เอาแล้ว! สว.ตั้งป้อมขวางแก้รัฐธรรมนูญ ซัดไม่ใช่คนชั่วกลัวอะไร

21 ก.ย.2567 - พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีความเคลื่อนไหวยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาในเดือนตุลาคมว่า รัฐธรรมนูญได้กำหนดบทบาทของแต่ละฝ่ายไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ เช่นสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกรัฐสภา ดังนั้นทุกคนต้องเคารพรัฐธรรมนูญก่อนเป็นลำดับแรก เวลาปฏิญาณตนเข้าปฏิบัติหน้าที่ฯ ก็บอกว่าจะพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แล้วจู่ๆ จะมาแก้ไขรธน. แล้วที่ออกสื่อว่าจะแก้ไขเรื่องมาตรฐานจริยธรรม ในเมื่อไม่มีจริยธรรมแล้วคุณมาเป็นนักการเมืองทำไม จริยธรรมมันอยู่ที่ตัวคน หากคุณคิดเสียสละเพื่อบ้านเมือง ต้องมีจริยธรรมก่อนเป็นลำดับแรกเลย ซึ่งจริยธรรมคือการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ละอายและเกรงกลัวต่อการปฏิบัติตัวผิด ทุจริตคิดมิชอบ เท่านี้เอง นี้คือจริยธรรม หากนักการเมืองไม่มีจริยธรรม ก็กลับไปอยู่บ้านเลย เพราะที่รัฐสภา ไม่ใช่จะมาทำอะไรตามอำเภอใจ

ถามถึงว่า ฝ่ายพรรคการเมืองให้เหตุผลว่า ที่เสนอแก้ไขมาตรา 160 (4) และ (5) เพราะไม่มีความชัดเจนเลยต้องเสนอแก้ไขให้ชัดเจน พ.ต.อ.กอบ กล่าวว่า จะมาแก้ไขเรื่องนี้ มันอยู่ในตัวคน เพียงแต่มาเขียนให้เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้นเอง แล้วคุณจะไปกลัวอะไร เรื่องต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ถ้าคุณไม่ใช่คนชั่ว คุณกลัวอะไร

“ถ้าจะแก้ไขตอนนี้ ผมไม่เห็นด้วยในการจะมาเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากให้ไปแก้ปัญหาปากท้องประชาชนก่อน อย่างที่ผมอภิปรายไว้ตอนรัฐบาลแถลงนโยบาย เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ส่วนจะแก้ไขอย่างไรต่อไป ก็ว่ามา ให้เห็นเป็นร่างก่อน จะมาพูดตีปลาหน้าไซว่าจะแก้อะไรตรงไหน ผมไม่เห็นด้วย คุณมาทำให้ผมเห็นก่อน และในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันปี 2560 ก็เขียนไว้ว่า วิกฤตทางรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาช่วงที่ผ่านมา ก็เพราะมีบางคนไม่เคารพกติกาบ้านเมือง ไม่เคารพกฎหมาย กฎหมายเมืองไทยมีมากมาย แล้วบังคับใช้เต็มประสิทธิภาพหรือยัง นี้ต่างหากที่ต้องไปทำ “

เมื่อถามว่า การแก้ไขรธน.ดังกล่าว เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ แก้เพื่อตัวเอง พ.ต.อ.กอบ กล่าวว่า ถูกต้องอยู่แล้ว แต่เขาคงไม่รับหรอก

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากจะเสนอแก้ไขรธน.เรื่องมาตรฐานจริยธรรมฯอะไรต่างๆ เห็นด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.กอบ กล่าวว่า ไม่เอา ไม่แก้ ผมถือว่าคนต้องมีจริยธรรมก่อน ผมชัดเจนอยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้มาด้วยผลประโยชน์ทับซ้อนกับใคร

สำหรับพ.ต.อ.กอบ ช่วงที่ผ่านมา ตกเป็นสว.คนดัง หลังโซเชียลมีเดีย เผยแพร่คลิปการอภิปรายนโยบายรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพ.ต.อ. กอบ อภิปรายตอนหนึ่งว่า “ รัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหา การปฏิวัติไม่ใช่ปัญหา แต่คนโกงเป็นปัญหาและเป็นต้นเหตุ”จนทำให้โซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปดังกล่าวอย่างกว้างขวางที่มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะต้องพิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ร่างแก้ไขรธน.ที่จะผ่านความเห็นชอบทั้งวาระหนึ่งและวาระสาม ต้องได้เสียงโหวตเห็นชอบจากสว. อย่างน้อย 67 เสียง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐสภาประชุมแก้ รธน. 10-11 ธ.ค. เชื่อผ่านวาระสาม สภาสูงไม่ตีตก

ในช่วงวันที่ 10-11 ธันวาคม จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการประชุมรัฐสภาในช่วงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ

'เด็จพี่' โผล่หยัน 'ปชน.' ไม่กล้าซักฟอก 'อนุทิน' กลัว 'ยุบสภา' ทำแก้รัฐธรรมนูญค้างเติ่ง

‘พร้อมพงศ์’ อัด ปชน. ตรรกกะย้อนแย้ง จี้ ‘อนุทิน’ ปลดรัฐมนตรีทุนเทา ไม่ได้ผล สอนมวย ยื่นอภิปรายใช้เสียงสภาฯ เกินครึ่งโหวตคว่ำ ปลดได้แน่ ผิดหวังห่วงเรื่องแก้รธน. มากกว่า ซักฟอกในสภาฯ ชี้ ทำแฟนคลับผิดหวัง เตรียมโดนลงโทษวันเลือกตั้ง

ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ

"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)