'ทวี' ยิ้มรับหยุดปฏิบัติหน้าที่ ปัดล้วงลูกคดีฮั้วเลือกสว.

14 พฤษภาคม 2568 - ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการะทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรองประธานกรรมการคดีพิเศษตามพ.ร.บการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ว่า ยังไม่ขอพูดในรายละเอียดเนื่องจากยังไม่เห็นคำร้อง ทั้งนี้เราต้องเคารพศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม นั่นคือการตรวจสอบความโปร่งใส ถ้าศาลมีหนังสือมาตนก็แค่ทำคำชี้แจงภายใน 15 วัน และรอการพิจารณาซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ส่วนตัวมองในทางบวกเพราะทำให้ทุกคนมีความสบายใจ ที่ผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ทำงานตามปกติ ตนไม่ได้ไปยุ่งในการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากในทางปฏิบัติรัฐมนตรีไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีได้อยู่แล้ว
 
ส่วนคำสั่งการหยุดปฏิบัติหน้าจะกระทบต่อการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีฮั้วสว.จนทำให้กระบวนการหยุดชะงักหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า มันจะไปหยุดชะงักได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีก็ไม่ได้ไปทำให้คดีไปข้างหน้าหรือถอยหลัง เนื่องจากมีกฎหมายรองรับที่ทำให้พนักงานสอบสวนมีความอิสระ ส่วนกกต.ก็เป็นองค์กรอิสระอยู่แล้ว
 
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจและเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ เพราะศาลก็คงให้เราไปชี้แจงเราก็ไปชี้แจงตามนั้น และรอฟังคำวินิจฉัยของศาล ส่วนเรื่องสำนวนคดีความก็เดินไปตามกฎหมายเพราะถึงมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงหรือควบคุมอะไรได้" พ.ต.อ.ทวี กล่าว
 
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การทำงานของกระทรวงยุติธรรม เราทำตามกรอบกฎหมายเราไม่เคยคำนึงถึงเรื่องการเมือง แล้วเรื่องการเมืองไม่ควรจะมาใช้ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม กฎหมายต้องปกป้องคุ้มครองคนทุกคน เราจะใช้กฎหมายไปทำเรื่องที่ไม่ชอบไม่ได้
 
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ ตามอำนาจหน้าที่ใครจะมีหน้าที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตามกฎหมาย เช่นกันจะเสนอกฎหมายเข้าที่ประชุมครม. จะต้องเป็นรัฐมนตรีเป็นผู้เซ็น ก็จะมีผู้รักษาการซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่คาดว่ามีการตั้งไว้แล้วน่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
 
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายกฯ แล้วหรือไม่ เพราะล่าสุดนายกฯ จะมีการแต่งตั้งใครมาแทนนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตนยังไม่ได้พูดคุยกับใคร เพราะวันนี้ตนมาประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม
 
ต่อข้อถามว่าตอนนี้มีการมองว่าเรื่อง สว. เป็นศึกระหว่างสีแดงกับน้ำเงิน แต่ตอนนี้เหมือนสีน้ำเงินชนะยกแรกแล้ว มองอย่างไร พ.ต.อ.ทวี (อมยิ้มเล็กน้อย) ก่อนตอบว่า การทำงานของกระทรวงยุติธรรม เราทำภายใต้กรอบกฎหมาย และไม่เคยคำนึงเรื่องการเมืองเลย และประเด็นการเมืองไม่ควรนำมาใช้ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรมต้องมีหลักนิติธรรม ที่กฎหมายต้องปกป้องคุ้มครองคนทุกคน เราจะใช้กฎหมายไปทำที่มิชอบไม่ได้ ทั้งนี้ ตนไม่กังวล หากท้ายสุดมีคำวินิจฉัยจากศาลให้พ้นสภาพรัฐมนตรี เพราะตนไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการไปแทรกแซงในองค์กรต่าง ๆ เราชี้แจงได้หมด 
 
เมื่อถามอีกว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลต่อการปรับครม.ในเร็วๆนี้หรือไม่ พ.ต.อ. กล่าวสั้นๆว่า ไม่มีความกังวล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไชยชนก' ชี้พิรุธหมายเรียกคดีฮั้วสว. ข้อมูลมั่วกล่าวหารับผลประโยชน์ 400 ล้าน

นายไชยชนก ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าร่วมประชุมประจำสัปดาห์ ผู้สื่อข่าวได้พยายามเดินสอบถามถึงประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหมายเรียก

'บิ๊กเกรียง' ไม่กังวล 'อนุทิน' เพื่อนซี้โดนหมายเรียกคดีฮั้วเลือกสว.

พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวกรณีคดีฮั้ว สว. ที่ล่าสุดปรากฎข้อมูล คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 มีมติออกหมายเพื่อเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการล็อต 7 ประมาณ 20 คน

ถึงคิว '2 บิ๊ก น.' ภูมิใจไทย พ่วง กก.บห. แจง กกต. คดี 'ฮั้ว สว.'

กกต. ร่อนหมายเรียกแกนนำ 'ภท.' แจงคดีฮั้ว สว. 'เนวิน-อนุทิน' โดนด้วย 'ชาดา' รับกรรมการบริหารพรรคหลายคนได้รับแล้ว พร้อมแก้ข้อกล่าวหา

ศาลไม่อนุญาตประกันตัว แอดมินเว็บพนันเครือข่ายแม่มนต์

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ควบคุมตัวนายชัยสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) หัวหน้าแอดมินเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “แม่มนต์” ไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญารัชดา พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหา

ศาลรธน. แจ้งอัยการสูงสุด จัดส่งข้อมูลคืบหน้ากรณี 'ณฐพร' ร้องฮั้วเลือกสว. ภายใน 15 วัน

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่นายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง) ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49โดยอ้างว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ผู้ถูกร้องที่ 1 และเลขาธิการกกต.ผู้ถูกร้องที่ 2จัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา