
อดีตส.ส.7 สมัยปชป. ชี้หากกลุ่มเสี่ยต่อประกาศหนุนอภิสิทธิ์ทุกอย่างจบ ยันพร้อมกลับบ้านเก่า ชี้หากไม่เขย่า มีโอกาสเป็นพรรคต่ำสิบ เผย มาดามแป้ง ไม่ใช่คนอื่นไกลพรรคสีฟ้า
21 ก.ย.2568- นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตสส.ตรัง 7 สมัย พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคปชป.เมื่อช่วงธันวาคม 2566 หลังอยู่กับพรรคปชป.มา 28 ปีโดยลาออกหลังการเลือกหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ที่กลุ่มนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เข้าไปเป็นหัวหน้าพรรคปชป.และบริหารพรรคปชป. ซึ่งก่อนหน้านั้น นายอภิสิทธิ์ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคปชป.ไปก่อนแล้ว กล่าวถึงการตัดสินใจกลับเข้าพรรคปชป.อีกครั้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า ขอดูทิศทางลมก่อน
นายสาทิตย์กล่าวว่า ต้องเล่าเหตุที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคปชป.ก่อน ซึ่งสาเหตุที่ลาออกในเวลานั้น เพราะเห็นว่าแนวทางของพรรคเวลานั้นไม่ใช่แนวทางเดียวกับที่เราเชื่อหากจำได้ ตอนที่นายอภิสิทธิ์ลาออกจากพรรค ก็คือเหตุการณ์เดียวกัน คือเราก็คาดการณ์ตอนนั้นว่าดูแล้วพรรคปชป.จะไปร่วมรัฐบาลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ก็เป็นจริง อันไม่ใช่แนวทางที่เราเชื่อถือเลยลาออกจากพรรคปชป. ดังนี้ หลังจากนี้พรรคปชป.จะตัดสินใจเดินทางไหน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า สำหรับตนเอง มองว่าพรรคปชป.มีสองทางเลือก คือ หนึ่ง เดินทางพรรคขนาดกลางถึงขนาดเล็ก ก็คือยี่สิบห้าเสียง หรือสิบกว่าเสียงว่ากันไป แล้วก็กลายเป็นเหมือนพรรคอะไหล่สำรองที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคอะไรก็ได้ ซึ่งหากเป็นแบบนี้ก็หมายถึง คนในพรรคก็เลือกกันเอง การเปลี่ยนจากคุณเฉลิมชัย ก็เหมือนกับการเปิดโอกาสให้คนภายในพรรคปชป.ขณะนี้ ก็สลับตำแหน่งกัน แล้วก็ทำแนวทางการเมืองแบบพรรคขนาดกลางหรือเล็ก ส่วนแนวที่สอง คือต้องการทำให้พรรคปชป.กลับไปเป็นพรรคหลักในการเมืองไทยอย่างที่เคยเป็นมาแล้วในอดีต ซึ่งถ้าจะให้เป็นแบบนี้ ก็ต้องมีการเปิดกว้าง มีการไปเชื้อเชิญคนที่เคยอยู่พรรคปชป.แล้วออกไปจากพรรค ที่ยังมีกำลัง มีความสามารถ เป็นคนดีที่จะทำงานให้พรรคปชป.ได้ให้เข้ามา ซึ่งนายเฉลิมชัย ตอนออกไปก็บอกว่า เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคได้มีการเฟ้นหาคนดีมีความสามารถเข้ามาทำงาน แต่ว่าก็ยังไม่น่าจะพอ
“ต้องเปิดกว้างเอาคนนอกคนเก่งเข้ามาร่วมกับกรรมการบริหารพรรคปชป.ชุดใหม่ หรือร่วมขบวนกับพรรคด้วย และต้องรวมถึงคนรุ่นใหม่ ที่เคยอยู่กับพรรคปชป.แล้วหายไป เช่นกลุ่มนิวเดม ที่เป็นคนGen Z ให้เข้ามาด้วย พรรคปชป.ถึงจะประกอบไปด้วยกำลังคนที่พรั่งพร้อมแต่สิ่งที่สำคัญคือการกลับมาสู่อุดมการณ์พรรค มันต้องหมายถึงการฟื้นจุดยืนแนวทางของพรรคที่เคยเป็นในอดีต ไม่ใช่ว่าจะเป็นขั้วไหนก็ไปร่วมได้ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมคิดว่าพรรคปชป.ก็มีโอกาส แต่อาจไม่ใช่การเลือกตั้งครั้งหน้า แต่อาจเป็นการเลือกตั้งครั้งถัดไปอีก ก็อาจจะยังมีโอกาสที่จะขึ้นมาเป็นพรรคหลักได้”
เมื่อถามว่าแล้วใครจะเป็นผู้ทำหน้าที่ประสานงาน มือประสานสิบทิศแบบนี้ได้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลายคนในพรรคก็ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว มีคนนั้นไปคุยกับคนนี้ คนนี้ไปคุยกับคนนั้น ที่ผมคิดว่าก็เป็นสัญญาณที่ดี เพราะเขาคงเห็นว่าคะแนนนิยมมันตกลงจริง โพล์บางสำนักล่าสุดเหลือแค่สามเปอร์เซ็นต์กว่าๆ จึงมาถึงจุดที่คนในพรรคปชป.ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง
ถามว่านอกจากนายอภิสิทธิ์ ที่อาจกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคปชป.อีกครั้ง คิดว่ามีคนอื่นอีกหรือไม่ ที่จะเป็นทางเลือกขึ้นมา นายสาทิตย์ ตอบว่า ขณะนี้ที่มีชื่อโผล่ขึ้นมา ก็ได้ยินชื่อมาดามแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด) แต่ยังไม่เคยได้ยินเจ้าตัว ให้สัมภาษณ์อะไรชัดเจน มีการพูดถึงชื่อนายกรณ์ จาติกวนิช หรือมาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค ที่มีหลายชื่อไม่เป็นไร ก็มาช่วยกันคิดช่วยกันเฟ้น จะได้รู้ว่าพรรคยังมีคนมีความรู้ความสามารถ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะด้วย
“ผมดูนายอภิสิทธิ์ ก็คงเหมือนกับคุณชวน หลีกภัยหรือหลายๆคน ก็คือ ไม่มีพรรคการเมืองอื่นในใจ ไม่มีพรรคการเมืองอื่นในชีวิต ก็มีอยู่พรรคเดียว คือประชาธิปัตย์ อันนี้คือเรื่องของการศรัทธาในแนวทางที่เคยเป็นมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคคิดว่าด้วยความที่รักพรรคเหนียวแน่นแบบนี้ ถ้าพรรคถึงจุดที่ต้องช่วยเหลือ นายอภิสิทธิ์ก็พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลืออยู่แล้ว ซึ่งโดยรูปธรรม การเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องคุยกัน คนที่เป็นโหวตเตอร์หรือคนที่อยู่ข้างนอกก็ดี ในอดีตพรรคปชป.ก็เคยไปเชื้อเชิญ พ.อ.ถนัด คอมันตร์ อดีตรมว.ต่างประเทศ มาเป็นหัวหน้าพรรคปชป.หรือในอดีต พรรคก็เคยไปเชิญนายอนันต์ อนันตกูล อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยมาเป็นเลขาธิการพรรคปชป.ก็เคยทำมาแล้ว อันนี้คือรูปธรรมที่ปรากฏ แต่นายอภิสิทธิ์หรือนายกรณ์หรือมาดามแป้ง ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็มีการคุยกันอยู่เพียงแต่ยังไม่ได้ปรากฏเป็นรูปธรรมว่าเป็นใคร ก็ขึ้นอยู่ว่าที่มีการกำหนดให้ประชุมเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคปชป.วันที่ 18 ตุลาคม เราก็คิดว่าทุกอย่างคงค่อยๆชัดมากขึ้น”
ถามต่อว่าจะมีโอกาสหรือไม่ที่นายเฉลิมชัย อดีตหัวหน้าพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง สองแกนนำพรรคปชป.จะไปเชิญนายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคปชป. อีกครั้ง นายสาทิตย์กล่าวว่า จริงๆ ก็อาจมีการพูดคุยกันอยู่แล้วระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายเฉลิมชัยใครจะไปรู้ เพราะนายเฉลิมชัยที่ลาออกก็ประกาศชัดว่าเรื่องปัญหาสุขภาพและอยากเห็นคนดีคนมีความรู้ความสามารถเข้ามา ในอดีตนายเฉลิมชัย เคยเป็นเลขาธิการพรรคปชป.ในยุคที่นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคปชป. แล้วนายเฉลิมชัยก็ยังไม่ไปไหน ยังอยู่กับพรรคปชป.ต่อไป
ถามย้ำว่าหากนายเฉลิมชัยประกาศสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ แบบนี้จะจบไหม หากดูจากองค์ประกอบเช่นเชิงคณิตศาสตร์(จำนวนกรรมการบริหารพรรค-ส.ส.ของพรรคปชป.กลุ่มของนายเฉลิมชัย) นายสาทิตย์ระบุว่า”ถ้าแบบนั้น ในเชิงคณิตศาสตร์การเมืองก็จบเลย เพราะโหวตเตอร์เสียงข้างมากยังอยู่กับฝ่ายนายเฉลิมชัน ถ้านายอภิสิทธิ์กลับมา ซึ่งตัวผม ยังอยากเล่นการเมืองต่อ คือผมก็ยังไม่เห็นพรรคการเมืองในใจผมในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา ถ้าประชาธิปัตย์ฟื้นกลับมา อุดมการณ์กลับมา นายอภิสิทธิ์กลับ ผมก็กลับ และผมคิดว่ายังจะมีเพื่อนๆอีกหลายคนก็พร้อมจะกลับเข้ามา เพราะที่อยู่ต่างพรรคกันก็มี ก็ได้คุยกัน
ซักว่าหากนายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคปชป. คิดว่านายอภิสิทธิ์ จะเลือกนายเดชอิศม์ ขาวทองเป็นเลขาธิการพรรคปชป.หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า เดาใจไม่ออก ไม่ทราบว่านายอภิสิทธิ์คิดอย่างไร ไม่เคยได้คุยกัน แต่คิดว่าเขาคงมีสเปกในใจอยู่แล้ว ผมคิดว่าอย่างนั้น หากเขากลับมา ก็ต้องมีสเปกในใจ หากลองดูในอดีต สมัยนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคปชป. มีเลขาธิการพรรค ก็คือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเฉลิมชัย นายจุติ ไกรฤกษ์
ถามถึงความเป็นไปได้ที่หากหัวหน้าพรรคปชป.คือนายอภิสิทธิ์ แล้วมาดามแป้ง เป็นเลขาธิการพรรคปชป.โอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ในแง่ข้อบังคับพรรคปชป.ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคปชป.เป็นคนเสนอ ก็ต้องดูว่านายอภิสิทธิ์จะเสนอใคร
เมื่อถามต่อว่าหากนายอภิสิทธิ์ไม่มา รวมถึงคนอื่นเช่น มาดามแป้ง ก็ไม่มา จนต้องกลับมาเลือกคนในพรรคตอนนี้กันเอง ได้คนในพรรคปชป.เป็นหัวหน้าพรรค คิดว่าอนาคตพรรคปชป.จะเป็นอย่างไร นายสาทิตย์ระบุว่าก็จะเป็นแบบที่ผมบอกไว้ข้างต้นก็คือ ก็จะเป็นพรรคขนาดกลางถึงเล็ก เพราะต้องยอมรับว่าการเมืองยุคนี้ ในระดับล่าง ชาวบ้านก็เปลี่ยนไป ประชาธิปไตยเงินสดก็มีบทบาทมากขึ้น มันสู้กันระหว่างกระแสกับกระสุน ปรากฏการณ์อนาคตใหม่กับก้าวไกล ในหลายที่กระแสขี่กระสุนชนะมาแล้วเพราะฉะนั้น ประชาธิปัตย์ต้องทำให้ได้แบบนั้น ซึ่งการทำให้ได้แบบนั้น เราก็เห็นตัวอย่างกันอยู่ว่า ลำพังเฉพาะคนในขณะนี้ ก็ไม่ง่ายแต่หากเติมคนเข้ามา เราเห็นชื่อคนบิ๊กเนมเข้ามา ทั้งคนที่เคยอยู่พรรค และคนไม่เคยอยู่กับพรรคมาก่อนแต่มีการเชื้อเชิญเข้ามา กระแสมันก็มาได้ ผมคิดแบบนั้น
ต่อข้อถามที่ว่า หากสุดท้ายพรรคปชป.ถ้าหัวหน้าพรรค ยังคงเป็นคนของพรรคเดิม ๆ โอกาสของพรรคปชป.ที่มีการปรามาสว่าปชป.จะเป็นพรรคต่ำสิบก็เป็นไปได้ นายสาทิตย์ยอมรับว่า เป็นไปได้ ดูจากผลโพล์ที่ออกมาชัดเจนมาก และที่เรายังไม่แน่ใจ ก็คือ ยังจะมีคนคิดจะย้ายพรรคอีกหรือไม่ เพราะตอนนี้พลังดูดเริ่มทำงาน บ้านใหญ่ทั้งหลายขยับกันวุ่นเพราะการเมืองแบบบ้านใหญ่แบบที่ต้องอาศัยพลังอุปถัมภ์ทางการเมอง พลังมันเยอะ ส่วนโอกาสที่จะมีการยุบสภาเร็วกว่าที่เคยคิดกัน ก็มีความเป็นไปได้ มันขึ้นอยู่กับพรรคใหญ่ว่าพร้อมหรือไม่ หากพร้อมก็คงอยากเลือกตั้งเลย มันก็จะกลายเป็นส้มสู้น้ำเงิน ถ้าแดงยังเพลี่ยงพล้ำแล้วน้ำเงินกุมความได้เปรียบ ก็อาจยุบเร็ว
ถามย้ำว่าถึงตอนนี้ โอกาสที่นายอภิสิทธิ์คัมแบ็ก มีโอกาสถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วหรือยัง นายสาทิตย์ระบุว่า ผมว่าใจคิด แต่ว่าตัวคณิตศาสตร์การเมือง มันยังต้องเดินอีกเยอะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ลุงป้อม’ ส่งขุนศึกเหนือ ‘สุรเดช’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่
'ลุงป้อม'ลั่นกลองรบ ส่งขุนศึกทัพเหนือ 'สุรเดช ยะสวัสดิ์' เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่ เผยเป็นอดีตสส. 9 สมัย-อดีตข้าราชการผู้ใหญ่ประสบการณ์เพียบ ทำคุณประโยชน์ให้ชาวเชียงใหม่มากมาย
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ
'กรณ์' แนะ ปปง. ยึดทรัพย์สแกมเมอร์รายใหญ่ ต้องสาวให้ถึงคนไทย แฉพยายามโยกย้ายทรัพย์สิน
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอกสารหลักฐานชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา โดยสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเกี่ยวโยงกับวงการสแกมเมอร์ และอาจจะเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามในการฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกรรมเหล่านั้น
'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง
"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา


