'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112

'ไอซ์ รักชนก' รอดศาลไม่เพิกถอนปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี 112 ระบุเป็นการแสดงความเห็นทั่วไป เเต่สั่งกำชับ ปฏิบัติตามเงื่อนไขเคร่งครัด

11 ธ.ค.2567 - ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว คดีดูหมิ่นสถาบันหมายเลขดำอ.683/2565 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ ฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ สส.พรรคประชาชน (ปชน.) ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

โจทก์ฟ้องสรุปว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน จำเลยหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระมหากษัตริย์ โดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยจำเลยใช้บัญชีทวีตเตอร์ “ไอซ์ หรือ @nanaicez” ของจำเลยโพสต์ (Tweet)

โดยคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2566 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (2) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี และฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินีฯ จำคุก กระทงละ 3 ปี รวมสองกระทง คงจำคุก 6 ปี

โดยน.ส.รักชนกได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกันวงเงิน 500,000 บาท โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการหรือร่วมกิจกรรมลักษณะเดียวกันกับข้อหาตามคำฟ้องและหรือมีพฤติการณ์ใดๆ ในลักษณะและข้อหาเดียวกัน

ต่อมาวันที่ 28 ต.ค. 2567 นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ที่ปรึกษาธุรกิจและนักวิชาการอิสระ ได้ยื่นคำร้องขอตรวจสอบหลักทรัพย์ และคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว น.ส.รักชนก ศรีนอก เนื่องจาก ระหว่างการประกันตัวน.ส.รัชนกได้โพสต์ข้อความลงในเฟซ บุ้คส่วนตัวพาดพิงสถาบัน ซึ่งผิดเงื่อนไขการประกันตัว

วันที่ 26 พ.ย. 67 ศาลอาญาได้ไต่สวนนายทันกวินท์ผู้ร้อง และน.ส.รัชนก จนแล้วเสร็จ และนัดฟังคำสั่งในวันนี้

โดยในวันนี้ น.ส.รัชนกเดินทางมาฟังคำสั่งศาล ด้วยสีหน้ายิ้มเเย้ม

ศาลพิจารณาคำร้องเเละไต่สวนเเล้วมีคำสั่งยกคำร้องและกำชับให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวอย่างเคร่งครัด

ต่อมา น.ส.รักชนก ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังคำสั่งศาลแล้วว่า ศาลยกคําร้องไม่เพิกถอนประกัน โดยเรื่องนี้ผู้ร้องยกเหตุผลมามีสองข้อคือ หลังจากที่นายชัยธวัช ตุลาธน หลุดจากการเป็น สส. ทําให้มีปัญหาเรื่องหลักประกัน ซึ่งได้เปลี่ยนเป็นหลักประกันเป็นเงินสดแล้ว จํานวนเท่าที่ศาลแจ้งเอาไว้ ข้อต่อมาคือ ได้ละเมิดข้อกำหนดของศาล โดยเอาโพสต์ในเฟสบุ๊กเกี่ยวกับการตั้งคําถามกับกองทัพ เรื่องพลทหารไปซักกางเกงในให้เมียนายทหาร เรื่องเกี่ยวกับรณรงค์การยกเลิกเกณฑ์ทหาร เป็นการด้อยค่ากองทัพ ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นจอมทัพไทย ดังนั้นการด้อยค่าพลทหาร เป็นการด้อยค่ากองทัพก็คือกระทบกระเทือน เชื่อมโยง ถึงคดี112 แต่ศาลได้พิพากษาว่า เรื่องหลักทรัพย์ มีการไปเปลี่ยนหลักทรัพย์แล้วเรียบร้อย ส่วนเรื่องที่โพสต์เกี่ยวกับกองทัพก็เป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป จึงยกคำร้อง

“วันนี้ศาลไม่ได้เพิ่มข้อกําหนดใดๆ ดังนั้นคิดว่าในฐานะผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกมา ไม่ควรที่จะเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะว่ามีหน้าที่พูดเพื่อคนอื่นหลายๆ เรื่องที่เราได้วิพากษ์วิจารณ์ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เป็นผลประโยชน์สาธารณะ แล้วทุกอย่างที่เราพูดไป คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชนทุกคน การที่พูดถึงเรื่องการใช้งบประมาณ ภาษีให้มันคุ้มค่า วิญญูชนประชาชนทั่วไป ที่รักในสิทธิเสรีภาพ รักในความถูกต้องก็น่าจะเข้าใจว่าสิ่งที่พยายามสื่อสาร”

น.ส.รักชนกกล่าวต่อว่า การฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องไร้สาระและกระทบกับเวลาในการทํางานในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎรการ ที่ต้องออกจากประชุมมา หรือว่าจะต้องเลื่อนการประชุม มาทําคดีเหล่านี้ เดี๋ยวจะมีคําสั่งศาลอุทธรณ์ออกแน่อยู่แล้ว คือคุณก็ให้เราทํางานให้เต็มที่ไปก่อน เพราะว่าใครๆ ก็รู้ว่าถ้าอยู่พรรคนี้ มัน ชัวร์อยู่แล้ว คุณจะทำไปทำไมให้เสียเวลาทางสังคม แทนที่สื่อจะไปงานข่าวที่สําคัญมากกว่านี้ ขอเชิญสังคมให้ตั้งคำถามว่า ทำไมมีเพียงแค่พรรคประชาชนที่ต้องเผชิญกับกระบวนการแบบนี้ จึงคาดว่า อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่อยู่เบื้องหลังของขบวนการบุคคลเหล่านี้หรือไม่ในการจ้องจะเล่นงานพรรคประชาชน

ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปอีกว่า มองยังไงกับการที่เป็น สส. แต่ถูกต้องคำพิพากษาในศาลชั้นต้น จะเข้าข่ายเป็นการขัดจริยธรรมนักการเมืองหรือไม่ น.ส.รักชนกตอบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่ก็คาดหวังว่าในชั้นอุทธรณ์ จะได้รับความเป็นธรรม เพราะได้ต่อสู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสามารถต่อสู้ได้ โดยได้ยื่นอุทธรณ์ไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้วและขณะนี้อยู่ในระหว่างการรอคำสั่งศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ทราบว่าจะมีคำตัดสินเมื่อใด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุก 'ทนายคลายทุกข์' 1 ปีแต่รอลงอาญาไลฟ์สดด่า 'อ.อ๊อด'

ศาลอาญาจำคุกทนายเดชา 1 ปี ปรับ 1 แสน รอลงอาญา 2 ปี ไลฟ์สดด่า อ.อ๊อดให้คนฟังรู้ว่าใครจนได้รับความเสียหาย จ่อฟ้องกลับนำเข้าข้อทูลเท็จ ปมเย้ยใส่กุญแจมือลงใต้ถุนศาล

'แน่งน้อย' บอก 'แสตมป์' อ้างคดี 112 แต่ไม่มีใครเคยเห็นข้อความ!

'แน่งน้อย' แนะมุดแชทไปพูดคุยก่อนแจ้ง 'ม.112' ดีกว่า หากยังยืนยันสิ่งที่ทำถูกแล้วค่อยว่ากันอีกสเต็ป ย้ำจุดยืนเห็นด้วยใครก็ได้ฟ้องมาตรานี้ เหตุสถาบันฯ คงไม่ลดตัวลงมาทำเอง

หิ้ว 'ชาคิต' โชเฟอร์พาจ่าเอ็มหนี ฝากขัง ไร้ญาติประกัน ส่งตัวนอนเรือนจำ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้ควบคุมตัวนายชาคิต บัวปลี หรือ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาที่ขับรถพา นายเอกลักษณ์ หรือพ.จ.

'เกลิน ธัญรดี' ฟาดกลับ เตรียมฟ้องกู้ชื่อเสียงคืน!

ดาราสาว เกลิน-ธัญรดี ชาญชนินท์กุล พร้อมด้วยทนายวัฒนา ศักขี ได้เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อยื่นฟ้อง หมอดูคู่กรณี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ โดยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนหลักล้านบาท หลังจากที่อดทนเงียบและเก็บเรื่องราวนี้ไว้เป็นเวลานาน

เปิดพฤติการณ์ 'จ่าเอ็ม' ฆ่าโหด 'ลิมคินยา' นวดก่อนลงมือ

เปิดพฤติการณ์ฆ่าโหด ‘ลิมคินยา’ พบ ‘จ่าเอ็ม' นวดผ่อนคลายก่อนลงมือสังหาร เจ้าตัวสารภาพทุกข้อกล่าวหา ศาลอาญาออกหมายจับ ‘คิมรินพิช’ มือชี้เป้าถือพาสปอร์ตกัมพูชา

ศาลสืบพยานล่วงหน้าคดีสังหาร 'ลิม คิม ยา' ภรรยาเบิกความชัดเห็น 'จ่าเอ็ม' ในที่เกิดเหตุ

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 ได้ยื่นคำร้องขอสืบพยานบุคคลก่อนฟ้องในคดีที่ พนักงานอัยการ นายเอกลักษณ์ แพน้อย