นักวิชาการ-นักศึกษา นัด 2 เม.ย. บุกรัฐสภา ยื่นหนังสือค้าน ออก กม.เปิดบ่อนกาสิโน

นักวิชาการ-นักศึกษา นัดไปรัฐสภาพุธนี้ 2 เม.ย. ยื่นหนังสือค้านออกกฎหมายเปิดบ่อนกาสิโน ชี้รัฐบาลมีพิรุธเร่งรัดผิดปกติ ข้องใจ มีข้อตกลงใต้โต๊ะกลุ่มทุนกาสิโนใช่หรือไม่

30 มี.ค.2568-​รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการที่ติดตามนโยบายสาธารณะของรัฐบาลในการผลักดันเรื่องการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร กล่าวว่า การที่ทางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  27 มีนาคม 2568 มีมติเห็นชอบร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พร้อมเร่งส่งเข้าสภาเป็นวาระเร่งด่วน คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมเพื่อพิจารณารับหลักการร่างพรบ.ดังกล่าวในวันพุธที่ 2 เมษายน นี้ หรืออย่างช้าในวันพุธสัปดาห์หน้า (9 เมษายน)  ก่อนปิดสมัยประชุม

แม้ในร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ครม.ให้ความเห็นชอบจะเป็นไปตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ไข คือ กำหนดให้คนไทยที่จะเข้าบ่อนกาสิโนได้ต้องมีเงินฝากในบัญชี 50 ล้านบาท ขึ้นไป แต่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ วันที่ 3 และ 27 มีนาคม 2568 ว่า หลักคิดประการหนึ่งของรัฐบาลในการผลักดัน entertainment complex คือเพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และให้คนไทยที่ต้องการเล่นกาสิโนสามารถเข้าเล่นที่กาสิโนในเมืองไทยได้

“จึงเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ในกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลน่าจะกระทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนไทยสามารถเข้าบ่อนกาสิโนได้โดยง่าย ทั้งหมดนี้แตกต่างแนวคิดของประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนิเซีย และเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันมีพัฒนาการหลายด้าน อาทิ คุณภาพระบบการศึกษา ธรรมาภิบาลภาครัฐ ความสงบสุขของสังคม แซงหน้าประเทศไทย โดยรัฐบาลประเทศเหล่านี้มีมาตรการที่ชัดเจนในการปกป้องคนในชาติจากวงจรการพนัน รวมถึงไม่มีนโยบายหารายได้เข้ารัฐจากการที่คนในชาติเล่นการพนัน”

รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวว่า รัฐบาลสิงคโปร์มีมาตรการที่จริงจังเพื่อป้องกันไม่ให้คนในชาติติดการพนันตลอดมา จึงทำให้อัตราการติดการพนันของชาวสิงคโปร์อยู่ในระดับต่ำมาก โดยปี 2566 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 1 และเมื่อพิจารณาตัวเลขการเข้าบ่อนกาสิโนของชาวสิงคโปร์พบว่า อยู่ที่ร้อยละ 3 ของประชากรที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป เท่านั้น  สำหรับมาเลเซีย นับจากปี 2512 จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลอนุญาตให้มีกาสิโนแค่เพียงแห่งเดียว ได้แก่ Casino de Genting แม้ว่ากลุ่มทุนจะกดดันให้เปิดกาสิโนเพิ่มเติม แต่รัฐบาลมาเลเซียก็ปฏิเสธแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากการมีธุรกิจกาสิโนก่อให้เกิดปัญหาสังคมมากมาย โดยเฉพาะการปล่อยกู้นอกระบบให้กับนักพนัน (เรียกกันว่า Ah longs) จนนำมาซึ่งการข่มขู่ กักขัง ทำร้ายร่างกายและสังหารนักพนันและคนในครอบครัว เป็นเหตุให้ภาครัฐต้องเสียงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลในการแก้ไขเยียวยาปัญหา ล่าสุด ปี 2567 นายกรัฐมนตรี Anwar Ibrahim กล่าวว่า “ประเทศมาเลเซียไม่มีแนวคิดที่จะมีกาสิโนแห่งที่สอง เพราะอุตสาหกรรมพลังงานและปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือ สิ่งที่จะทำให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า

สำหรับอินโดนิเซีย กลุ่มทุนได้กดดันให้รัฐบาลอนุญาตให้มี Integrated Resort ซึ่งมีบ่อนกาสิโนที่เกาะบาหลี ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู โดยต่อรองว่า ให้เฉพาะชาวต่างชาติเข้าได้เท่านั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่รัฐบาลอินโดนิเซียปฏิเสธแนวคิดดังกล่าว ในขณะที่ผู้บริหารการท่องเที่ยวเกาะบาหลีก็มีจุดยืนว่า จะใช้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมดึงดูดผู้มาเยือน ซึ่งการไหลบ่าเข้ามาของผีพนัน จะทำลายประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม รวมถึงทำให้เกิดความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดขายของเกาะบาหลี  สำหรับเวียดนาม ในอดีตจากการผลักดันของกลุ่มทุนกาสิโน รัฐบาลเคยมีโครงการนำร่องให้มีกาสิโน 1 แห่งที่อนุญาตให้คนเวียดนามเข้าได้ คือ Corona Casino บนเกาะ Phu Quoc เปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคม 2562 อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 รัฐบาลเวียดนามได้ยุติโครงการนำร่องนี้  ดังนั้น ปัจจุบันคนเวียดนามจึงไม่สามารถเข้าไปในบ่อนกาสิโนได้อีกเลย

“จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนิเซีย และเวียดนาม มีพัฒนาหลายด้านแซงหน้าประเทศไทย ก็เนื่องมาจากผู้นำประเทศมีวิสัยทัศน์ในการปกป้องคุ้มครองไม่ให้คนในชาติเข้าสู่วงจรการพนันกาสิโน รวมถึงไม่มีนโยบายหารายได้เข้ารัฐ ผ่านการเล่นการพนันของประชาชน ในขณะเดียวกันก็มีนโยบายเร่งด่วนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ  ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลไทยชุดนี้กำลังดิ้นรน เพื่อให้ประเทศไทยมีแหล่งการพนันขนาดใหญ่ ในหลายจังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายที่สวนทางกับรัฐบาลประเทศที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นเหตุชวนให้ประชาชนเกิดความสงสัยว่า รัฐบาลชุดนี้มีพันธะหรือข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการกับกลุ่มทุนกาสิโนหรือไม่ อย่างไร?!”

เมื่อถามว่า นักวิชาการและภาคประชาชนจะมีแนวทางเช่นใดต่อจากนี้ รศ.ดร.ชิดตะวันกล่าวว่า เนื่องจากมีนิสิตนักศึกษาบางส่วนที่ติดตามข่าวคราวเรื่อง Entertainment Complex ที่มีบ่อนกาสิโน ได้ขอให้ประสานเพื่อเข้าไปยื่นหนังสือคัดค้านการตั้งบ่อนกาสิโนบนผืนแผ่นดินไทย ต่อประธานรัฐสภาในวันพุธที่ 2 เมษายน นี้ เพื่อเวียนแจ้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ให้รับร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวมโอกาสนี้ จึงขอเชิญพี่น้องคนไทย สื่อมวลชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา นักวิชาการ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ผู้นำและนักบวชของทุกศาสนา ไปร่วมให้กำลังใจลูกหลานที่ไปทำหน้าที่อันสำคัญและศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดภาพ F-16 ไทย ถล่มสะพานจัยจุมเนี้ยะ-บ่อนกาสิโน ตัดเส้นทางอาวุธกัมพูชา

กองทัพเรือผนึกกองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ “ตราดปราบปรปักษ์” ส่ง F-16 ทิ้งระเบิดทำลายสะพานจัยจุมเนี้ยะ บ้านทมอดา จ.โพธิสัตว์ และบ่อนคาสิโนที่ถูก

นักวิชาการ มธ. มองเลือกตั้งหน้า ‘พรรคประชาชน’ โดดเดี่ยว อำนาจต่อรองไหลกลับเพื่อไทย

นักวิชาการธรรมศาสตร์วิเคราะห์ผลจากการยุบสภา ชี้สมการการเมืองหลังเลือกตั้งมีแนวโน้มทำให้พรรคประชาชนโดดเดี่ยว สูญเสียอำนาจต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่บทบาทต่อรองมีโอกาสไหลกลับไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการแข่งขันของการเมือง 3 ขั้ว

ยังไม่ใช่เวลาเจรจาสันติภาพ นักวิชาการ มธ. ชี้ต้องปกป้องอธิปไตยก่อน แนะวิธีสื่อสารเชิงรุกสู้กัมพูชา

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยเจรจาสันติภาพกับกัมพูชา แต่ปลายทางคือต้องเจรจาบนโต๊ะ ชี้ไทยต้องปกป้องอธิปไตยไปจนสถานการณ์กลับสู่ปกติก่อนแล้ว

นายกฯ ย้ำชัดหยุดยิงไม่ได้ หนุนกองทัพเดินตามแผนเต็มที่ ไม่ให้ค่า 'ฮุนเซน' มุกแป้ก

นายกฯ บอกยังไม่คิดขอเปิดรัฐสภาถกปมความมั่นคง ลั่นสัญญาทหารแล้วเดินตามแผนเต็มที่ ไม่มีคำสั่งหยุด เมิน “ฮุน เซน” ปล่อยภาพปั่นคนไทย

'วิปรัฐบาล' ไฟเขียวประชุมร่วมรัฐสภา ถกแก้ รธน. เพิ่มอีก 1 วัน ให้จบวาระ 2

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่มีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานประธานวิปรัฐบาล ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งมีวาระสำคัญคือกรอบเวลาในการประชุมร่วมรัฐสภารัฐสภา

นักวิชาการ มธ. หนุนเพิ่มสมทบประกันสังคม แนะรัฐลดภาษีช่วยผู้ประกอบการ

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นด้วยปรับเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม ระบุต้องแยกส่วนระหว่าง “ประสิทธิภาพในการบริหาร-การเพิ่มเงินสมทบ” เพราะสองเรื่องพัฒนาไปพร้อมกัน