
คนการเมือง ร่วมงาน ‘รำลึก 6 ตุลา’ ด้าน ‘ณัฐพงษ์’ รับ เสียงสะท้อน ปชช.บางส่วนผิดหวังโหวตเลือก ‘นายกฯ อนุทิน’ มอง ‘แก้ รธน.’ สิ่งสำคัญคือเนื้อหา เพื่อจัดระบบองค์กรอิสระ หวัง รัฐสภา โหวตเห็นชอบวาระรับหลักการ นำทุกร่างเข้าไปหารือก่อน ขณะที่ ‘อธิการบดี มธ.’ ชี้ ไม่ควรใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาการเมือง เหตุทําให้บานปลาย-ฝากรอยแผลสังคมระยะยาว
6 ต.ค.2568-ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานรำลึก 6 ตุลา ณ ประติมานุสรณ์ “ธรรมศาสตร์กับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519” ซึ่งมีบุคคลทางการเมืองเข้าร่วมด้วย อาทิ นายสรวิศ ธานีโต ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า นายชัยธวัช ตุลาธน กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ส่งพวงหรีดมาร่วมงานด้วย
สำหรับบริเวณที่จัดงาน ยังมีการแขวนแผ่นป้ายแสดงความคิดเห็น และข้อความสะท้อนความรู้สึกบางส่วนว่า “เข้าป่าอีสานใต้ 5 ปี ออกมาก็เรียนต่อ แล้วไปทำงานต่างประเทศ 30 ปี กลับมาร่วมงานช่วยกิจกรรมเพื่อนรำลึก และสืบสานอุดมการณ์ เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ดีงาม ในนามสโมสร 19 อีสานใต้ เป็นองค์กรที่ยังดูแลมิตรสหายที่ยังมีชีวิตอยู่ และอยู่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม นี่! ผ่านมาแล้ว49 ปี ความทรงจำไม่เคยลืมเลือน”
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาล อธิบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเปิดงาน 49 ปี 6 ตุลา ช่วงหนึ่ง ว่า ข้อสรุปจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม ก็คือ ไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาของทางการเมือง ซึ่งจะทําให้เหตุการณ์บานปลาย และฝากรอยแผลให้กับสังคมในระยะยาว ตนเชื่อว่า งานวันนี้จะช่วยให้สติกับสังคมไทย และไม่ลืมบทเรียนในอดีต ทําให้เป็นสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
จากนั้น ได้ให้ตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมกันวางพวงหรีด และช่อดอกไม้ ณ ปฏิมานุสรณ์ ก่อนที่นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะอ่านบทกวีรำลึก
ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งต่างฝากความหวังไว้กับพรรคประชาชน ให้ทำการเมืองอย่างมีความหวังให้กับประชาชน และยืนยันในสิ่งที่เรียกร้องมาโดยตลอด คือประชาธิปไตย และยังมีเสียงสะท้อนบางส่วนที่ระบุว่า รู้สึกผิดหวังบ้าง กับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ได้ตัดสินใจไป เพื่อต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำให้ระบบการปกครองในประเทศนี้ เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเดินหน้าปฏิรูปกองทัพ และหยุดยั้งวงจรรัฐประหาร ไม่ให้เกิดการเข่นฆ่าประชาชนเหมือนที่ผ่านมา
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงการเดินหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาชนจะทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไรว่า ต้องทำความรู้ความเข้าใจกับประชาชนอย่างรอบด้าน ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ช่วงเวลาการจัดทำ 4 เดือนนี้ จะเป็นในเรื่องของที่มาของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่มองไปไกลกว่านั้น คือหลังจากที่มีการเลือกตั้งมาแล้ว และมีการลงประชามติผ่าน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือเนื้อหาภายในรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข การจัดตำแหน่งแห่งที่ขององค์กรอิสระต่างๆ ว่าจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นอาวุธทำลายการเมือง และทำให้เกิดการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นอย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น
ส่วนเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน จะมีทิศทางเช่นไรนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นละเอียดอ่อนทุกคนต่างรับรู้รับทราบดี และจะต้องใช้เวทีในรัฐสภา ทั้งเวทีที่ปรึกษาของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาชนออกแบบมา อยากให้มีตัวแทนจากภาคประชาชน มาสะท้อนความเห็นในทุกประเด็น
ถามว่ากังวลหรือไม่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถูกเบรคโดย สว. นายณัฐพงษ์ ยอมรับว่า มีการประเมินไว้อยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่าเป็นหน้าที่ของพรรค และตัวนายกรัฐมนตรีเอง รวมถึงทุกพรรคการเมือง ที่จะต้องส่งเสียงเรียกไปยัง สว. เพราะสิ่งที่ประชาชนได้สะท้อนออกมา ตนเชื่อว่า หลายๆปี ที่ผ่านมา ได้มีการส่งเสียงว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นสิ่งสำคัญ และไม่น่าจะมีเหตุผล ที่ใครจะมาขัดขวางกระบวนการตรงนี้ เพราะคนที่จะตัดสินคือประชาชนที่จะไปออกเสียงประชามติในวันเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าถึงการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ที่มีการพุ่งเป้าไปที่ สว.จะเป็นหนึ่งปัจจัย ซึ่งทำให้การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญสะดุดหรือไม่ นายณัฐพงษ์ เชื่อว่า ทุกคนสามารถแยกแยะได้ เพราะการอภิปรายในฐานะฝ่ายค้านที่เป็นผู้ตรวจสอบในทุกเรื่อง แต่ขณะเดียวกันกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญ ก็เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ที่อย่างน้อยจะต้องโหวตเห็นชอบในวาระรับหลักการ เพื่อที่จะรับทุกร่างเข้าไปหารือ ในช่วง 2-3 เดือนนี้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดุสิตโพลชี้คนพร้อมเลือกตั้งแต่ยังกังวลปัญหาการเมืองซ้ำรอย
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างค่อนข้างพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 ร้อยละ 56.81
2553 จากรัฐบาลที่ถูกบีบด้วยอาวุธ สู่ประวัติศาสตร์ที่คนรุ่นหลังเลือกจำ
เหตุการณ์ในรั้ว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อกลุ่มนิสิตบางส่วนชูป้ายว่า “สลายการชุมนุม 53 คนสั่งฆ่าอยู่นี่” ระหว่างที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษให้หลักสูตรปริญญาเอกสาขานโยบายสาธารณะ
เตือนสติวัยรุ่น! หยุดคอนเทนต์ทำร้ายคนเขมร ไม่เกี่ยวกับเหตุปะทะชายแดน
รัฐบาลเตือนกลุ่มวัยรุ่นอย่าใช้ความรุนแรงต่อแรงงานกัมพูชาในไทย ชี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุปะทะชายแดน ย้ำหากทำผิด ตำรวจดำเนินคดีเด็ดขาด
วิธีเดิมแก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ 'กิตติพงษ์' แนะสังคมต้องเข้าใจ 'ประชาธิปไตย-ธรรมภิบาล-หลักนิติธรรม' แท้จริง
อดีตปลัดยธ.ชี้ถ้าเราไม่เริ่มเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนระบบความเข้าใจของคนในทุกระดับ เราจะไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ หากเรายังใช้วิธีการเดิม ประเทศไทยยังคงเดินเป็นวงกลม กลับมาสู่จุดเดิมอีกครั้ง
‘สงครามไม่ใช่กีฬา’ นักวิชาการเตือนสื่อ หยุดปลุกกระแสชาตินิยมสุดโต่ง
อาจารย์ธรรมศาสตร์ ชี้สื่อมีพลังทั้งสร้างสันติและจุดชนวนความรุนแรง ต้องนำเสนอข่าวอย่างรอบด้าน ไม่ตกเป็นเครื่องมือของวาทกรรมชาตินิยม หลีกเลี่ยงการทำให้ข้อพิพาทชายแดนกลายเป็นฉากต่อสู้ระหว่างฝ่
สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์ ประณามการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้
สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์ กรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อันนำไปสู่การฆ่าประชาชน

