'หมอธีระวัฒน์' แนะสูตร 'อาหารช่วยชีวิต'

19 พ.ค. 2566 – ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อาหารช่วยชีวิต

ชนิดและประเภทและปริมาณของอาหารได้รับการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากการติดตามทางระบาดวิทยา ในคนต่างเชื้อชาติ ต่างฐานะ และรวมทั้งการศึกษาทางกลไกในการปรับร่างกายให้ดี สามารถป้องกันหรือชะลอโรคที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่มีอาการ หรือแม้มีอาการแล้วก็ตาม

คนที่ชอบทานไข่และเนื้อ อย่าค้อนหมอนะครับ ถ้าสุขภาพแข็งแรงจริงๆ ไม่มีโรคใดๆแฝง และทานผักผลไม้กากไย มหาศาลไปด้วย นั่นคือวันละครึ่งกิโลกรัม อัตราส่วนผักผลไม้ = สองต่อหนึ่ง ย่อมทานได้ระดับหนึ่งนะครับ

ในปี 2556 ถือเป็นปีทองในการได้หลักฐาน ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ถึงความสำคัญของชนิดของอาหารที่กิน กลไก กระบวนการในการขจัดพิษ ในการเกิดสารดีมีประโยชน์ที่ช่วยปกป้องร่างกายและสมอง มีผลทั้งป้องกันโรคตั้งแต่ยังไม่เกิด และชะลอโรคไม่ให้ลุกลามต่อไป

ที่สำคัญคือช่วยได้แม้มะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ซึ่งปัจจุบันเริ่มมียารักษาหรือชะลอ ได้ แต่ไม่ถึงกับชะงัด และยาที่ใช้ ดาษดื่นขณะนี้ เป็นการรักษาตามอาการ และยามีผลข้างเคียง ทานมากไป ยังเร่งให้โรคไปเร็วขึ้น ตายเร็วขึ้นไปอีก

อาหารที่ต้องกินและห้ามกินหรือกินอย่างบันยะบันยัง ต่อไปนี้ ถือว่าควรเริ่มแต่เด็ก เพราะโรคมีการเพาะบ่มยาวนาน นับสิบปี

การที่เกิดมะเร็ง มีอาการของโรคหัวใจ สมอง อัมพฤกษ์ ณ นาทีนี้ เป็นผลพวงของการสะสมความร้ายกาจมานาน รักษาอย่างไรก็ไม่ดีเท่ากับป้องกัน

-กินผลไม้ ผัก รวมกากไย ห้ามคั้นเอาแต่น้ำและเอากากทิ้ง กากเป็นตัวสำคัญในการช่วยชีวิตที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้ให้เป็นกลุ่มดี ผลิตของดี ขจัดของเสีย ฉะนั้นท้องผูกเป็นข้อเสีย แต่การดีท็อกซ์ล้างลำไส้มากเกินไป แม้ช่วยท้องผูก แต่ก็จะไม่เหลือจุลินทรีย์ที่ดีไปด้วย แต่ทำได้เป็นครั้งคราว

-ห้ามกินน้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง ขวด กระป๋อง ชาเขียว ขาว ซึ่ง ต้องดูให้ดีอาจมีน้ำตาลแฝง เช่น ฟรุกโตส แต่ชาที่ต้มชงเอง โดยเฉพาะชาเขียว ชาดำ ชาแดง ยิ่งดีใหญ่ กาแฟก็กินได้ ทั้งที่มีและไม่มี คาฟีอีน

-น้ำผลไม้คั้นที่ไร้กากไย มีน้ำตาลซึ่งกระตุ้นสมองส่วนเสพติด ก่อให้เกิดความสุข กินแล้วได้แต่อ้วน และสมองฝ่อเร็ว

-ลด งด ของหวาน มัน เครื่องใน เลือด หนังเป็ด ไก่ หมูทำให้อ้วน มีไขมันและเป็นบ่อเกิดของโรคนานาชนิด คนอ้วนมีอัตราการฝ่อของสมองเร็วอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะคนที่มีพันธุกรรมอัลไซเมอร์ ทั้งนี้พบแล้วว่าเด็กที่มีพันธุกรรมส่งเสริมจะมีสมองผิดปกติจากการศึกษาด้วยคอมพิวเตอร์สมองแบบพิเศษตั้งแต่อายุ 4 เดือนเป็นต้นไป

-ของมัน หวานทำให้การระบายสารพิษอัลไซเมอร์ พาร์กินสันจากเนี้อสมองหยุดชะงัก ทั้งนี้โดยต้องระบายลงท่อน้ำรอบเส้นเลือด ที่หล่อเลี้ยงสมอง ไปทิ้ง

-การกินของหวาน มันยังทำให้เส้นเลือดผิดปกติ ท่อระบายน้ำและสารพิษเสียหาย ในทางตรงกันข้ามการกินผัก ผลไม้และกากไย จะเร่งกระบวนการขับสารพิษออกจากสมองได้ยอดเยี่ยมและเส้นเลือดปลอดโปล่งโล่งสะดวก

-ลดแป้ง รวมมันเทศ มันฝรั่ง มันสำปะหลัง ซึ่งถูกย่อยและดูดซึมง่าย รวดเร็ว ก่อให้เกิดการไหลหลั่ง ทะลักของฮอร์โมนอินซูลินในกระแสเลือด เกิดภาวะดื้ออินซูลิน แม้ไม่เป็นเบาหวาน แต่เหนี่ยวนำการดื้ออินซูลินในสมองเกิดสมองเสื่อมนานาชนิด และแป้งกลับเป็นตัวสำคัญที่บั่นทอนสุขภาพถ้ากินแป้งเป็นหลัก

-งด ลด สัตว์บก เนื้อแดง เนื้อวัว ทั้งที่ผ่านการปรุงแต่งและไม่ปรุงแต่ง (processed และ unprocessed ) เพราะแม้จะไม่ได้ทำให้ไขมันขึ้นมาก แต่มี แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) ถูกปรับเปลี่ยนโดยจุลินทรีย์ในลำไส้เกิดสารพิษ ทำลายเส้นเลือด เช่นเดียวกับไข่แดง ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว ไข่เจียว หรือที่อยู่ในขนมเค้ก คุกกี้ มีเลซิติน (Lecithin) ถูกเปลี่ยนเป็นสารพิษ TMA TMAO เช่นกัน

-กินปลา สัตว์น้ำ แทนที่เดินบนบก

ทั้งนี้พอเริ่มเป็นหนุ่ม สาว ควรลดไข่แดงเหลือ 2 ฟอง ต่อวัน หรือถ้าเริ่มมีความอ้วนลงพุงก็เหลือสองฟองต่ออาทิตย์ ยกเว้นถ้าเข้าใกล้มังสวิรัติรสแป้งแล้วอาจทานไข่แดงได้เพิ่มขึ้น

ไข่ขาวทานได้ ทั้งนี้เป็นตัวอธิบายตอกย้ำว่าทำไมคนที่ไขมันในเลือดไม่สูงยังตายได้จากโรคเส้นเลือดตันในหัวใจ ในสมอง ถ้ายังกินไข่ กินเนื้ออยู่ ฉะนั้นหนัก ปลา ไก่พอได้ หมูทานน้อยลง หรือเลิกสัตว์บกเลย

-ส่งเสริมการกินพริกหวานพริกหยวก รวมพริกขี้หนู มีสารในกลุ่มนิโคติน ป้องกันและชะลอโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน

-กินถั่วที่มีเปลือกช่วยชีวิตได้ ตั้งแต่ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เชสนัท วอลล์นัท อัลมอนด์ และอื่นๆ แต่ไม่ใช่อบเนย เกลือเยอะกลับตายเร็วขึ้น

-น้ำมันมะกอก (Extravirgin olive oil) กินกับสลัด (ไม่ใช่เอามาผัดกับข้าว) 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน เอามาใส่ข้าวต้มโรยกระเทียมเจียวก็รสชาติใช้ได้หรือใส่ในกาแฟต้ม (ความรูัจากน้องพยาบาล สำนักอนามัย กทม)

-งด ลด กะทิ มะพร้าว เข้าข่ายของมัน ยั้งๆ ไว้ก่อน

-เรื่องน้ำมันมะพร้าวบีบเย็น ที่เชื่อว่าช่วยโรคอัลไซเมอร์ ต้องมีการเลือกส่วนประกอบพิเศษ กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง (caprylic acid) ที่สมองจะเอาไปเป็นอาหาร อีกทางนอกจากกลูโคส ไม่งั้นจะได้แต่ไขมัน และอ้วน

-กาแฟที่มีคาฟีอิน และช็อกโกแล็ตดำ (dark chocolate) ที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไปช่วยหัวสมองจดเท้า

-งดบุหรี่เด็ดขาดวันนี้ เดี๋ยวนี้ อาหารสุขภาพ ยา ยังไงๆต้านพิษบุหรี่ไม่อยู่

-ดื่มไวน์ เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เบียร์ เช่น ลาเกอร์ สม่ำเสมอ อย่างส่งเสริมสุขภาพ ชาย 2 หญิง 1 แก้วต่อวัน (มากกว่านี้ตัวใครตัวมัน)

-สุดท้ายต้องผอม กลไกผ่านยีนยืดชีวิต ชะลอโรค sirtuin และ TOR ทั้งนี้ การทานแบบพระท่านฉัน ช่วงเช้า 6 ชั่วโมง ด้วยอาหารสุขภาพดังข้างต้น และงดหลังจากนั้น 18 ชั่วโมง ซึ่ง ในช่วงเวลานั้น เรายังสามารถกินผลไม้ถั่วได้

-เป็น IF (intermittent fasting) แบบ early eater ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าดีกว่า IF ที่กินช่วงบ่ายเย็นกลางคืน (late eater)

-และแน่นอน เดินตากแดด วันละ 10,000 ก้าว

-แดดมีประโยชน์มหาศาลและไม่ได้เสริมสร้างวิตามินดีอย่างเดียว ผิวหนังสร้างฮอร์โมนเชื่อมโยงระบบป้องกันภัย ทั้งที่เกี่ยวกับโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ

เรียนย้ำ การเอาแต่คิดว่าเป็นแล้วค่อยรักษา คือทางหายนะต่อตนเอง ครอบครัว และผู้อื่น และทำให้ระบบสาธารณสุขบัตรทองเราเสียหาย ไม่มีอะไรดีกว่าการป้องกันนะครับ รักษาตัวทุกคนด้วย รักและห่วงใยทุกคนนะครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษกรัฐบาล เผยประชาชนตอบรับโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่

นายคารม พลพรกลาง เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นลดความเหลือมล้ำ และสนับสนุนประชาชนให้เข้าถึงบริการสาธารณสุข

'หมอนิติเวช' โต้ แท่งย้วยสีขาวในคนตายฉีดวัคซีน mRNA พบได้ในผู้ตายทุกคน

นาวาตรี น.พ. อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย แผนกนิติเวชศาสตร์ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กล่าวถึงรณีที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ออกมาระบุว่า ในต่างประเทศพบ ผู้ฉีดวัคซีน mRNA

'หมอธีระวัฒน์' แนะกลยุทธ์ 'สมองใส'

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กลยุทธ์ สมองใส