ป.ป.ช. เผยแพร่ข้อเสนอแนะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมขังในสถานที่คุมขัง โดยให้ทบทวนระเบียบ จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขให้ชัดเจน เพื่อลดโอกาสการใช้ดุลยพินิจที่เป็นการเอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องขังบางราย ทั้งนี้ได้เสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณามอบหมายกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
11 กันยายน 2568 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการคุมขังในสถานที่คุมขังตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 78/2568 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.68 ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา เพื่อมอบหมายกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 32
โดยเนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่กรมราชทัณฑ์ประกาศระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการ คุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ครั้งเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.66 รวมถึงอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง โดยสาระสำคัญของระเบียบ และอนุบัญญัติเป็นการกำหนดสถานที่คุมขังอื่นที่มิใช่เรือนจำหรือจำคุกนอกเรือนจำ ซึ่งการคุมขังในสถานที่คุมขังยังขาดความชัดเจนในการดำเนินการ
รวมถึงทำให้เกิดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อการใช้ดุลพินิจเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้แก่บุคคลนำไปสู่การเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง เช่น ความไม่ชัดเจนของนิยามคำว่า สถานที่คุมขัง ทำให้เกิดการตีความว่าหมายความรวมถึง บ้านหรือที่อยู่อาศัยส่วนตัวของผู้ถูกคุมขัง เป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการคุมขังในสถานที่คุมขังฯ มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ คือ ให้กรมราชทัณฑ์ทบทวนการดำเนินการเกี่ยวกับระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง โดยต้องจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขหรือแนวทางการปฏิบัติต่างๆ ในการบริหารงานเรือนจำและการบริหารโทษตามอำนาจหน้าที่ให้ชัดเจน เพื่อลดโอกาสการใช้ดุลพินิจที่อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ถูกคุมขังบางราย
และควรเร่งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการคุมขังในสถานที่คุมขัง เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบ เพื่อร่วมตรวจสอบการดำเนินการ อันจะเป็นการสร้างความโปร่งใส ลดแรงต้านการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์จากภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงมีข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการในระยะยาว เช่น กรมราชทัณฑ์ควรจำแนกลักษณะผู้ต้องขังจะเป็นข้อมูลสารสนเทศที่มีความสำคัญ เพื่อให้มีข้อมูลผู้ต้องขังแต่ละรายอย่างละเอียดและสมบูรณ์ สำหรับใช้ประโยชน์ในการบริหารงานเรือนจำ เพื่อให้เกิดการแยกการคุมขังในสถานที่ควบคุมและการบริหารโทษที่เหมาะสม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
กสม. มีมติสอบ 'คุก VIP' ส่อละเมิดสิทธิ เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจง
'กสม.' มีมติตรวจสอบ กรณีพบห้องวีไอพีของผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่อเลือกปฏิบัติละเมิดสิทธิ จ่อเชิญหน่วยเกี่ยวข้องให้ข้อมูล
แจงยิบสางผบ.คุกฉาว 28พ.ย.สรุปชงรมว.ยธ.
โฆษกกรมราชทัณฑ์เผยคืบหน้าปมตรวจสอบ "คุก VIP เทา" แย้มไล่กวดเอกสารลาพักร้อน “มานพ” อดีต ผบ.คุก-เอกสารการเงินปรับปรุงห้องลับใต้บันได
รมว.ยุติธรรม เผยเจ้าหน้าที่อึดอัดพฤติกรรมอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ
รมว.ยุติธรรม เผยข้าราชการในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-กรมราชทัณฑ์ สุดอึดอัดกับพฤติกรรมของ “อดีตผบ.มานพ” แย้ม ดีเอสไอเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เซ่นคุกวีไอพี! รมว.ยธ. สั่ง 'ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพ-เลขาฯ' ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เอื้อผู้ต้องขังชาวจีนว่า ข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือว่ามีความคืบหน้าและเริ่มมีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว


