เปิดอีก 'แพทองธาร' แจงศาล รธน. ปมคลิปเสียงฮุนเซน 2 ถ้อยคำร้อน 'อยากได้อะไรบอกเดี๋ยวจัดให้' แค่เทคนิคเจรจา ขณะปม 'แม่ทัพภาค 2' ฝั่งตรงข้าม เพราะเขมรไม่พอใจ จึงต้องแยกบทบาทฝ่ายบริหารออกจากฝ่ายความมั่นคง
14 ส.ค.2568 - รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากมีการเปิดเผยคำชี้แจงของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เพื่อชี้ขาดสถานะนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีสมาชิกวุฒิสภา 36 คน ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯ จากปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน แห่งกัมพูชา
ข้อกล่าวหาหลักคือ นางสาวแพทองธาร ขาดความซื่อสัตย์สุจริต และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่ โดยยืนยันว่า ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนในความสุจริตและเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งของข้าพเจ้าแต่ประการใด รวมถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ใช้พยานบุคคล 1 ปาก คือ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ 1 ปาก คือ นางสาวแพทองธาร ให้นัดไต่สวนวันที่ 21 ส.ค. และปัดตกคำขอให้ยกเลิกคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ล่าสุดยังพบคดีชี้แจงอีก 2 ข้อกล่าวหาหลัก โดย น.ส. แพทองธาร ได้ทำคำชี้แจงบางส่วน โดยอ้างถ้อยคำว่า “’อยากได้อะไรดีให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้”ระบุว่า ข้าพเจ้ามีแต่เพียงเจตนาที่ต้องการให้คู่เจรจาได้เสนอเงื่อนไขหรือความต้องการออกมาก่อน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการเจรจาเชิงผลประโยชน์ (Principled Negotiation) โดยการใช้เทคนิคสำคัญคือการตั้งคำถามเพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริง (Interest-Based) ในลักษณะไม่โจมตีจุดยืนของคู่เจรจา แต่มุ่งทำความเข้าใจความต้องการที่อยู่เบื้องหลังมากขึ้น เพื่อจะได้นำมาพิจารณาเจรจาต่อรองเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การยุติความตึงเครียดที่เกิดขึ้น
โดยข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขที่เสนอมาทุกกรณีแต่อย่างใด ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อสมเด็จฮุน เซน ได้เสนอให้ฝ่ายไทยต้องยอมเปิดด่านก่อน แล้วฝ่ายกัมพูชาจะเปิดด่านหลังจากนั้นภายใน 5 ชั่วโมง ข้าพเจ้าก็เสนอกลับไปว่าให้เปิดด่านพร้อมกัน ซึ่งสมเด็จฮุน เซนไม่ได้ตอบรับหรือยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว และข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้มีการตอบรับในเงื่อนไขดังกล่าวของสมเด็จฮุน เซน เช่นเดียวกัน เนื่องจากข้อเสนอใด ๆ จากฝ่ายกัมพูชาก็ตาม ข้าพเจ้าจะต้องนำเงื่อนไขดังกล่าวไปพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงของไทยก่อน เพื่อร่วมกันพิจารณาและตัดสินใจ
ส่วนถ้อยคำที่กล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) ว่าเป็นฝั่งตรงข้ามนั้น ดังที่ข้าพเจ้าได้ชี้แจงข้างต้นว่า นายฮวด คนสนิทของสมเด็จฮุน เซน พยายามอธิบายมูลเหตุของการที่สมเด็จฮุน เซน สั่งการให้มีการปิดด่านชายแดนของฝ่ายกัมพูชา เนื่องมาจากความไม่พอใจของสมเด็จฮุน เซนที่มีต่อแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) เป็นการเฉพาะเจาะจง ข้าพเจ้าจึงจำต้องใช้เทคนิคการเจรจาที่แบ่งแยกปัญหาออกจากตัวบุคคล ไม่ได้เป็นการตำหนิติเตียนในทางลบ หรือแสดงให้เห็นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลไทยแต่อย่างใด แต่เป็นการอธิบายสถานการณ์ต่อฝ่ายกัมพูชาในเชิงสร้างความเข้าใจว่า ฝ่ายบริหารของไทยมีเจตนาที่จะรักษาสันติ และไม่ได้เป็นการโอนอ่อนหรือเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากแต่เป็นการดำเนินนโยบายโดยอาศัยหลักทางการทูตเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศ และป้องกันความขัดแย้งที่อาจลุกลาม
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดความเข้าใจผิดขึ้น ข้าพเจ้าก็ได้มีการชี้แจงและกล่าวคำขอโทษต่อแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) แล้ว และแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) ยืนยันต่อสาธารณชนว่าไม่ติดใจคลิปเสียงของข้าพเจ้า และไม่ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพภาคที่ 2 และไม่ได้มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพแต่อย่างใดตามรายละเอียดดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ การที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงแม่ทัพภาคที่ 2 (พลโท บุญสิน พาดกลาง) ในบทสนทนาเกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้รับแจ้งจากฝ่ายความมั่นคงว่า ทางการกัมพูชาไม่พอใจการเคลื่อนย้ายกำลังทหารของไทย ณ ช่องบก ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้าในวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ข้าพเจ้าจึงจำเป็นต้องสื่อสารเพื่อแยกบทบาทฝ่ายบริหารออกจากฝ่ายความมั่นคง ซึ่งสมเด็จฮุน เซน รู้สึกว่าเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับกัมพูชาในขณะนั้น และเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความไว้วางใจ ที่อาจนำไปสู่การเปิดเจรจาในระดับทางการต่อไปโดยไม่ใช้มาตรการทางทหารและทางเศรษฐกิจ อันอาจส่งผลกระทบแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ
ความตั้งใจเดียวของข้าพเจ้าตลอดบทสนทนาจึงเป็นเรื่องการรักษาผลประโยชน์ของชาติโดยไม่มีเจตนาจะได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตน ดังจะเห็นได้จากบทสนทนาว่า ไม่มีข้อความตอนใดที่ข้าพเจ้าเรียกร้องเอาผลประโยชน์ให้ตกเป็นของตนเองหรือครอบครัวแต่อย่างหนึ่งอย่างใด หรือได้ถือเอาประโยชน์ส่วนตนเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ หรือได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
รายละเอียดความไม่พอใจของทางฝั่งกัมพูชาปรากฏอยู่ในบทสนทนาที่สมเด็จฮุน เซน กล่าวถึงนาทีที่ 3.45-5.01 เป็นภาษากัมพูชา ทั้งนี้ พฤติการณ์ตลอดบทสนทนาดังกล่าวอยู่ในกรอบแห่งแนวนโยบายการต่างประเทศ ซึ่งดำเนินการโดยสันติวิธีตามหลักสากล หาใช่การดำเนินการในเชิงลับหรือมีเจตนาบ่อนทำลายผลประโยชน์ของรัฐไม่ และเป็นไปตามแนวทางการหารือในช่วงบ่าย วันที่ 15 มิถุนายน 2568 ระหว่างข้าพเจ้า กับรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์) และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช)
นอกจากนี้ ผู้ร่วมสนทนา คือ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งไม่ได้มีสถานะตามกฎหมายภายในของประเทศตน หรือภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่จะสามารถกระทำการอันก่อให้เกิดผลผูกพันทางนิติสัมพันธ์ระหว่างรัฐได้ อีกทั้งในระหว่างที่มีการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน นั้น ไทยและกัมพูชา ยังถือว่ามีความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับที่ใกล้ชิดกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตติดต่อกัน และในฐานะประเทศในกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ถึงแม้จะมีความตึงเครียดระหว่างกันตามแนวเขตชายแดนบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดที่มีการปะทะด้วยกำลังกันอย่างรุนแรง และยังไม่มีการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรกเล็งลอกการบ้านแดนปลาดิบ
'บวรศักดิ์' ประชุม คกก.ถอดบทเรียนอุทกภัยนัดแรก ชี้ประเทศมี กม.แก้ภัยพิบัติเพียบ แต่เกิดเหตุฉับพลันอำนาจสั่งการไม่ได้ เตรียมถอดบทเรียนแบบญี่ปุ่น ก่อน 'นายกฯ อนุทิน' นั่งหัวโต๊ะนำประชุมต่อ
ต้องตีความ! อนุทินบอก 12 ธ.ค.คาดเข็มขัดนิรภัย
นายกรัฐมนตรี ลั่น คาดเข็มขัดนิรภัย หลังสื่อถาม 12 ธ.ค.ไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใช่หรือไม่ ยกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ หลัง 'เพื่อไทย' ไม่ยื่นซักฟอกแล้ว บอกทำงานทุกวัน ยังไม่ได้คุย ย้ำอยู่ไม่เกิน 31 มค.
'อนุทิน' ขึงขังห้ามทำลายเกียรติภูมิ-รุกล้ำ!
นายกฯ กร้าว! ห้ามรุกล้ำ ห้ามย่ำยี ห้ามทำลายเกียรติภูมิและคนไทย ปมชายแดนบ้านหนองจาน ปัดขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาต้องย้ายออกก่อนยุบสภา ย้ำความมั่นคงไม่มีกรอบกำหนด
นายกฯ บอกให้ทุกคนระบายแต่ย้ำเชื่อตัวเลขหมอ-สธ.
นายกฯ ชี้ตัวเลขผู้เสียชีวิต เชื่อแพทย์ - สถาบันนิติเวช บอก ปกปิดไม่ได้ หลังสะพัดมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยหลักพัน บอกปล่อยให้ระบายแล้วจบ ทำงานต่อ หลังมีคลิปชาดา ไล่นายกฯแป้น
นายกฯ มอบนโยบาย กอ.รมน.เร่งปราบภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์
'นายกฯ' มอบนโยบาย 'กอ.รมน.' กำหนดทิศทางปี 69 มุ่ง 'ยั่งยืน-ทันสมัย' เร่งปราบปรามภัยข้ามชาติ-สแกมเมอร์ ชูงานเชิงรุกร่วมมือชุมชน เข้าถึงเป็นที่พึ่งประชาชน


