13 พ.ย.2567- นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุ การที่กรรมาธิการมั่นคงฯ ตรวจสอบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการหาเศษหาเลย
โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมไม่ใช่เรื่องหาเศษหาเลย มันไม่ใช่เรื่องเล็กที่เราจะมองข้ามได้ ตนคิดว่าตัวชี้วัดสำคัญไม่ใช่กรรมาธิการอย่างเดียว แต่ตัวชี้วัดสำคัญคือภาพรวมของสังคมที่มีการตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้มาโดยตลอด ถ้าเรามองด้วยใจเป็นธรรมเรื่องของนายทักษิณผ่านมาพอสมควร แต่ทำไมสังคมยังติดใจ ยังสงสัย ยังมีคำถาม เพราะว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามได้ ดังนั้น การที่กรรมาธิการได้แสวงหาข้อเท็จจริงนี้ ทั้งในแง่มุมกฎหมาย รัฐธรรมนูญก็ให้อำนาจเรา ในแง่ของการเมือง กรรมาธิการก็มีหน้าที่ในการที่จะต้องถามและตรวจสอบรัฐบาล ถ้าฝั่งรัฐบาลทำให้ถูกต้อง รัฐบาลไม่มีอะไรที่ปกปิด ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลในเรื่องนี้ ตนคิดว่ารัฐบาลทำได้ง่ายๆ คือการให้ข้อมูลกับทางกรรมาธิการ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้
“สุดท้ายผลพิสูจน์ออกมา คุณทักษิณป่วยจริง มีความจำเป็นที่จะต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจจริง มีความจำเป็น ที่จะต้องรักษาตัวชั้น 14 นานขนาดนี้ แล้วต้องอยู่ที่ชั้น 14 เท่านั้น มีความจำเป็นอะไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่าสุดท้ายมันก็จะเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายได้ ถ้าสามารถตรวจสอบได้ มันก็จะเป็นเกราะคุ้มครองรัฐบาล โดยที่รัฐบาลไม่ต้องกังวลอะไร ส่วนคนที่วิพากษ์วิจารณ์ คนที่ตรวจสอบเรื่องนี้ เมื่อได้รับคำตอบมันก็จบ แต่ปัญหาก็คือว่าทำไมต้องทำให้เรื่องนี้ดูมีพิรุธ ทำไมต้องทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการ ทำไมถึงต้องพยามอ้าง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย PDPA ต่างๆ ซึ่งเป็นการอ้างที่ผิด เพราะกฎหมาย PDPA เขียนเอาไว้ชัดเจนว่าไม่รวมถึงการทำหน้าที่ของสภาและกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการหาเศษหาเลย ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งกัน แต่เป็นเรื่องที่กรรมาธิการเรามีความจำเป็นที่จะต้องศึกษา เราในฐานะตัวแทนประชาชนมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าตกลงแล้วภายใต้รัฐบาลนี้ กระบวนการยุติธรรมของประเทศเป็นอย่างไร เลือกปฏิบัติให้สิทธิพิเศษกับใคร
เมื่อถามว่านัดต่อไปจะมีเนื้อหาสาระอะไร และทำไมต้องถึงขนาดเชิญนายทักษิณ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าสัปดาห์ที่แล้วเราได้ข้อมูลที่เพียงพอมันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาต่อหรือเชิญนายทักษิณ แต่ต้องยอมรับว่าเราได้รับความร่วมมือน้อยมาก รวมไปถึงข้อมูลที่มีการพูดกันในกรรมาธิการต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าข้อมูลที่ให้เราก็ให้น้อย
“กระทั่งก็ถามชื่อหมอ ชื่อคุณพยาบาลต่างๆ เรายังไม่ได้รับคำตอบเลย ข้อมูลหลายส่วนเป็นข้อมูลที่เป็นการพูดภาพรวม เป็นการพูดกว้างๆ เป็นการพูดหลักการทั่วไป แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดที่ทำให้ข้อมูลให้กรรมาธิการเข้าใจ ผมก็เลยคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาต่อในครั้งนี้ ซึ่งการพิจารณาต่อในครั้งนี้ เราก็พร้อมที่จะเปิดพื้นที่ให้กับรัฐบาลและหน่วยงานชี้แจง ทำไมถึงต้องเชิญคุณทักษิณ ในเมื่อถามหมอ ถามคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้รับคำตอบ ก็คงต้องถามคนป่วย คนที่เขาบอกว่าเขาป่วยดู ซึ่งถ้าเราได้คำตอบที่ชัดเจน ผมคิดว่ามันก็จบ แค่นั้นเอง” นายรังสิมันต์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปธ.กมธ.มั่นคง แนะ กต. ถกชาติมหาอำนาจช่วยกดดัน 'ว้าแดง' ถอนทัพเขตแดนไทย
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม
'โรม' สับรัฐบาลอ่อน เมียนมายังไม่ปล่อยตัวลูกเรือไทย แนะต้องประท้วงให้เข้มแข็งกว่านี้
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม
อดีตบิ๊กเพื่อไทย หวังจะไม่ใช่ขบวนรถไฟเที่ยวสุดท้าย!
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่ิไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “วันนี้ นายกฯ อดีตนายกฯ สส พรรคแกนนำรัฐบาล นั่งรถไฟ
ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' ประเดิม 18 ธ.ค. บุก ป.ป.ช. หึ่งล็อบบี้หนักล้มคดีชั้น 14
วงหารือฝ่ายต้านรัฐบาล ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' นำร่อง 18 ธ.ค. บุกตึก ป.ป.ช. หลังได้กลิ่นล็อบบี้หนัก 3 กรรมการฯ ล้มคดีชั้น 14
เผยเบื้องหลัง 'คนดังต้านระบอบทักษิณ' รวมตัว ประเดิมงานแรกลุย ป.ป.ช.
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เพื่อประเทศชาติและความยุติธรรม
'วรงค์' เซ็งเสียเวลา 1 ชั่วโมง อุตส่าห์ตั้งใจฟัง 'อิ๊งค์' แถลงผลงาน
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า#แถลงนโยบายไม่ใช่ผลงาน