4 เหตุผลสั่นคลอนบัลลังก์! ‘อวสานฮุนเซน’ ใกล้เข้ามาแล้ว

อดีตนายทหารความมั่นคง วิเคราะห์ 4 เหตุผลที่ทำให้ยุทธศาสตร์รบแบบโบราณของ ฮุนเซน ล้มเหลว ซ้ำกลับเป็นจุดอ่อนให้ไทยตีโต้แบบเหนือชั้น ทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ แถมกระสุนฝ่ายเขมรเริ่มร่อยหรอ กองกำลังส่วนตัวสั่นคลอน พร้อมเผย จุดจบผู้นำเขมร อาจใกล้กว่าที่คิด!

28 กรกฎาคม 2568 - พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “อวสานฮุนเซนใกล้เข้ามาแล้ว” มีรายละเอียดว่า

1.การสู้รบอย่างเป็นทางการในรูปสงครามจำกัดพื้นที่ได้เกิดขึ้นมาครบ 2 วันแล้ว ซึ่ง ฮุนเซน เป็นฝ่ายริเริ่มก่อน โดยการพัฒนาแผนการรบแบบโบราญสมัยเขมรแดงนำมาใช้ในยุคนี้  ซึ่งประกอบด้วย

(1) เข้าโจมตีไทยก่อนแบบไม่รู้ตัวพร้อมๆกัน 6 จุด โดยหวังว่าไทยจะตั้งตัวไม่ทัน

(2) โจมตีพื้นที่ส่วนหลังของไทยให้เกิดความวุ่นวาย พะว้าพะวงขึ้นควบคู่กันไปด้วย

(3) การรบภาคพื้นดินแบบนี้ ฮุนเซน คิดว่าไทยคงไม่กล้านำเครื่องบินเข้ามาร่วมรบด้วย และ

(4) หลังจากนั้นก็จะฟ้องนานาชาติ กล่าวหาว่าไทยโจมตีก่อน หลังจากนั้นก็จะเปิดการเจรจายุติการรบกับไทย

2.แผนรบแบบโบราญของ ฮุนเซน นั้นไม่ได้ผล เพราะ

(1)รัฐบาลได้มอบอำนาจการตัดสินใจให้ทหารไปแล้ว

(2) การเข้าโจมตีก่อนทั้ง 6 จุด ไม่ได้ทำให้ทหารกัมพูชาได้เปรียบ เนื่องจากอุปกรณ์แจ้งเตือนการเคลื่อนไหวที่ทันสมัย และ การเตรียมพร้อมของทหารไทย ที่คาดไว้ล่วงหน้าว่า ฮุนเซน คงจะใช้รูปแบบนี้แน่

(3) การโจมตีพื้นที่ส่วนหลังไปที่เป้าหมายพลเรือน และโรงพยาบาลนั้น กลับเป็นเหตุผลที่ดี ให้มีการใช้กำลังทางอากาศเข้าปฏิบัติการรบของฝ่ายไทย และ

(4) การรบในยุคตั้งแต่สงครามอ่าว ยุติลงนั้น  การรบร่วม ทั้งภาคพื้นดิน ทางอากาศ  และทางทะเล  กลายมาเป็นหลักนิยมใหม่ (ปัจจุบันมีใหม่กว่านี้อีก) จึงเป็นเรื่องตามปกติในการรบของประเทศที่เจริญแล้ว ถ้าไม่ไปโจมตีต่อเป้าหมายประชาชน

3.สรุป : ปัจจุบันนี้ กัมพูชาก็อ่วมอรทัยไป จนทำให้ทั้งฮุนเซน และ ฮุนมาเนต หายหน้าไปจากFB ที่แสนจะโปรดปราน กระสุนที่ทหารเขมรใช้รบก็มีไม่น่าจะมีเกิน 2 วัน เหลือแต่อาวุธยาว เช่น ขีปนาวุธ PHL-30 ซึ่งถ้ามีการใช้ออกมา กองกำลังส่วนตัวของฮุนเซน (กองพลน้อย BHQ) และ บ้านพัก ฮุนเซน ก็ไม่น่าจะเหลือซาก

4.บทบาทของทหารไทย : ตอนนี้ทหารไทยน่าจะยึด พื้นที่ในกรอบแผนที่ 1:50,000 กลับคืนมาจากทหารเขมรหมดแล้ว และเริ่มทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าพื้นที่ดังกล่าวของกัมพูชาไปแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะมีการเจรจาแบบใด ก็น่าจะออกมา ”ในรูปของการให้ทั้งไทย และ กัมพูชา กลับไปอยู่ในแนวเดิมก่อนเริ่มรบ“

เราต้องไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาด อุตส่าห์รบมาแทบตาย และ ก็สามารถใช้เหตุผลได้ว่า กัมพูชาต้องใช้แผนที่ 1:50,000 กับไทยด้วย เหมือนกับที่ใช้กับเวียตนาม และ ลาว

จะมาใช้ 1:200,000 เฉพาะไทยเหมือนเดิมไม่ได้(เวลารบกัน ก็เห็นใช้ 1:50,000 นี่   นอกจากนั้นประเทศในกลุ่มอาเชียนก็ใช้ 1:50,000 กันทั้งนั้น )

จุดจบของ ฮุนเซน ก็กำลังไกล้เข้ามาทุกที แล้วครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่