สทร.กลัวการตรวจสอบ! ฮือฮา 'ทักษิณ' เตรียมเล่าประสบการณ์ต่อสู้เพื่อปชต.

แฟ้มภาพ

การเมืองไทยยังคงหมุนรอบศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร โดยที่ชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมา แม้ว่าจะผ่านไปสองสัปดาห์แล้ว

ขณะที่ทั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้าน ต่างเดินเกมกันสุดขั้ว จนสร้างความหงุดหงิดให้ประชาชนที่รอคอยการอภิปรายอย่างแท้จริง

ล่าสุดฝ่ายค้าน "พรรคประชาชน" ลดท่าทีแข็งกร้าวยอมถอย โดยถอดชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" ออกจากญัตติ แลกกับการขอขยายกรอบเวลาอภิปรายเป็น 30 ชั่วโมง

แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับเสนอให้จำกัดเวลาฝ่ายค้านเหลือ 20 ชั่วโมง และให้ ครม. รวมถึงประธานที่ประชุมใช้เวลาอีก 10 ชั่วโมง

เบื้องต้นกำหนดให้ 24-25 มีนาคม เป็นวันอภิปราย และลงมติใน 26 มีนาคม แต่ยังไม่มีข้อสรุปสุดท้าย โดยทั้งสามฝ่ายจะหารือกันอีกครั้งใน 19 มีนาคม เพื่อหาข้อยุติ

การเดินเกมของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่การ "ยื้อเวลา" แต่สะท้อนถึงเจตนาที่ต้องการเลี่ยงการถูกตรวจสอบก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 11 เมษายน

หากรัฐบาลยื้อสำเร็จ "แพทองธาร" ก็จะรอดจากการถูกซักฟอกอย่างเข้มข้น และที่สำคัญไม่ให้เชื่อมโยงไปถึง "ผู้มีบารมีนอกระบบ" อย่างทักษิณ ชินวัตร

ท่ามกลางเกมนี้ แพทองธาร ออกมาพูดว่า "อยากรู้สุดท้ายจะเหลืออภิปรายกี่วัน" พร้อมยืนยันว่า "กี่วันก็มา" แต่กลับสวนทางย้อนแย้งกับการที่พรรคเพื่อไทยพยายามบีบกรอบเวลาให้สั้นลง

คำว่า "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น" อาจอธิบายสถานการณ์นี้ได้ดีที่สุด เพราะเกมการเมืองของ "แพทองธาร" สะท้อนแนวทางเดียวกับทักษิณ

ย้อนกลับไปเมื่อ 17 มกราคม ทักษิณขึ้นเวทีที่นครพนม ประกาศตัวว่า "สทร. เสือกทุกเรื่อง" พร้อมแขวะรัฐบาลยุคหลังตัวเองว่า "ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีวิสัยทัศน์"

"วันนี้คนถามว่าผมมีหน้าที่อะไร ไปพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมบอกว่าตำแหน่งของผมคือ สทร. เสือกทุกเรื่อง บ้านเมืองนี้หลังจากที่ผมออกไปก็ขาดการบริหารอย่างมีเป้าหมายไปเยอะ ก็เหมือนการบริหารที่ไม่บริหาร บ้านเมืองจึงแย่ไปหลายจุด"

คำพูดนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการที่ ทักษิณยังคงสอดแทรกอิทธิพลในการเมืองไทย แต่ยังเป็น "หลักฐานชั้นดี" ให้ฝ่ายค้านใช้ตอกย้ำว่าทักษิณคือ "ผู้ควบคุมรัฐบาลเงา" และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารของรัฐบาลแพทองธาร

แต่เมื่อฝ่ายค้านต้องการอภิปรายโยงถึงบทบาทของ "พ่อลูกชินวัตร" กลับเดินเกมให้ถอดชื่อของทักษิณออกจากญัตติ ใช้กลไกอำนาจจำกัดเวลาการอภิปรายให้เหลือน้อยที่สุด

สิ่งที่ย้อนแย้งยิ่งกว่านั้น คือพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า 17 มีนาคม ทักษิณจะเดินทางไป พิษณุโลก เพื่อพบปะมวลชน พร้อมบรรยาย "เรื่องเล่าประสบการณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน"

คำถามสำคัญคือ ประชาธิปไตยที่ทักษิณกำลังจะเล่านั้น คือประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือเป็นแค่ประชาธิปไตยที่ถูกออกแบบมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว?

เพราะหากย้อนกลับไป ทักษิณถูกมองว่าเป็น “พ่อค้า-นักเลือกตั้ง" ที่ใช้กระบวนการการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือผูกขาดอำนาจ จนถูกโค่นล้มจากการรัฐประหารปี 2549 แต่กลับเลือกที่จะอธิบายว่าตัวเองเป็นเพียง “เหยื่อ”

"ถ้าไม่มีการรัฐประหาร ผมอยู่ครบเทอม บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ประเทศไทยจะก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วแน่นอน"

วาทกรรมนี้คือการปั้นภาพตัวเองให้เป็น "นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย" แต่กลับไม่พูดถึงความผิดพลาดและพฤติกรรมผูกขาดอำนาจของตัวเอง ที่เป็นชนวนให้เกิดการรัฐประหาร

และที่สำคัญ "ประชาธิปไตย" ในแบบของทักษิณ คือประชาธิปไตยที่ยอมรับได้ก็ต่อเมื่ออำนาจยังอยู่ในมือของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้การเดินเกมเพื่อยื้อเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ การใช้กลไกอำนาจจำกัดการตรวจสอบ และการเดินสายปราศรัยสร้างภาพลักษณ์ "นักประชาธิปไตย" ล้วนสะท้อนถึง ประชาธิปไตยแบบทักษิณ ที่กลัวการตรวจสอบแต่พร้อมจะ "สทร." ตราบใดที่ยังรักษาอำนาจได้

สุดท้าย "สทร." หรือ "เสือกทุกเรื่อง" กลายเป็นคำพูดที่เจ้าตัวใช้เรียกตัวเอง อาจไม่ใช่แค่การพูดเล่น แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนถึง บทบาทและอำนาจที่แท้จริงของทักษิณในรัฐบาลแพทองธาร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทพไท' ซัดรัฐบาล-ทักษิณ ใช้ไทยฟอกขาว 'มิน อ่อง หล่าย' ปมประชุมลับกลางกรุง

อดีต สส.นครศรีธรรมราช ตั้งคำถามรัฐบาลไทย หลังมีรายงาน “อันวาร์-มิน อ่อง หล่าย-ทักษิณ” หารือลับกลางกรุงเทพฯ ชี้เป็นพฤติกรรมคลุมเครือ ทั้งในมิติการทูตและบทบาทของอดีตนายกฯ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน

'อันวาร์' โพสต์ภาพ ประชุมร่วม 'ทักษิณ​' แลกเปลี่ยนสร้างสันติภาพในเมียนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟสบุ๊กว่า เมื่อ

'อาต่าย' ปรี๊ด! ขยะสังคม สั่งตร.พบผู้เสียหาย เร่งฟันอาญา 'บีเอ็มกร่าง'

'ผบ.ตร.' ไม่ปลื้ม 'บีเอ็มกร่าง' เรียก 'อาต่าย' ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารญาณเลือกตั้ง