นายกฯ เปิดประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ตอกย้ำความเป็นผู้นำปราบปรามสแกมเมอร์ในภูมิภาค

4 พ.ย. 2568- ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 (The 43rd ASEAN Chiefs of National Police – ASEANAPOL) ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ “ร่วมมือปฏิบัติการ: ปราบปรามการหลอกลวง ขัดขวางการฉ้อโกง และปกป้องประชาชน” หรือ “Collaboration in Action: Crushing Scam, Disrupting Fraud, and Protecting People” ระหว่างวันที่ 3–7 พฤศจิกายน 2568 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับอาวุโสจากประเทศสมาชิกอาเซียน คู่เจรจา และผู้สังเกตการณ์จากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เข้าร่วมมากกว่า 200 คน

ในพิธีเปิดฯ ผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมยืนสงบนิ่งถวายความอาลัย น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมว่า ขอแสดงความยินดีที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEANAPOL ครั้งนี้ พร้อมขอบคุณผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนที่ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ในการเสริมสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในภูมิภาค รวมถึงกล่าวแสดงความยินดีต่อ ติมอร์-เลสเต ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของอาเซียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอาชญากรรมข้ามชาติได้ทวีความซับซ้อนและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งการค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวงข้ามชาติ และการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งทำลายเสถียรภาพของสังคม สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ข่าวร้ายคือ ปัญหาดังกล่าวทำให้ภูมิภาคอาเซียนกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ายินดีคือ ประเทศสมาชิกอาเซียนต่างตระหนักถึงปัญหา รับรู้ถึงความท้าทาย และมีความตั้งใจร่วมกันที่จะดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนกลับมาปลอดภัยอีกครั้ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ประชาคมโลกยังได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ พร้อมกับอีก 67 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ในการประชุมสหภาพรัฐสภาโลก (Inter-Parliamentary Union) ยังได้หยิบยกประเด็น “การหลอกลวงและอาชญากรรมทางไซเบอร์” มาหารือในฐานะวาระเร่งด่วน โดยมีประเทศไทยเป็นผู้เสนอประเด็นดังกล่าว สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่เพียงต้องการเข้าร่วม แต่ต้องการเป็นผู้นำ และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติจำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเป็นระบบร่วมกัน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงของภูมิภาค ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง การฝึกอบรมร่วม และการพัฒนากลไกประสานงานเพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่จากอาชญากรรมข้ามชาติ โดยประเทศไทยได้ประกาศให้ “การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ” เป็นวาระแห่งชาติ และเชื่อมั่นว่าการแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยแนวทางแบบองค์รวมและบูรณาการ

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุม ASEANAPOL ครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ และร่วมกันพัฒนากรอบความร่วมมือเชิงรูปธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพร่วมกันในการรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติในทุกมิติ พร้อมเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมประชุมเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ที่จะเป็นทิศทางเชิงกลยุทธ์ให้กับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกัน คือ “ความมั่นคงและความรุ่งเรืองของภูมิภาคอาเซียนและประชาคมโลกโดยรวม”

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวแสดงความชื่นชมต่อความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในทุกระดับ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกประเทศที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันความร่วมมือของภูมิภาค พร้อมอวยพรให้การประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 43 ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อความสงบสุขและปลอดภัยของประชาชนในภูมิภาคและทั่วโลก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ถก สมช. รถขนน้ำมันช่องเม็กไปลาว ไม่เลี้ยวขวาเข้าเขมร โต้ใช้อาวุธหนักไล่ไปดูคลิปใครรุนแรงกว่า

ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภ

แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’

ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon  โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!

เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ

เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2

ปปง.-ปปช. ลุยสอบจนท.รัฐ-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ โยงภาพ 'เบน สมิธ' ลงนาม MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์

นักการเมืองไทย-เจ้าหน้าที่รัฐมีหนาว! ภาพคู่ "เบน สมิธ" พ่นพิษ หลัง ปปง. - ป.ป.ช. เดินหน้าลุยตรวจสอบเส้นทางเงิน-ธุรกรรม-โครงการโยง "เบน สมิธ และบริษัทฯ"