“บิ๊กโจ๊ก” เดือดเตรียมฟ้องนายกฯ - ก.ตร.ยกชุด ชงเองกินเองเห็นชอบคำสั่ง มั่นใจจะได้รับความเป็นธรรมจาก “ก.พ.ค.ตร.” เผยนายกฯบอกจะให้ความเป็นธรรมเป็นแค่วาทะกรรม พึ่งใครไม่ได้นอกจากตัวเองและกฎหมาย ใครไม่โดนแบบผมบ้างจะไม่เข้าใจ
27 มิ.ย.2567 - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.มีติเอกฉันท์คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย ว่า ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่ผิดความคาดหมายรู้อยู่แล้ว ตนเป็นรอง ผบ.ตร.เป็นตำรวจ รู้วิธีการดำเนินการของตำรวจ ที่เลขา ก.ตร.ออกมาแถลงเขาไม่ได้บอกว่ามีมติ 12 ต่อ 0 เขาบอกว่า ก.ตร.ไม่มีอำนาจให้ไปรอฟังการวินิจฉัยของคณะกรรมการระบบพิทักษ์คุณธรรมตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ในเรื่องนี้ ก.ตร.ไม่มีอำนาจพิจารณาเพราะเรื่องการใช้สิทธิ์อุทธรณ์ร้องทุกข์ต่างๆ เมื่อกรณีคำสั่งการปกครองไม่ชอบ ยกตัวอย่างเช่นกรณีการโยกย้ายตำรวจไม่ชอบ ตำรวจคนนั้นต้องไปยื่นศาลปกครอง อนุ ก.ตร.วินัยไม่มีอำนาจพิจารณา เช่นเดียวกันกับกรณีของพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตา ถูกให้ออกจากราชการก็ไปร้องที่ศาลปกครองถึงได้กลับมา
แต่ขณะนี้ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ออกแบบมาเพื่อไม่ให้ตำรวจไปร้องเรียนหน่วยงานอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียนแบบข้าราชการพลเรือให้มีคณะกรรมการระบบพิทักษ์คุณธรรมเทียบเท่าศาลปกครองชั้นต้น ดูแลความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนก็คล้ายกับ พล.ต.อ.วิระชัย ได้ยื่นต่อ ก.พ.ค.ตร.ไปตามระบบขั้นตอน และวันนี้ ก.พ.ค.ตร.อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่มีความพยายามไปเอามติของ อนุ ก.ตร.วินัยเพื่อไปยืนยันว่าการดำเนินการของ รรท.ผบ.ตร.นั้น ชอบด้วยกฎหมาย แล้วนำเข้า ก.ตร.เพื่อมติ อนุ ก.ตร.วินัยไม่มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ อนุ.วินัยจะพิจารณาได้อย่างเดียวว่า ผบ.ตร.มีอำนาจหรือไม่มีอำนาจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงนายเศรษฐา ทีวิน นายกรัฐมนตรี หนึ่งในคณะกรรมการ ก.ตร.เห็นด้วยให้ออกจากราชการไว้ก่อนมีนัยยะหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่านัยยะมีแน่ เริ่มแรกตนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนจึงได้ทำหนังสือถึงนายกฯ คำสั่งมันไม่ชอบไม่ถูกต้องให้นายกฯสั่งการ ผบ.ตร.ให้ยกเลิกเพิกถอนคำสั่ง ทั้งคำสั่งต้องกรรมการสอบสวนและคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ต่อมามีหนังสือรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอ้างว่าตามบัญชานายกรัฐมนตรีให้แจ้งตนว่า 2 คำสั่งนั้นชอบด้วยกฎหมาย ต่อมามีคำวินิจฉัยกฤษฎีกาข้อสังเกตบอกว่าคำสั่งไม่ชอบ ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจ
ต่อมานายกฯออกมาพูดอีกว่าคำสั่งไม่สมบูรณ์จึงยังไม่นำความกราบบังคมทูลและส่งหนังสือ ตร.ที่ส่งให้นายกฯกราบบังคมทูลส่งกลับไปยัง ผบ.ตร.บ่งบอกว่านายกฯยืนยันแล้วว่าคำสั่งไม่ถูกต้อง ถ้าถูกต้องนายกฯต้องนำความกราบบังคมทูลแล้ว ถ้านายกฯไม่นำกราบบังคมทูล นายกฯก็ละเว้น นายกฯก็เซฟตัวเองส่งไปให้กฤษฎีกาตีความ
เมื่อมีกฤษฎีกาเป็นหลังพิงนายกฯก็โยนไปให้ ผบ.ตร.ทำเองแก้เอาเอง นายกฯคิดว่าจะพ้นตัว
ต่อมานายกฯไปนั่งเป็นประธาน ก.ตร. แล้วไม่คัดค้านได้อย่างไรเพราะคำสั่งไม่ถูกต้อง แล้วยังไปรับรองอีกอย่างนี้เรียกว่าความผิดสำเร็จแล้ว ความผิดสำเร็จคือนายกฯไม่นำความกราบบังคมทูล แล้วยังไปนั่งเป็นประธาน ก.ตร.รับรองว่าคำสั่งถูกต้อง เมื่อไปรับรองความผิดสำเร็จ หลังจากนี้ก็ต้องดำเนินคดี
เมื่อถามว่านอกจากนายกฯแล้วคณะกรรมการ ก.ตร.จะดำเนินคดีทั้งหมดด้วยหรือไม่ เขาตอบว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของ ก.พ.ค.ตร.แล้ว ก.ตร.มีอำนาจหรือเปล่า
ถามอีกว่าถ้าฟ้องทั้งหมดจะไม่เอาพวกไว้บ้างเหรอ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่าพวกผมมีเยอะ ที่ประชุมมีสิบกว่าคนแต่ความยุติธรรมมันทั้งประเทศ วันนี้ตำรวจหลายคนติดตามอยู่ว่าอันไหนผิดอันไหนถูก ไม่ใช่ว่าวันนี้ตนจะไปเป็นศรัตรูกับเขา แต่ต้องทำอย่างถูกต้อง เขาต้องไปดูว่าเรื่องอะไรก็ตามมีอำนาจพิจารณาหรือไม่ เหมือนกันกับอนุ.ก.ตร.วินัย เป็นตำรวจ แล้ว อนุ.กร.วินัยจะกล้าไปบอกว่าคำสั่ง ผบ.ตร.หรือไม่ เหมือนเล่นตระกร้อชงเองกินเอง
ตำรวจเป็นระบบผู้บังคับบัญชาผู้ใต้บังคับบัญชาใครจะกล้าไปบอกคำสั่งผู้บังคับบัญชาไม่ชอบเพราะนั่นคืออายุราชการเขา ตนเข้าใจตนผ่านมาหมด เคยเป็นประธานอนุมารู้หมดว่าคิดอย่างไรแต่ไม่ตำหนิ “ใครไม่โดนแบบผมบ้างไม่เข้าใจ” หาว่าตนไปหาตีหาต่อยไม่ใช่ ตนกำลังตามหาความยุติธรรมให้กับตนเอง
เมื่อถามว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีคณะ ก.ตร.วันไหน เขาตอบว่าน่าจะประมาณสัปดาห์หน้า ใจเย็นๆให้ตนมีเวลาอ่านเอกสารหน่อย ตนว่างมีเวลาเยอะ ถามต่อถึงกรณีที่ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ประธานอนุ ก.ตร.วินัย ที่ออกมาระบุว่ายินดีที่ถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฟ้องจะได้รู้ว่าใครตำรวจดีตำรวจชั่ว เขาตอบว่าท่านไม่เข้าใจที่ตนไปยื่นฟ้องคือหมิ่นประมาท แต่ที่บอกว่าจะเอาเรื่องมาแฉก็แฉไปเลยแต่ต้องเข้าใจให้ถูกประเด็นว่าเป็นเรื่องอะไร ตนฟ้องเรื่องหมิ่นประมาท ท่านจะสอบพบอะไรก็ว่าไปแต่ท่านไม่ใช่ศาลไม่มีสิทธิ์มาวินิจฉัยคดี
เมื่อถามว่าทำไมต้องชอบมีเรื่องกับผู้บังคับบัญชา เขาตอบกลับว่าทำไมผมถูกรังแกมาทั้งชีวิต วันนี้ถ้าอายุราชการตนเหลือปีเดียวไม่มีใครมารังแกหรอก แต่ผมเหลือหลายปีดันอาวุโสอันดับ 1 ถ้าเหลือสัก 2 ปี ไม่มีใครมายุ่งกับผมหรอก เหลือหลายปี อาวุโส 1 ตรงใจประชาชน ชาวบ้านชอบทำตัวเหมือนยาสามัญประจำบ้าน
เมื่อถามถึงการอุทธรณ์คำสั่งต่อ ก.พ.ค.ตร. เขากล่าวว่ากำลังรอคำแก้อุทธรณ์ ถ้าเขาส่งมาให้ตนก็ต้องรีบดำเนินการ ตนมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ข้อพิจารณาแต่เป็นข้อกฎหมายไม่น่าจะนาน อีกอย่าง ก.พ.ค.ตร.เขาพิจารณาเหมือนศาลปกครอง ตนมั่นใจจะได้รับความเป็นธรรม เพราะเขาพิจารณาแค่คำสั่งทางปกครองว่าเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ คดีนี้เป็นคดีแรกที่เป็นคดีใหญ่ที่จะสร้างความเข้มแข้งให้กับองค์กร
ถามต่อว่าถ้า ก.พ.ค.ตร.มีผลพิจารณาไม่ว่าจะเป็นคุณเป็นโทษ เขาตอบว่า ถ้าเป็นลบใช้สิทธิ์ร้องศาลปกครองสูงสุด ถ้าศาลปกครองสูงสุดพิจารณาเป็นลบผมจบ แต่ตนคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรมต้องต่อสู้ไป
ถามต่อถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่าอย่าเพิ่งฟ้องนายกฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า ท่านอาจารย์มีความเมตตาอยากจะให้ทุกอย่างจบสมานฉันท์ ให้รอช่องทางของ ก.พ.ค.ตร. แต่ตอนนี้ผมต้องมาพิจารณาตัวผมด้วยว่าวันนี้มีการละเมิดซ้ำๆอย่างนี้ ไปเอาสิ่งผิดมาทำให้ถูกอย่างนี้ผมก็เสียสิทธิ์ ซ้ำนายกฯยังรับรองผล ก.ตร.อีกทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ากฤษฎีกาตั้งข้อสังเกตคำสั่งไม่ชอบ ตนต้องรักษาสิทธิ์ตัวเอง ทุกวันนี้พึ่งใครไม่ได้ต้องพึ่งตัวเองพึ่งกฎหมาย
ถามอีกว่านายเศรษฐา นายกฯให้สัมภาษณ์ว่าจะให้ความเป็นธรรม เขาตอบว่า นั้นเป็นแค่วาทะกรรมแต่การปฏิบัติไม่ใช่ ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำให้ชัดเจน เมื่อคำสั่งไม่สมบูรณ์วาระนี้ไม่นำเข้า ก.ตร.รอผล ก.พ.ตร. จะนำเข้าทำไมเมื่อไม่มีอำนาจพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเดินทางไปฟ้องอดีตตำรวจระดับนายพลที่ศาลอาญากรุงเทพใต้อีกคนที่ให้ความเห็นต่อการให้ออกจากราชการที่เป็นผลลบกับตัวเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
3 นายกฯ 'อิ๊งค์-ทักษิณ-เศรษฐา' ร่วมเปิดงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยจัดสัมนาภายใต้โครงการ เสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมือง มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ รวมถึงแกนนำ
'บิ๊กอ้อ' ลุยปราจีนฯ คุมสางคดีฆ่า 'สจ.โต้ง' มั่นใจหลักฐานพอ ไม่พึ่งวงจรปิด
'บิ๊กอ้อ' บินสางปมยิง 'สจ.โต้ง ปราจีน' เชื่อชนวนเหตุสังหารจากการเมืองท้องถิ่น มั่นใจหลักฐานเพียงพอ แม้วงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย
เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์ 152 ล้าน
ตำรวจภาค 2 เด็ดปีก 'มังกรเทาดำ' ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์-รถหรู 152 ล้านบาท
หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี
’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี
อย่าเสี่ยง! ‘ก.พ.ค.ตร.’ เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งตำรวจ ยืนตัวตรงไม่รับเด็กฝาก
มีโอกาสรับฟังข้อสังเกตจาก ก.พ.ค.ตร. จากประสบการณ์การวินิจฉัยสำนวนที่ผ่านมาบ้างก็จะดี เพราะชีวิตบั่นปลายการรับราชการของท่านจะได้ไม่เสี่ยงภัยกับการโดนคดีวินัยและอาญา
‘ก.ตร.เอก’ เตือนผู้มีอำนาจ ตั้ง ‘รองผบช.-ผบก.’ 116 เก้าอี้ ยึดกฎระเบียบ ฝ่าฝืนโทษวินัย-อาญา
พล.ต.อ.เอก แจงยิบการแต่งตั้ง รอง ผบช.จำนวน 41 ผบก.75 ตำแหน่ง เตือนผู้มีอำนาจแต่งตั้งทุกระดับ ทั้งโทษวินัยและอาญา