เห็นโฉมหน้ากันแล้วไปสำหรับ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ทั้งสิ้น 24 คน "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังคงได้รับความเชื่อมั่นให้เป็นเบอร์ 1 นำทัพพปชร. ในฐานะหัวหน้าพรรคต่อไปอีก
ส่วนเบอร์ 2 ของพรรค คือตำแหน่ง "เลขาธิการพรรค" ที่นอกจากต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในองค์กรและงานการเมืองประจำวันแล้ว ยังต้องมีศักยภาพหรือ "ลูกเก๋า-บารมีทางการเมือง" เพียงพอกับการทำภารกิจสำคัญ ในการนำพาพรรคออกศึกในสนามเลือกตั้ง
"ผู้กอง" ร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เพิ่งไขก๊อกพ้นตำแหน่งเลขาธิการพปชร.จากความขัดแย้งภายในพรรค อันเกี่ยวเนื่องจากโควตารัฐมนตรี แต่เมื่อครั้ง "ผู้กอง" มีบทบาทในตำแหน่งดังกล่าว จะว่านำพาพปชร.ออกศึกแล้วพรรคประสบความสำเร็จก็หาไม่
เพราะศึกที่ "ผู้กอง" ทำส่วนใหญ่เป็นศึกภายในพรรคพปชร.แทบทั้งสิ้น
วันนี้เบอร์ 2-เลขาธิการ พปชร. เปลี่ยนมือมาเป็น "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ในสายตาของบรรดาคอการเมือง อาจมองว่ายังขาดบารมีทางการเมือง เพราะไม่มีกลุ่ม ไม่มีก๊วน ไม่มีสส.หนุนหลังเทียบไม่ได้กับ "ผู้กอง" อดีตเลขาธิการพรรคพปชร.คนก่อน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนอื่นไม่มีเหมือน "ไพบูลย์" มีติดตัวนั่นคือ "ลูกเก๋าทางกฎหมาย" ในบทบาทนักร้อง(เรียน)มือฉมังชั้นเซียน ที่ไม่ร้องแบบหว่านแหไปเสียทุกเรื่อง แต่เอาแบบเน้นๆเนื้อๆ หวังผลได้และเอาถึงตาย!
เหตุนี้กระมังที่ "พยัคฆ์ป้อม" ในยุค "พี่ใหญ่ 3 ป." เรืองอำนาจ จึงได้โอบรับเข้าบ้านป่าฯ กระทั่งไว้วางใจให้นั่งเป็นเบอร์ 2 ของพรรคในตำแหน่ง "เลขาธิการ" ในสถานการณ์ที่การได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองไม่ได้ชี้ขาดที่ชัยชนะในสนามเลือกตั้ง ถ้าหากยังพ่ายในชั้นศาล
ย้อนกลับไปดูเส้นทาง "ความเก๋า" ทางกฎหมายของไพบูลย์ ก่อนเข้าสู่ชายคาบ้านป่าฯ เคยเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งและเป็นผู้ประสานงาน กลุ่ม 40 สว.ในการตรวจสอบรัฐบาล และเคยเป็นสส.บัญชีรายชื่อ เคยเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปที่นำคำสอนของพระพุทธเจ้าไปใช้หาเสียง
ต่อมาเมื่อ 5 ส.ค.2562 ไพบูลย์ ได้ยื่นต่อเรื่องต่อกกต. ขอเลิกกิจการพรรคประชาชนปฏิรูป ก่อนที่กกต.จะสั่งให้พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองในเวลาต่อมา ทว่า "ไพบูลย์" ยังคงสภาพการเป็น สส. ต่อไปก่อนจะย้ายเข้าสังกัดพรรคพปชร.จนถึงปัจจุบัน
ที่การันตีลูกเก๋าทางกฎหมายของไพบูลย์ คือ ยุบพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กรณีเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ก็ล้วนมาจากฝีมือของนักร้องชั้นเซียนผู้นี้
และใช่บุคคลปริศนาคนนั้นหรือไม่ ที่ยื่นคำร้องต่อกกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย และให้เอาผิด "ทักษิณ ชินวัตร" ครอบงำพรรคหรือไม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ "เศรษฐา ทวีสิน" พ้นจากนายกฯ กรณีแต่งตั้ง "พิชิต ชื่นบาน" เป็นรัฐมนตรี
จึงต้องย้ำเตือนว่า การได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองไม่ได้ชี้ขาดที่ชัยชนะในสนามเลือกตั้ง ถ้าหากยังพ่ายในชั้นศาล....ก็ด้วยประการฉะนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จัดการพ่อก่อนลูก! ‘จตุพร’ ถามหา ‘ทักษิณ’ หายไปไหนแฉแหลกสอบชั้น 14 คึกคัก
ตามหาคนหาย! "จตุพร" ถามหา "ทักษิณ" อยู่ไหน ช่วยแสดงตนหน่อย ได้ข่าวกรณีนักโทษเทวดาชั้น 14 กำลังถูกตรวจสอบอย่างหนัก ลั่น! เขาจัดการพ่อก่อนอยู่แล้ว
'จตุพร' เปิดจุดตาย 'แพทองธาร-ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต'
"จตุพร" ซัดนโยบายรัฐบาล "แพทองธาร" ขายชาติ อ้างประชาชนแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวล้วนๆ ชี้จุดตาย "นายกฯอิ๊งค์" คือสนามกอล์ฟอัลไพน์ ย้อนถามสื่อไม่เข้าใจอีกหรือ คนได้รางวัลไทม์ "ผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต" ไปทุกราย
เปิดผลึก 'จักรภพ' อย่าคิดแบ่งรุ่นยึดเมือง ต้องนิรโทษฯ-เลิกสีเสื้อ | อิสรภาพแห่งความคิด กับ สำราญ รอดเพชร
อิสรภาพแห่งความคิด กับ สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567
'สามารถ' ย้อนเกล็ด 'เด็จพี่' ขยันร้องบิ๊กป้อม แต่ไม่ตามตัว สส.เพื่อไทย คดีตากใบ
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.เพื่อไทย ติดตามการขาดประชุมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
'สันติ' ยันไม่ทิ้งบิ๊กป้อม จวกคนไม่หวังดีปล่อยข่าวใส่ร้าย
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าจะย้ายกลับไปสังกัดพรรคเพื่อไทยว่า ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ส่วนกระแสข่าวก็มีแต่คนไม่หวังดี ที่เขาไปพูดในจอทีวี ยืนยันว่ามีคนใส่ร้าย
'ไพบูลย์' ปูดข่าวยุบพรรคเพื่อไทย ให้จับตาดูหลัง 10 ต.ค.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวว่าจะเกิดปัญหากับพรรคการเมือง ที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เป็นสมาชิกพรรค หรือที่รับใบสั่งกับแกนนำมาร้องเรียนจนมั่วไปหมด ซึ่งตนเองทราบจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อได้