
26 พ.ย.2567-นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ว่าคำเตือน….
สิ่งที่คนไทยไม่รู้จากบทสัมภาษณ์ของฮุน มาเนต ต่อทีท่าการเคลื่อนไหวในประเทศไทยและ MOU44 ซึ่งเขาไม่เคยยอมรับว่าเกาะกูดเป็นของไทย The Phnom Penh Post (พนมเปญ โพส์ต) หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของทางการกัมพูชา ได้ออกข่าวบทสัมภาษณ์ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและบุตรชายสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567
บทสัมภาษณ์ทำให้เราเห็นว่า กัมพูชายังคงย้ำว่าปัญหาเกาะกูดยังไม่ได้ข้อยุติ ไทยอ้างสิทธิ์ของตนในอธิปไตยเหนือเกาะกูดแต่ฝ่ายเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆอีกที่คนไทยเราไม่เคยรับรู้จากกระทรวงการต่างประเทศของไทย แต่เป็นเรื่องน่าละอายใจที่ต้องไปรับรู้มาจากประเทศอื่น เช่น ข้ออ้างเรื่องเขตแดนทางบก ที่บรรลุข้อตกลงไปแล้ว 42 หลักเขต ระยะทาง 805 กิโลเมตร ยังคงเหลืออีก 31 หลักซึ่งยังตกลงกันไม่ได้
รัฐบาลไทยก็ไม่สนใจเกียรติศักดิ์ศรีของตนเอง วันๆเรามีนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อครอบครัวตนเองมากกว่าประเทศไทย
เป็นเรื่องน่าเศร้ามากครับ
คำสัมภาษณ์ของฮุน มาเนตมีดังนี้
“นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้กล่าวถึงการตัดสินใจของรัฐบาลที่นิ่งเฉยต่อข้อพิพาทอธิปไตยเหนือเกาะกูด โดยอ้างถึงการเจรจาต่อรองเขตแดนทางทะเลกับ ประเทศไทยซึ่งยังไม่ได้ให้ข้อยุติ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กล่าวถึงการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะไม่พูดถึงข้อพิพาทเรื่องอธิปไตยเหนือเกาะกูด โดยอ้างถึงการเจรจาเรื่องพรมแดนทางทะเลกับไทยที่ยังคงดำเนินอยู่แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ปัจจุบันทั้งสองประเทศอ้างสิทธิ์ในเกาะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของตน คำอธิบายดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มฝ่ายค้านและประชาชนบางส่วนที่กล่าวหารัฐบาลว่าไม่ตอบสนองต่อคำกล่าวอ้างของไทยเกี่ยวกับเกาะดังกล่าว
ฮุน มาเนต ชี้แจงว่าข้อกล่าวอ้างเหล่านี้มาจากพรรคฝ่ายค้านของไทย ไม่ใช่จากรัฐบาลในการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีสำเร็จการศึกษาของนักศึกษมหาวิทยาลัยกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน มาเนตเน้นย้ำว่าปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนต้องได้รับการจัดการด้วยความระมัดระวัง บางคนบอกว่ารัฐบาลเงียบราวกับ ‘ขโมยม้า’ ไม่ยอมเผชิญหน้ากับไทยเกี่ยวกับข้อเรียกร้องดังกล่าว พวกเขาตำหนิรัฐบาลของฉันว่าสูญเสียเกาะกูดและดินแดนทางทะเลของกัมพูชา พวกเขาบอกว่ารัฐบาลควรนำเรื่องนี้ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และให้คำอธิบาย”
“ทำไมรัฐบาลจึงนิ่งเฉย คำตอบอยู่ที่หลักการสองประการ คือ ความเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองและความรับผิดชอบต่อชาติ หลักการเหล่านี้เป็นแนวทางให้รัฐบาลนิ่งเฉย เพราะการพูดออกมาไม่ได้สะท้อนถึงความเป็นผู้ใหญ่” เขากล่าว
มาเนต ได้ขยายความถึงแนวคิดเรื่องวุฒิภาวะทางการเมือง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างสองประเทศเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน เขาย้ำว่าปัญหาที่ละเอียดอ่อนดังกล่าวควรได้รับการแก้ไขผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ผ่านโซเชียลมีเดียหรือสื่อมวลชน
รัฐบาลไม่ได้พูดแบบที่นักวิเคราะห์พูดกัน” เขากล่าว “เมื่อเราพูด เรื่องนี้จะมีความสำคัญ เราควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของประเทศอื่นหรือไม่ พวกเขาปกป้องสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นของพวกเขา ฝ่ายหนึ่งอ้างว่าดินแดนของพวกเขาสูญหายไป อีกฝ่ายก็บอกว่าไม่เป็นเช่นนั้น ทำไมเราต้องจุดไฟเผาบ้านของเราโดยไม่จำเป็น การกระทำโดยหุนหันพลันแล่นอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น” เขากล่าวอธิบาย
มาเนตเน้นย้ำว่ากัมพูชาและไทยได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการหารือเรื่องพรมแดนขึ้น 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมาธิการชายแดนร่วม (JBC) ซึ่งรับผิดชอบประเด็นพรมแดนทางบก และคณะกรรมการเทคนิคร่วม (JTC) ซึ่งเน้นที่เขตแดนทางทะเล
“นี่เป็นกลไกอย่างเป็นทางการ รัฐบาลทำงานผ่านกลไกเหล่านี้ สิ่งที่พวกเขาพูด [ในประเทศไทย] เป็นเรื่องของพวกเขา หากมีข้อขัดแย้ง ควรมีการแก้ไขแบบพบหน้ากันเพื่อให้เป็นทางการ” เขากล่าวอธิบาย
มาเนตกล่าวว่าการเจรจาเรื่องพรมแดนระหว่างทั้งสองประเทศจนถึงขณะนี้ได้ดำเนินการเฉพาะเรื่องพรมแดนทางบกเท่านั้น โดยได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับพรมแดนทางบกระยะทาง 805 กิโลเมตร ครอบคลุม 73 หลัก โดยมี 42 หลักที่สรุปผลแล้ว และอีก 31 หลักยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
“เราได้กำหนดขอบเขตที่ดินตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามในปี 1907 ซึ่งครอบคลุมระยะทาง 805 กิโลเมตรและมีเครื่องหมายพรมแดน 73 หลัก การเจรจาใช้เวลา 18 ปีจึงจะสรุปเครื่องหมายได้ 42 หลัก แต่การทำงานยังคงดำเนินต่อไปจนถึงจุดที่วัดได้ละเอียดทุกมิลลิเมตร” เขากล่าว
เมื่อพูดถึงเขตแดนทางทะเล มาเนตกล่าวว่า “เราเคยตกลงกันเรื่องเขตแดนทางทะเลหรือไม่? ไม่เลย การเจรจาเกิดขึ้นหลายครั้งโดยไม่มีข้อตกลง หากไม่มีข้อตกลง เราจะสูญเสียอะไรไป? ขอถามหน่อยเถอะ บางคนบอกว่ามันเป็นการทรยศหรือสูญเสียดินแดน แต่ถ้าไม่มีข้อตกลง เราจะฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้อย่างไร?”
เขาได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชาผ่านกลไกสันติภาพที่ใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิค
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า สำนักเลขาธิการกิจการชายแดนมีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเจรจาต่อเนื่องกับไทยในเรื่องชายแดน
นอกจากนี้ มาเนต ยังกล่าวอีกว่า พื้นที่ทั้งหมดของประเทศอาจมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการคือ 181,035 ตารางกิโลเมตร
เขาอ้างถึงการวัด GPS เชิงทดลองที่ดำเนินการในปี 2012 ซึ่งแนะนำว่าการวัดดังกล่าวอาจขยายได้ถึง 181,436 ตารางกิโลเมตร“
เศร้าครับ…..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เกาะช้าง-เกาะกูด' คึกคัก นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ส่วนคนไทยแห่ขึ้นเหนือ
เที่ยวเกาะกูดยังคึกคัก แม้อุณหภูมิลด เรือโดยสารยังเปิดบริการ ขณะนทท.ต่างชาติข้ามเที่ยวจากเกาะช้างมาเกาะกูดวันละ 400 คน
ช่วยชีวิตนักท่องเที่ยว 97 คน ลอยคอใกล้เกาะกูด หลังถูกคลื่นลมแรงซัดเรือโดยสารแตกกลางทะเล
คลื่นทะเลซัดท้องเรือแตก นักท่องเที่ยว 97 คน ลอยคอกลางทะเลใกล้เกาะกระดาด ศร.ชล.,เกาะกูดเอกเพรส และเจ้าท่าเร่งช่วยเหลือ ยันทุกคนยังปลอดภัย
'สม รังสี' กระตุก 'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต' แก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยืดเยื้อ จี้ให้นำขึ้น ICJ-ICC
สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เผยแพร่คำแถลง ของ รัฐบาลกัมพูชาอิสระ ว่าด้วยการดำเนินการทางกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย มีใจความดังนี้
'อนุทิน' ยกคำสอนย้ำ 'แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ'
นายกฯ ยัน กองทัพมีความพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดน ไทย - กัมพูชา ลั่น 'แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ' รับ ได้อ่านโพสต์ 'ฮุน มาเนต' แล้ว แต่เราก็มีแนวทางของตัวเอง
'ฮุน มาเนต' กล่าวหาไทยยิงพลเรือนกัมพูชาดับ 1 เจ็บ 3 เรียกร้องนานาชาติประณาม
"ฮุน มาเนต" เดินเกมทันควัน ประณามไทยใช้ความรุนแรง กล่าวอ้างพลเรือนกัมพูชาถูกทหารไทยยิงบาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย
นายกฯ คุยส่วนตัว 'ฮุน มาเนต' เชื่อลดระดับความขัดแย้ง
“อนุทิน” เผย ลงนามเรียบร้อย คุย “ฮุน มาเนต” ยัน ไทย - กัมพูชา จะปฏิบัติตามข้อตกลง เชื่อจะลดระดับความขัดแย้ง ถก “ทรัมป์” ให้ช่วยลดภาษีเพิ่ม ก.พาณิชย์-หน่วยงานเกี่ยวข้อง หารือ USTR ต่อ


