นักวิชาการ สะท้อนข้อเท็จจริง  ปิด-เปิดด่านกับเรื่องขาตินิยม ตีแสกหน้า 'บิ๊กเล็ก' ว่าที่รมว.กลาโหม

14 ก.ย.2568-รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง 🇹🇭 ปิดด่าน = ชาตินิยม? … ญี่ปุ่นคือคำตอบ! 🇯🇵 เนื้อหาระบุว่า จากกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า หากรัฐบาลไทยไม่ยอมเปิดด่านไทย-กัมพูชา ตามคำเรียกร้องของรัฐบาลญี่ปุ่น ด้วยเหตุชาตินิยม ญี่ปุ่นคงเข็ดขยาดกับประเทศไทยนั้น เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากสารานุกรม Britannica ได้ให้คำนิยาม ชาตินิยม (Nationalism) คือ อุดมการณ์หรือความสำนึกที่แสดงออกถึงความรัก ความผูกพัน และความจงรักภักดีอย่างแรงกล้าต่อชาติ โดยถือว่าภาระผูกพันต่อชาติ มีน้ำหนักมากกว่าผลประโยชน์ส่วนบุคคลหรือกลุ่มอื่น

ซึ่งข้อเท็จจริงที่ผ่านมาปรากฏชัดว่า ประเทศที่สามารถพัฒนาจนมีความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ต่างมีพลเมืองรวมถึงนักการเมือง ที่เห็นประโยชน์ของชาติสำคัญกว่าประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ของประเทศอื่นทั้งสิ้น

นับจากอดีตถึงปัจจุบัน การตัดความสัมพันธ์ รวมถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เป็นมาตรการที่นานาอารยประเทศมักใช้เพื่อกดดันประเทศที่เห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

อาทิ กรณีการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนนับแต่ปี 2565  สหภาพยุโรปได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียอย่างหนักหน่วงในหลายรูปแบบ เพื่อทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียอ่อนแอ จนแสนยานุภาพในการรบต่ำลง แม้ว่ารัสเซียจะยังมิได้มีการรุกรานประเทศเหล่านี้ก็ตาม

เช่นเดียวกัน นอกเหนือจากความร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ประเทศญี่ปุ่นได้มีมาตรการเพิ่มเติมด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง เช่น ปี 2542 สมาชิกรัฐสภาได้เสนอกฎหมายเพื่อจำกัดการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่เป็นภัยคุกคามความมั่นคง รวมถึงเกาหลีเหนือ เนื่องจากมีความกังวลว่า เทคโนโลยีและอุปกรณ์เชิงพาณิชย์อื่นๆ จำนวนมากที่ผลิตโดยบริษัทญี่ปุ่น อาจถูกประเทศเหล่านั้นนำไปเป็นส่วนประกอบในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ จนอาจกลับนำไปใช้โจมตีญี่ปุ่น

ในปี 2552 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยุติการส่งออกและนำเข้าสินค้ากับเกาหลีเหนือ ซึ่งครอบคลุมสินค้าจากประเทศที่ 3 ด้วย ล่าสุด เมษายน 2568 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ขยายระยะเวลามาตรการดังกล่าวเพิ่มอีก 2 ปี  แม้ว่าการระงับการส่งออกสินค้าไปยังเกาหลีเหนือจะทำให้ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างมากก็ตาม  ซึ่งการตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกับประเทศเกาหลีเหนือดังกล่าว เป็นไปเพื่อตอบโต้การพัฒนาขีปนาวุธ รวมถึงความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการลักพาตัว และประเด็นกิจกรรมผิดกฎหมายอื่น ๆ แม้ว่าเกาหลีเหนือจะยังมิได้มีการโจมตีญี่ปุ่นแต่อย่างใด

ดังนั้น เหตุการณ์กองกำลังกัมพูชาโจมตีบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล และสถานประกอบการ ระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 จนทำให้คนไทยและทหารไทยบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก เป็นบทเรียนที่รัฐบาลไทยต้องตระหนักว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องยุติความสัมพันธ์ทางการค้ากับกัมพูชา ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ เฉกเช่นที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เคยกระทำไว้เป็นแบบอย่าง  และเนื่องจากคนญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่มีสำนึกรักชาติบ้านเมืองอย่างเต็มเปี่ยม และพร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม จึงย่อมเข้าใจความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องปิดด่านเพื่อให้กัมพูชาสิ้นสภาพ จนไม่สามารถเป็นอันธพาลสร้างความหายนะให้กับประเทศไทยได้อีก!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘บิ๊กเล็ก’ ลั่น! อาวุธเขมรที่ยึดได้ กองทัพใช้หรือทำลายได้หมด แย้มสถานการณ์ชายแดน ‘ขอเวลาอีกไม่นาน’

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวก่อนการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถึงสถานการณ์ล่าสุดชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า มีความคืบหน้าไปตามลำดับ 

ตร.เฝ้าระวัง 'นักรบรับจ้าง' หลังโคราชพบข้อมูลบางอย่าง สั่งคัดกรองต่างชาติเข้ม

รองโฆษก ตร. ย้ำ เฝ้าระวัง นักรบรับจ้าง จ.นครราชสีมา เข้มคัดกรองต่างชาติ ทุกช่องทาง ป้องกันเข้ามาก่อเหตุ

'อนุทิน' ลั่นเป็นนายกฯต้องรับผิดชอบ ปท. มั่นใจสถานการณ์ขัดแย้งไม่ถึงวันเลือกตั้ง

‘อนุทิน’ เผยคนเป็นนายกฯลอยตัวไม่ได้ ต้องรับผิดชอบต่อประเทศ เผยคุย ‘ทรัมป์’บอกไทยตอบโต้แรง สวนกลับส่งคลิปยิงจรวด BM-21 พิสูจน์ใครแรงกว่าใคร อัด ผู้นำเขมร มีสิทธิ์อะไรเอาดาวเทียมมาจับการปฏิบัติการทางทหารไทย มั่นใจสถานการณ์ขัดแย้งไม่ถึงวันเลือกตั้ง

ส่งกำลังใจ 'ผู้หมู่เอสโซ่' รบพิเศษลพบุรี เข้าตีปราสาทตาควาย โดนสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ

ผู้หมู่เอสโซ่ได้รับภารกิจให้ทำการเข้าตีปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ แต่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนสะเก็ดระเบิด