8 พ.ค.ระทึก! กกต.จ่อฟัน 60 สว.คนดังคดีฮั้วล็อตแรก

กกต.ลงดาบฟัน 60 สว. 8 พ.ค.นี้ ล็อตแรกตัวเป้งของวงการ หลังลือหึ่ง 138 สว. วงเเตก ส่อภาพวุฒิสภาโหรงเหรง วิ่งเต้นอ้างนายใหญ่เคลียร์กันแล้ว ตอกฝาโลงยื่นศาลฎีกานักการเมืองฯ เพิกถอนสิทธิ

07 พ.ค.2568 - จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้ทำการสอบสวนกรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จากนั้นมีการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน ขยายผล รวบรวมพยานหลักฐาน อีกทั้งกรณีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษโดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 3 ราย คือ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน์นิรันด์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายระวี อักษรศิริ ผอ.กองคดีการฟอกเงินทางอาญา และนายเอกรินทร์ ดอนดง ผอ.ส่วนวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์พิเศษของคดีเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เป็นคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ให้มีหน้าที่และอำนาจในการสืบสวนและไต่สวนเรื่องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในทุกพื้นที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ต่อมาวันที่ 25 เม.ย.68 ดีเอสไอ ร่วมกับ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้นำกลุ่ม สว.สำรอง เข้าสังเกตการณ์ ตรวจสถานที่คัดเลือก สว.ระดับประเทศ และจำลองเหตุการณ์ ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เพื่อประกอบการสอบสวนคดีพิเศษในคดีฟอกเงิน สว. (คดีพิเศษที่ 24/2568) และใช้ประกอบการไต่สวนของ กกต. อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้เริ่มดำเนินการสอบสวนรวมเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนภายหลังรับเป็นคดีพิเศษ มีการสอบปากคำพยานทั่วประเทศ สอบปากคำพยานกลุ่ม สว.สำรอง ตรวจสอบข้อมูลทางธุรกรรมธนาคารของบุคคลในขบวนการ ข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์ รวมทั้งรับโอนสำนวนการสอบสวนจาก สภ.รัตนาธิเบศร์ และ สภ.โกสุมพิสัย ที่มีผู้กล่าวหาในความผิดฐานอั้งยี่ มาสอบสวนรวมสำนวนในคดีพิเศษดังกล่าว ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งมี ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน และมีกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่มาจาก กกต. และดีเอสไอ รวม 7 ราย ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 กระทั่งวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวนปากคำพยาน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวของกลุ่มคณะบุคคล , การตรวจสอบเส้นทางการเงินที่สะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ตั้งแต่การเลือก สว. ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ , การกาคะแนน การนับผลคะแนนที่มีการเลือกหมายเลขเดียวกัน ซ้ำ ๆ กันหลายชุด เป็นต้น เมื่อได้นำข้อมูลไปวิเคราะห์แล้วพบการกระทำที่เข้าข่ายมีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 จึงส่งหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกอบการพิจารณาตามกฏหมายเลือกตั้ง อาทิ การพิจารณาเพิกถอนสิทธิ สว. นั้น ล่าสุดมีเสียงลือสะพัดว่าบรรดา 138 สว. พูดกันว่ามีการเคลียร์กันแล้ว ข้างบนเคลียร์กันแล้ว หลังรู้ตัวว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะถูกเจ้าหน้าที่ กกต. เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมายเลือกตั้ง พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 อย่างไรก็ตาม การสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และดีเอสไอ รวม 7 ราย ได้ดำเนินการเก็บพยานหลักฐานสำคัญเข้มข้นมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นการตรวจสอบเชิงลึกอย่างละเอียดรอบคอบ ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏจากคำให้การของพยานและหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.2568) กกต. จะมีการทยอยเรียกแจ้งข้อกล่าวหาบรรดาสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ล็อตแรกจำนวน 60 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็น สว.คนดัง ตามความผิดกฎหมายเลือกตั้ง พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ประกอบด้วย

มาตรา 32 ห้ามมิให้กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือในคณะกรรมการระดับอำเภอ ผู้อำนวยการการเลือก หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำการอื่นใดอันเป็นการขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการระดับจังหวัด คณะกรรมการระดับอำเภอ ผู้อำนวยการการเลือก หรือคำสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือในคณะกรรมการระดับอำเภอ ผู้อำนวยการการเลือก หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งของคณะกรรมการหรือปฏิบัติตามคำสั่งของศาลอันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หากได้กระทำโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง

มาตรา 36 ผู้สมัครอาจแนะนำตัวได้ตามวิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้สมัคร จะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนำตัว ต้องปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง มาตรา 32

มาตรา 62 เมื่อคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตามมาตรา 42 วรรคสอง แล้ว ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาว่าผู้นั้นมิได้กระทำความผิด เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษา ว่าผู้นั้นกระทำความผิดให้สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาผู้นั้นสิ้นสุดลงนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งอยู่ในบัญชีสำรองด้วย และเมื่อศาลฎีกา มีคำพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด ให้คณะกรรมการสั่งลบรายชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีสำรอง และให้นำความในมาตรา 46 วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

มาตรา 70 ผู้สมัครผู้ใดไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา 36 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี

มาตรา 77 ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี (1) จัด ทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด

รายงานข่าว ระบุว่า ซึ่งบุคคลที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ล้วนมีพฤติการณ์และพยานหลักฐานชัดเจนว่ากระทำความผิด ไม่ได้ถูกเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยสุจริตเที่ยงธรรม หรือกล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ คือ มาโดยการฮั้ว ซึ่งกระบวนการหลังจากนั้น วุฒิสภาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ กกต. เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เนื่องจาก กกต. เป็นระบบไต่สวน ฉะนั้น หากเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วไม่มาพบเจ้าหน้าที่ ก็ถือว่าประสงค์ไม่ให้การชี้แจง แต่จะไม่ถึงขั้นขอศาลออกหมายจับ แต่ กกต. จะเป็นผู้ดำเนินการพิจารณาเรื่องการทุจริตเพื่อออกใบแดง และส่งเรื่องเพิกถอนสิทธิ สว. ไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อไป

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า ส่วนกรณีที่ดีเอสไอดำเนินการเรื่องความผิดคดีอาญาอื่น คือ ฐานฟอกเงินและอั้งยี่นั้น สำนวนนี้ดีเอสไอคือหัวเรือหลัก ในการสอบสวนบุคคลที่ร่วมกระทำทุจริต รับเงิน เป็นกลุ่มโหวตเตอร์ พลีชีพ จัดฮั้ว ซึ่งเบื้องต้นมีจำนวนหลายร้อยคน ดังนั้น เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้น ดีเอสไอต้องสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่ออัยการส่งศาลอาญารัชดาภิเษก ซึ่งฐานความผิดอาญานี้ ผู้ถูกกล่าวหาสามารถสู้ได้ถึง 3 ศาล คือ ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ และศาลฎีกา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลาม! 'สนธิญา' ร้องดีเอสไอฟัน 157 'นายกแป้น - ผู้ว่าฯ สงขลา'

'สนธิญา' ร้อง 'ดีเอสไอ' ตรวจสอบเอาผิด 'นายกแป้น - ผู้ว่าฯ สงขลา' ม.157 ปมละเว้น เพิกเฉย คนใต้ตายเซ่นน้ำท่วมหาดใหญ่ จี้ 'นายกแป้น' ลาออกภายในอาทิตย์หน้า หากดื้อเตรียมร้อง 'ป.ป.ช.' เอาผิดไล่บี้

'อภิสิทธิ์'​ ลั่น​ ปชป.พร้อมคัดสรรบุคคลลงเลือกตั้ง

'อภิสิทธิ์'​ เผย​ 'ปชป.' พร้อมคัดสรรบุคคลลงเลือกตั้ง​ สั่ง​ 'รองหัวหน้าพรรค​' เตรียมการ หลัง 'กกต.' ประกาศเขตเลือกตั้งใหม่​ จนนครศรีธรรมราช​หาย​ 1 เขต​

มติที่ประชุม กกต. 4 ต่อ 3 เลือก 'ณรงค์ กลั่นวารินทร์' เป็นประธาน กกต. คนใหม่

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดประชุมกรรมการการเลือกตั้ง ประกอบด้วยนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ นายชาย นครชัย นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ และนายณรงค์ กลั่นวารินทร์

กกต. แจงอดีตพนักงานถูกกล่าวหารับเงิน 'ฮั้ว สว.' สั่งให้ออก-ตั้งคกก.สอบแล้ว

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารชี้แจงตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการนำเอกสารไปยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ ในประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรายหนึ่ง

สภาสูงคาดพยานกลับคำให้การคดีฮั้วเพราะการสอบสวนไม่มืออาชีพ!

'ฉัตรวรรษ' เผยพยานกลับคำให้การ 'คดีฮั้ว สว.' หลังอ้างถูกข่มขู่ซัดทอด 'ภท.' ชี้ อยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของผู้สอบสวน หากทำถูกต้องเป็นธรรม-มืออาชีพ ก็ไม่มีแบบนี้