นายกฯ อิ๊งค์ใส่ชุดผ้าไหมของคุณหญิงพจมานมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอ

นายกฯ สวมชุดผ้าไหมคุณแม่ มอบรางวัลสุดยอดซีอีโอ บอกสื่อ-รัฐบาลต่างหน้าที่แต่เป้าหมายเดียวกันทำเพื่อปชช.- ประเทศชาติ พร้อมรับฟังข้อมูล นำไปแก้ปัญหาให้ประชาชน

30 ต.ค.2567 - ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลสุดยอดซีอีโอ ในงานสัมมนาเศรษฐกิจไทยประจำปี 2567 “Thailand 2025 : Opportunities, Challenges and the Future” โดยวันเดียวกันนี้นายกฯสวมชุดผ้าไหมทอมือสีกลีบบัวจากภาคอีสาน ซึ่งเป็นชุดของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แม่ของนายกฯ เคยใส่สมัยที่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

นายกฯ กล่าวว่า ขออภัยวันนี้อาจจะเสียงแหบเล็กน้อย แต่ดีใจตื่นมาได้มางานนี้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ขอบคุณที่ได้เชิญตนมาในวันนี้ ซึ่งต้องขอแสดงความยินดีกับทุกคน ทางสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจกับรัฐบาลเป็นความสัมพันธ์ที่เรามีกันมาอย่างยาวนาน และทางสมาคมมีหน้าที่ในการตั้งคำถาม ตรวจสอบ มีคำถามจากประชาชน เพื่อถามและได้คำตอบจากรัฐบาล เพื่อสื่อสารต่อให้ประชาชนได้รับรู้เข้าใจ หลายทีเป็นการวิเคราะห์ หลายครั้งเพื่อการย่อยข้อมูลให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลของรัฐบาล เข้าใจการทำงานของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น ถือได้ว่าเราทั้งสองฝ่ายเป็นกลุ่มที่ทำงานเพื่อประชาชน มีประชาชนเป็นเป้าหมายแต่ละคนทำหน้าที่ต่างกันในความรับผิดชอบของตัวเอง

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอแสดงความยินดีกับ CEO ทุกท่าน ซึ่งมีหลายสเกลทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง ทั้งนี้ SME ไม่ว่าจะสเกลไหนก็ตาม ล้วนแต่สร้างความมั่นคง ความเจริญเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ ทุกคนมีบทบาทที่สำคัญ เรามีส่วนสำคัญมากในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศชาติมั่นคงรัฐบาลมั่นคง การบริหารการทำงาน CEO ทุกท่าน มีความหมายและเป็นแรงบันดาลใจให้กับประชาชนทุกคน รุ่นเด็กๆน้องๆที่มองเห็นในวันนี้เชื่อว่าจะได้แรงบันดาลใจอย่างมากจากทุกท่านและทำให้รู้ว่ามีแรงผลักดันมีรางวัลรออยู่ข้างหน้าและ Event ใหญ่ๆของประเทศชาติที่จะให้ประชาชนรุ่นเด็กๆมองเห็น และรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจให้ไปต่อข้างหน้าอย่างแข็งแรงได้ในอนาคต

นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในหลายธุรกิจ ทุกวันนี้กำลังเผชิญหน้ากับอุปสรรคของเศรษฐกิจและอุปสรรคการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมต่างๆ เทคโนโลยีที่เข้ามา รัฐบาลพยายามสนับสนุนเรื่องนี้ให้ทุกคนได้มีความรู้เข้าถึงข้อมูลต่างๆให้ได้มากที่สุดตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจต่างๆ รัฐบาลทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่ได้เจอ ฉะนั้นมีนโยบายต่างๆที่จะช่วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง SME ธุรกิจต่างๆมากมายรัฐบาลพร้อมที่จะ support คนรุ่นใหม่ๆหรือรุ่นไหนก็ได้ที่มีความตั้งใจ ความพยายามในการทำธุรกิจ SME เราพยายามซัพพอร์ตเรื่องการลงทุนการลดต้นทุนให้ทั้งหมด ฉะนั้นขออนุญาตบอกผู้สื่อข่าวหากมีข้อมูลอะไรดีๆรัฐบาลพร้อมรับฟังและนำข้อมูลเหล่านี้ไปแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะตนพูดเสมอว่าจริงๆแล้วถ้าเราอยู่ในปัญหาก็จะเห็นปัญหาได้ในมุมหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้ามีคนที่ช่วยกันดูวิเคราะห์ซัพพอร์ตหลายด้านก็จะเห็นปัญหาได้ครบขึ้น เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดยิ่งขึ้น รัฐบาลต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อที่จะแก้ปัญหาของประชาชนให้ดีที่สุด

"ขออนุญาตส่งกำลังใจนอกจากแสดงความยินดี ให้ทุกท่านมีแรงผลักดันเรื่องดีๆแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ รวมทั้งผู้ชมทางบ้านใครที่คิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะทำธุรกิจหรือสร้างธุรกิจใหม่ๆให้กับประเทศชาติ ขอเป็นแรงใจ และแน่นอนรัฐบาลสนับสนุนประชาชนทุกเรื่องแบบนี้ตลอดไป"นายกฯกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ