นักเศรษฐศาสตร์หวั่นแจกเงินหมื่นกลุ่ม 16-20 ปี ทำเยาวชน-คนรุ่นใหม่ เสพติด วัฒนธรรมใช้จ่ายเงินเกินตัว ขัดทฤษฎีการใช้จ่ายของรัฐบาลในรูปแบบที่ไม่ใช่เงินสด จี้รัฐบาลตอบครอบคลุมเที่ยวผับ -บาร์ด้วยหรือไม่
19 มี.ค.2568 - รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นในฐานะนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ กรณีรัฐบาลออกมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้เยาวชนอายุ 16-20 ปี โดยไม่จำกัดสินค้าและบริการว่า ในทางเศรษฐศาสตร์ มาตรการการใช้จ่ายของรัฐบาลในรูปแบบที่ไม่ใช่เงินสด อาทิ การให้วงเงินจำนวน 10,000 บาทแก่เยาวชน เพื่อสามารถใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังค์หรือทางรัฐ มีข้อดีมากกว่าการให้เป็นเงินสด เพราะสามารถควบคุมการใช้จ่ายของประชาชนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่รัฐวางไว้ และไม่ทำให้คุณภาพทรัพยากรมนุษย์แย่ลง เช่น ประชาชนไม่สามารถใช้จ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันเพื่อซื้อยาเสพติด เหล้า บุหรี่ หรือเล่นการพนัน
โครงการช่วยเหลือด้านอาหาร (Supplementary Nutrition Assistance Program : SNAP) ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้นแบบของมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลกำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรหรือแอปพลิเคชัน เพื่อซื้ออาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่น ไข่ เนื้อ นม ผัก โดยไม่สามารถซื้อสุรา บุหรี่ ซึ่งเป็นสินค้าอบายมุขได้
การให้สัมภาษณ์ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายคนในรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความกังขาว่า ผู้บริหารประเทศผลักดันโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้แก่เยาวชนอายุ 16-20 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เช่นใดกันแน่ เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า โครงการเงินหมื่นในรอบนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดให้สุราหรือบุหรี่เป็นสินค้าต้องห้าม แม้ว่าจะเป็นสินค้าอบายมุข
รศ.ดร.ชิดตะวันกล่าวต่อว่า พบว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาลให้สัมภาษณ์ว่า “...หลายคนบอกให้ส่วนราชการช่วยกวดขัน ไม่ใช่ว่าได้เงินหมื่นไปแล้วไปเข้าร้านเกม เล่นตู้เกม...” ซึ่งแปลความได้ว่า รัฐบาลอนุญาตให้ร้านเกม ซึ่งเป็นแหล่งดึงดูดให้วัยรุ่นใช้ชีวิตอย่างไร้สาระ ทำให้เยาวชนมีปัญหาสุขภาพจิตและผลการเรียนตกต่ำ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ นอกจากนี้ การที่รัฐบาลระบุว่า ร้านอาหารที่ขายยเหล้า บุหรี่ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่า การแจกเงินรอบนี้ครอบคลุมการใช้จ่ายในผับและบาร์ด้วยหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลต้องให้ความกระจ่างแก่สังคม
“เห็นได้ว่า นอกจากโครงการฯ นี้จะส่งเสริมวัฒนธรรมใช้จ่ายเงินเกินตัว โดยขาดความรับผิดชอบให้กับเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ยังเป็นกรณีการนำภาษีของประชาชนทั้งประเทศ กระตุ้นให้เยาวชนลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข จนยากที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศชาติได้”
รศ.ดร.ชิดตะวันกล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้ ขัดต่อหลักทฤษฎีการใช้จ่ายของรัฐบาลในรูปแบบที่ไม่ใช่เงินสด ซึ่งเป็นไปเพื่อจำกัดการเข้าถึงสินค้าและบริการที่จะทำลายคุณภาพชีวิตของประชาชน ตลอดจนทำให้โครงการแจกเงินหมื่นครั้งนี้ฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 3 วรรค 2 ความว่า “คณะรัฐมนตรีต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวมด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการชี้ไทยสวนทางโลกปลดล็อกขยายเวลาชนแก้ว!
นักวิชาการเป็นห่วงหลังปลดล็อก ขยายเวลาชนแก้ว เกิดผลกระทบสังคมตามมา
'นักวิชาการ' ชี้นายกฯป้องอธิปไตย ไม่ทำไทยเสี่ยง 'รัฐบริวาร'
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไทยไม่ใช่ “รัฐบริวาร”!
นักวิชาการดีดปากตัวตึงพรรคส้มบอก 'แม่ทัพกุ้ง' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ใน รธน.
นักวิชาการสอนมวย 'วิโรจน์' พรรคส้ม ยัน 'พล.ท.บุญสิน' ปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ตาม รธน. เพื่อปกป้องอธิปไตย
นักวิชาการสุดทน ไล่ส.ส.พรรคส้มทำการบ้านหาความรู้ก่อนวิจารณ์กองทัพรับบริจาค
นักวิชาการสุดทน ไล่ส.ส.พรรคส้ม ทำการบ้าน หาความรู้ก่อนวิจารณ์กองทัพรับบริจาคจากประชาชนฯ ข้องใจตรวจสอบแต่งบทหาร กระทรวงอื่นไม่แตะ
ระวังขัดรธน.! ปฏิบัติตาม 'ถ้อยแถลง' เหตุเขมรยังเป็นภัยมั่นคงของไทย
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "คนไทย Shock…อนุทิน!" โดยระบุว่า 27 ตุลาคม 2568 วันแห่งความอัปยศของคนไทย
'ชิดตะวัน' กระทุ้งรัฐบาลยุติการค้าเขมร สยบฮุนเซนให้ราบคาบ
'ดร.ชิดตะวัน' กระทุ้งรัฐบาลต้องเข้มแข็งเด็ดขาด ทั้งทางทหาร-เศรษฐกิจ ตัดความช่วยเหลือทั้งหมด จนกว่าระบอบฮุนเซนล่มสลาย

