ดีเดย์! เที่ยงคืน 1 พ.ย. กองทัพภาค 'ไทย - กัมพูชา' ถอนอาวุธชายแดนเฟสแรก

กองทัพภาค 'ไทย- กัมพูชา' ดีเดย์ถอนอาวุธชายแดนเฟสแรกเที่ยงคืน 1 พย. เริ่มที่จรวดหลายลำกล้อง BM-21 เฟส 2 ปืนใหญ่ขนาด155 ม. ลงมาภายใน 3 สัปดาห์ เฟส 3 ยานเกราะ- รถถัง ภายใน 6 สัปดาห์ ขณะที่แม่ทัพ2 ชาติ เตรียมลงนามร่วมกัน31 ต.ค.

29 ต.ค.2568- เมื่อเวลา 9.00 น.มีการประชุมฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่2 -ภูมิภาคทหารที่4 (RBC) ฝ่ายไทย นำโดย พล.ต.กัมปนาท วาพันสุ เสนาธิการกองทัพภาคที่2 เลขาRBC ฝ่ายไทยและ ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.จ.นิด ณารง รอง เสนาธิการ ภูมิภาคทหารที่ 4 เลขาRBC ฝ่ายกัมพูชา เพื่อหารือแผนปฏิบัติการ (action plan) ปรับกำลังและถอนอาวุธหนัก ตามผลการประชุม GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2ผลการประชุมที่สำคัญ ดังนี้

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการกำหนดวัน D-Day ร่วมกันใน 1พ.ย. 2568

กรอบเวลาในการดำเนินการตาม action plan มีดังนี้

- Phase 1 ปรับกำลังประเภท Type A จะเริ่มต้นใน 1พ.ย. 2568เวลา 00.00 น.(วัน D - Day) เป็นอาวุธประเภทจรวดหลายลำกล้อง

- Phase 2ปรับกำลังประเภท Type B จะเริ่มต้นใน 22พ.ย. 2568เวลา 00.00 น.(วัน D - Day + 3สัปดาห์) เป็นอาวุธประเภทปืนใหญ่ทั้งหมด ทั้งลากจูงและอัตราจร ขนาด 155 มม.ลงมา

- Phase 3ปรับกำลังประเภท Type C จะเริ่มต้นใน 13 ธ.ค. 2568 เวลา 00.00 น.(วัน D - Day + 6สัปดาห์) เป็นอาวุธ ประเภท ยานเกราะ รถถัง

ใน 29ต.ค. 2568เวลา 09.00 ผู้แทนฝ่ายเลขาฯ ทั้งสองฝ่ายจะลงนามใน "บันทึกการหารือ" และเตรียมการในการลงนาม "บันทึกการประชุม" ต่อไป ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม – โอร์เสม็ด

สำหรับการลงนาม "บันทึกการประชุม" ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการลงนาม "บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่2 - ภูมิภาคทหารที่4ร่วมกันระหว่าง แม่ทัพภาคที่สอง และ ผู้บัญชาทหารภูมิภาคที่4ใน วันที่31 ต.ค. 2568เวลา 14.00 น.บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม - โอร์เสม็ด

ในวันที่1 พ.ย. 2568 เวลา 00.00 น.จะเริ่มดำเนินการปรับกำลังตามลำดับของประเภทอาวุธที่มีการเสนอ

ในวันที่ 15 พ.ย. 2568จะมีการจัดการประชุมเพื่อทบทวนการปฏิบัติใน Phase 1เพื่อเตรียมการและแก้ไขปัญหาและ หารือในการปรับกำลังใน Phase 2และ 3เพื่อให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมีเวลา ในการวางแผนเข้าตรวจสอบและวางแผนในการเคลื่อนย้าย

ต่อมา มีรายงานว่าการประชุมกองเลขา RBC ทภ.2 กับ ภท.4 ณ หน่วยประสานงานชายแดน กัมพูชา– ไทย ต.โอร์เสม็ด กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝ่ายไทยนำโดย พล.ต.กัมปนาท วาพันสุ เสธ.ทภ.2 และ ฝ่ายเขมร นำโดย พล.จ.นิด ณารง รอง เสธ ภท.4 สรุปสาระสำคัญ คือ

1.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในการกำหนดวันปฏิบัติตามแผนถอนอาวุธหนัก/ปรับกำลังร่วมกัน ใน 1 พ.ย.68

2. การดำเนินการตามแผนปฏิบัติ ดังนี้
2.1 ปรับกำลังประเภท Type A จะเริ่มต้นใน 1 พ.ย.68 (อาวุธประเภทจรวดหลายลำกล้อง)
2.2 ปรับกำลังประเภท Type B จะเริ่มต้น ใน 22 พ.ย.68) ( อาวุธประเภท ป.ทั้งหมด ทั้งลากจูงและอัตราจร ขนาด 155 ลงมา)
2.3 ปรับกำลังประเภท Type C จะเริ่มต้น ใน 13 ธ.ค.68 ( อาวุธประเภทยานเกราะ รถถัง )

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ครูวีระ' อบรมพวกโลกสวย แยกไม่ออก 'รักชาติ' กับ 'ชาตินิยม' แตกต่างกันอย่างไร

'ครูวีระ' ชี้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คนไทยเพียงต้องการรักษาแผ่นดินไทยเท่านั้น มิได้ต้องการรุกรานชาติกัมพูชา แต่หลายกลุ่มแยกไม่ออก 'รักชาติ' กับ 'ชาตินิยม' แตกต่างกันอย่างไร จึงมีคนโลกสวยเป็นจำนวนมาก

'หมอตุลย์' หนุน 'อนุทิน' จัดการกัมพูชาจนกว่าจะศิโรราบ ค้าน 'อันวาร์' ให้เจรจากันอีกครั้ง

นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก มีใจความว่า

'เสธ.หิ' ลั่น สู้กับคนพาล อย่าใช้วิถีของบัณฑิต ถึงเวลากำราบ ลูกหลาน 'พระยาละแวก'

'เสธ.หิ' ลั่น สู้กับคนพาล อย่าใช้วิถีของบัณฑิต ซัด 'กัมพูชา' ไร้สำนึกความจริงใจแก้ปัญหา บอก ถึงเวลากำราบ ลูกหลานพระยาละแวก รบให้รู้กันไปเลย

'หมอวรงค์' ย้อน 'บิ๊กเล็ก' ก็พลาดเหมือนกัน เรื่องการทหาร การสู้รบ ก็ไม่ควรพูดผ่านสื่อ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความกรณี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ท้วงติงทหารเก่า ผู้รู้ ให้ส้มภาษณ์ทำให้กัมพูชาต่อจิ๊กซอว์ได้ ว่า

เพจดัง แนะไทยกระตุ้น 'ทรัมป์' รับผิดชอบ กดดันกัมพูชา คนไทยต้องมีสติ หาพวกมาจัดการคนบ้า

เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com โพสต์ข้อความว่า ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติมีนัยยะที่ชัดเจน โดยเฉพาะข้อสุดท้ายคือ อนุญาตให้กองทัพใช้กำลังได้ตามกฎการปะทะหรือ Rule of Engagement

รบเถิดอรชุน! 'อดีตบิ๊กศรภ.' หนุน 'อนุทิน' รบกัมพูชาเต็มที่ 'ฮุน เซน' ถึงจะรู้สึกรับผิดชอบบ้าง

'นันทเดช' ชี้การลอบวางระเบิดครั้งใหม่ของทหารกัมพูชา มีเจตนาเหยียดยามทหารไทยและรัฐบาลไทยว่าไม่มีน้ำยา หนุน 'อนุทิน' ยึดแนวคิดกองทัพในการแก้ปัญหา 'ฮุนเซน' ถึงจะรู้สึกออกมารับผิดชอบบ้าง