ามาร่วมกันตัดสินนโยบาย ซึ่งทั้งหมดก็ต้องเป็นไปเพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐ
ซักว่า เมื่อเข้ามาเป็นรมว.คลัง ปัญหาที่นายกฯ และพรรคเพื่อไทยพูดถึงจะหมดไปหรือไม่ รมว.คลัง ปฏิเสธว่ายังไม่ขอตอบ ขอให้ได้หารือกับท่านก่อน ส่วนจะมีโปรเจกต์อื่นๆมาดูแลประชาชนในช่วงนี้หรือไม่นั้น ก็จะเป็นเรื่องคู่ขนานในการที่เราจะหาเครื่องมือมาผลักดันขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่พร้อมกับแก้ปัญหาเดิม ซึ่งคนร่วมผลักดันจริงๆคือประชาชนจริง และหน่วยงานทั้งหมด ฉะนั้น หากเราแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ก็จะมีแรงขับเคลื่อน ก็น่าจะเป็นวิถีทางที่ดีที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กว่า 150 รายชื่อ หนุนแบงก์ชาติ ติง ‘การเมือง’ ขู่
ล่าชื่อนักวิชาการ ภาคเอกชนกว่า 150 ชื่อ นายกสมาคมเศรษฐศาสตร์แห่งประเทศไทยนำทีม
'แพทองธาร' แจงเหตุวิจารณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีปาฐกถาวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในงาน
'พิชัย' ตอบ 'กฤษฎา' ไม่เป็นไร วิธีการทำงานของผมมีเหตุมีผล
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อยเดินขึ้นประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ถึงกรณี
เดือด! 'ภูมิธรรม' ขู่ใช้พ.ร.บ.คอมพ์ ปิดปากคนวิจารณ์ข้าวเน่า 10 ปี
ที่อาคารสุเมธตันติเวชกุล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐม
สั่งรีดงบหมื่นล้าน อุ้มลูกหนี้1ล.ราย หนุนออมสินช่วย
“คลัง” สั่งรีดงบ 1 หมื่นล้านบาท ลุยล้างประวัติหนี้เสียอุ้มลูกหนี้ 1 ล้านราย
'กฤษฎา' แจงลาออก รมช.คลัง ซัดขุนคลังคนใหม่ไม่ให้เกียรติ ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
หนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรมช.คลังของ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ที่ส่งถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 8 พ.ค.67 มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกระผมให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2567 นั้น กระผมขอเรียนว่า กระผมมีความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง