
'เลขาฯป.ป.ช.' เผย คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล แก้ 112 มารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองไม่กี่คน ส่วนใหญ่ส่งไปทางไปรษณีย์ ยันพิจารณาพฤติการณ์รายบุคคล คาดจบกลางปีนี้
21 มี.ค. 2568 - นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา อดีต 44 สส. พรรคก้าวไกล กระทำการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า ตามกระบวนการหลังแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว จะเริ่มต้นจากการเชิญมารับทราบข้อกล่าวหา โดยจะกำหนดวัน เวลา สถานที่ ซึ่งปกติแล้วจะใช้ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สาเหตุที่เราเชิญมาเพื่อต้องการให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาที่ชัดเจน มีประเด็นที่ไม่เข้าใจในส่วนไหนสามารถสอบถามได้ จากนั้นทางคณะไต่สวนจะแจ้งข้อกล่าวหาไป 1 ฉบับ และจะกำหนดเวลาให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา สำหรับบุคคลที่ไม่ได้มา จะส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้ถูกกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เมื่อครบกำหนดระยะเวลาเชิญมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ปรากฏว่ามีบางรายมา บางรายไม่ได้มา โดยในรายที่ไม่ได้มามีการส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ปัจจุบันการดำเนินการยังอยู่ในขั้นตอนนี้อยู่ ซึ่งบุคคลที่ไม่ได้มารับข้อกล่าวหาด้วยตัวเองมีจำนวนมากกว่าบุคคลที่มารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อเราส่งไปที่อยู่ตามทะเบียนบ้านถือว่าเขารับทราบแล้ว
นายสาโรจน์ กล่าวว่า โดยตามระเบียบของ ป.ป.ช. ทำได้ 2 อย่างคือ มารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง และส่งไปที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ซึ่งถ้ามารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเองจะเป็นประโยชน์มากกว่า สามารถสอบถามประเด็นที่ถูกกล่าวหาได้ว่าหมายถึงอะไร จะต้องดำเนินการอย่างไร มีสิทธิอะไรบ้าง ส่วนการส่งไปที่อยู่ตามทะเบียนบ้านจะมีรายละเอียดและแจ้งสิทธิไปครบถ้วนเช่นกัน เพียงแต่เขาจะไม่มีโอกาสสอบถามในประเด็นที่สงสัย ส่วนระยะเวลาในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหานั้น ตามระเบียบ ป.ป.ช. ภายใน 15 วันนับแต่วันรับทราบ ถ้ามารับทราบด้วยตัวเองจะมีวันที่รับทราบชัดเจนคือ วันที่มารับทราบข้อกล่าวหา ถ้าส่งทางไปรษณีย์คือ วันที่ปรากฏหลักฐานว่าไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับได้ส่งถึงผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ซึ่งจะนับไป 15 วันเช่นกัน
"ในการชี้แจงข้อกล่าวหา 15 วัน เป็นช่วงระยะเวลาในการให้โอกาสชี้แจง หากผู้ถูกกล่าวหารายใดมีเหตุผลความจำเป็นสามารถขยายเพิ่มได้อีก 15 วัน หลังจากครบระยะเวลาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว ขั้นตอนต่อไปพนักงานเจ้าหน้าที่จะมาพิจารณาคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับคำแก้ข้อกล่าวหาว่าจะสามารถวินิจฉัยได้หรือไม่เพียงใด หรือจะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานตามที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้าง เพราะเขามีสิทธิอ้างพยานบุคคล เอกสาร หลักฐาน เพิ่มเติมได้ หากพนักงานไต่สวนเห็นว่ามีเหตุจำเป็นเพื่อความยุติธรรมก็ดำเนินการ เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยก็เป็นขั้นตอนการสรุปสำนวน คณะไต่สวนจะสรุปสำนวนเพื่อทำความเห็นเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา" เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมาถึงขั้นตอนชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว แสดงว่าภายในปีนี้อาจจบได้ นายสาโรจน์ กล่าวว่า จะภายในปีนี้หรือภายในครึ่งปีนี้ ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนสมบูรณ์ของการไต่สวน ซึ่งถ้าดูตามขั้นตอนการดำเนินการไต่สวนถือว่าดำเนินการมาในขั้นตอนท้ายๆ แล้ว คือ ขั้นตอนให้โอกาสแก้ข้อกล่าวหาแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องของการสรุปสำนวนเพื่อพิจารณา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงขั้นตอนชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
เมื่อถามว่า คดีนี้พิจารณาเป็นรายบุคคล หรือรวมกันทั้งหมด นายสาโรจน์ กล่าวว่า หลักในการพิจารณาพฤติการณ์การกระทำความผิด ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล เว้นแต่ว่ามีพฤติการณ์ในส่วนไหนที่เป็นการร่วม ซึ่งคือการกระทำอันเดียวกัน เป็นหลักทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ หลักในการพิจารณาสำนวนต้องพิจารณาพฤติการณ์การกระทำความผิด ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม ไม่ได้เป็นการพิจารณาในภาพรวม ไม่ใช่แบบนั้น เรื่องสอบสวนทางอาญาและจริยธรรมจะคล้ายๆ กัน
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า การไต่สวนเรื่องนี้เป็นประเด็นเรื่องฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง พฤติการณ์ของบุคคลใดเข้าลักษณะการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงข้อใด หรือเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรม แต่ไม่ร้ายแรง หลักจะมีอยู่แค่นี้ เพราะไม่ใช่เรื่องทางอาญา
เมื่อถามว่า จะต้องนำการแสดงความเห็นผ่านสื่อ หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองของผู้ที่ร่วมแก้ไขกฎหมายดังกล่าวมาร่วมพิจารณาด้วยหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า พฤติการณ์ พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์เป็นหลักการจะต้องมาประกอบการพิจารณาอยู่แล้ว ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไต่สวน เป็นหลักการทั่วไปที่พนักงานไต่สวนต้องนำมาประกอบการพิจารณาอยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่า หากมีการชี้มูลและมีการส่งฟ้อง จะต้องแยกเป็นรายบุคคลหรือไม่ นายสาโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสำนวนเดียวกัน แม้พิจารณาเป็นรายบุคคล แต่อยู่ในสำนวนเดียวกัน ไม่ได้แยกเป็น 1 คน 1 คดี เป็นคดีเรื่องเดียวกันว่าใครผิด ใครไม่ผิด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พปชร. เย้ยไม่บ้าลงเรือใกล้ล่ม รู้ทัน 'ทักษิณ' ห่วงลูกโดนสอย ไม่กล้าทิ้ง ภท.
'ชัยวุฒิ' เปรียบรัฐบาลเหมือนเรือใกล้ล่ม ใครคิดจะไปลงก็บ้าแล้ว ย้ำ พปชร. ชัดเจนไม่เอากาสิโน 'ทักษิณ' ห่วงลูกโดนสอย ยังไม่กล้าทิ้ง ภท. รอจับมือพรรคส้มเลือกตั้งครั้งหน้า
เปิดเบื้องลึก! ฟัน 'ภูมิ' รวยผิดปกติ ป.ป.ช. กางชื่อ 'บิ๊กการเมือง-ขรก.' โกงข้าว จ่อคิวเชือด
เปิดเบื้องหลัง ป.ป.ช. ฟัน 'ภูมิ สาระผล' รวยผิดปกติ เซ่นพิษคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี กางชื่อบิ๊กการเมือง-ขรก.ระดับสูง อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ป.ป.ช. ฟันซ้ำ! 'ภูมิ สาระผล' ร่ำรวยผิดปกติ ชงศาลยึดทรัพย์
ป.ป.ช. ฟันเพิ่ม 'ภูมิ สาระผล' อดีตรมช.พาณิชย์-อดีตสส. ร่ำรวยผิดปกติ ชงอัยการสุงสุดยื่นศาลฎีกานักการเมืองสั่งยึดทรัพย์ 19 ล้านบาท
'วรงค์' ซัด 'พรรคส้ม' กลืนน้ำลายตัวเอง-รอเสียบร่วมรัฐบาล?
หมอวรงค์ ซัด “พรรคประชาชน” อภิปรายโรยเกลือแต่ไม่กล้ายื่นศาลรัฐธรรมนูญเอาผิด “อุ๊งอิ๊ง” เทียบสองมาตรฐาน ชี้เคยยื่นกรณี “ประยุทธ์” แต่วันนี้กลืนน้ำลายตัวเอง ถามรอเสียบร่วมรัฐบาลหรือไม่
พรรคส้มซัดรัฐบาลเห็นแก่พวกพ้อง ทุนพลังงาน ทำคนไทยจ่ายค่าไฟแพงไปอีก 25 ปี
นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลลงนามเซ็นสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 5,200 เมกะวั
'ปชน.' โรยเกลือ 'นายกฯอิ๊งค์' 3 แผลใหญ่ ยื่นฟันหลายข้อหา แต่ไม่ถอดถอน
'วิโรจน์' เปิดแผนยุทธการโรยเกลือ 'นายกฯอิ๊งค์' 3 แผลใหญ่ 'ตั๋ว P/N - โรงแรมหรูเขาใหญ่ --ชั้น 14' ลุยร้อง ป.ป.ช. ฟันหลายข้อหา ยี้มรดกบาปรัฐประหาร ไม่ยื่นถอดถอน