
5 มิ.ย. 2566 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความสำเร็จของหน่วยงานภาครัฐ โดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กระทรวงสาธารณสุข ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่ คือ ยาเม็ด ไซทิซิน จีพีโอ (1.5 มิลลิกรัม) เป็นรายแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการช่วยผู้ที่ติดบุหรี่ได้เข้าถึงยาเลิกสูบบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพ และช่วยลดการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ เช่น โรคมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร ถุงลมโป่งพอง และโรคหัวใจ ฯลฯ
โดยความสำเร็จดังกล่าวที่เกิดขึ้น สอดคล้องกับนโยบายนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการวิจัยพัฒนาในด้านต่างๆ ของประเทศ รวมถึงการวิจัยพัฒนาในเรื่องของยาและด้านการแพทย์ด้วยเพื่อให้ประชาชนในประเทศไทยได้สามารถเข้าถึงยาที่มีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2564 พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ถึง 9.9 ล้านคน และเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ด้วยโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร ถุงลมโป่งพอง และโรคหัวใจ เป็นต้น สำหรับในประเทศไทย มียา 5 รายการ ที่ใช้สำหรับเลิกบุหรี่ ได้แก่ ยาเม็ด Varenicline ยาเม็ด Bupropion นิโคตินทดแทน (Nicotine replacement therapy) ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว ปัจจุบันมีเพียงยา 2 รายการ ที่บรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ได้แก่ ยาเม็ด nortriptyline และยาชงสมุนไพรหญ้าดอกขาว ดังนั้น การที่องค์การเภสัชกรรม ได้วิจัยและพัฒนายาเลิกสูบบุหรี่ชนิดใหม่ คือ ยาเม็ด ไซทิซิน จีพีโอ ที่มีคุณภาพดีและราคาถูก ผลิตได้เองในประเทศไทย จึงถือเป็นก้าวย่างสำคัญของการเลิกบุหรี่ในประเทศที่จะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น
“สำหรับยาเม็ดไซทิซิน จีพีโอ อภ. ได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ศึกษาวิจัยทางคลินิกในมนุษย์ ผลการวิจัยมีความปลอดภัย และมีประสิทธิผลดี ซึ่งอยู่ระหว่างการขออนุมัติทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเภทยาควบคุมพิเศษ ที่จำหน่ายได้ในสถานพยาบาลเท่านั้น โดย พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการ อภ. ได้ให้ข้อมูลระบุว่า หากเปลี่ยนมาใช้ยาเม็ดไซทิซิน จีพีโอ ในการรักษาแทนการรักษาในปัจจุบันที่ใช้ยาเม็ด Varenicline จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่ายาต่อคอร์สและลดระยะเวลาในการรักษาได้ 3-4 เท่า รวมทั้งลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี โดยองค์การเภสัชกรรม จะเริ่มผลิตจำหน่ายยาในเดือนมกราคม 2567” นายอนุชา ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เศรษฐาลงภูเก็ต-พังงา ยํ้าไม่มี‘จำนำ-ประกัน’
“เศรษฐา” ปิดประตูจำนำ-ประกันสินค้าเกษตร บอกชัดหากไม่มีภัยพิบัติไม่หยิบมาใช้แน่
'นายกฯ นิด' ชมเปาะ 'ทักษิณ' วิสัยทัศน์กว้างไกล
'เศรษฐา' ชมเปาะ 'ทักษิณ' วิสัยทัศน์กว้างไกล วางโครงสร้างสนามบินสุวรรณภูมิดี ช่วยประหยัดงบประมาณ ขยายต่อเติมได้รวดเร็ว
'เศรษฐา' เปลี่ยนทะเบียนรถ เลขเดียวกับลำดับนายกฯ คนที่ 30
'เศรษฐา' เปลี่ยนทะเบียนรถป้ายแดงแล้ว ใช้ 3 ขส 30 กรุงเทพฯ เลขตรงลำดับนายกฯ คนที่ 30
‘นายกฯไทย-กัมพูชา’ชื่นมื่น ร่วมมือทุกมิติเพื่อ2ประเทศ
นายกฯ ไทย-กัมพูชาพบปะครั้งแรกหลังรับตำแหน่งใหม่
ชงรบ.แก้วิกฤตตำรวจ สภาถกเดือด!จี้กล้าปฏิรูป เสี่ยนิดชี้ตั้งผบ.ตร.ถูกกม.
"เศรษฐา" บอกสบายใจตั้ง "ผบ.ตร.คนใหม่" เรียบร้อย ยันทำถูก กม. ให้ความเป็นธรรมแคนดิเดตทุกคน
เคี่ยวหนักรมต.ใหม่ ติงฉีกรธน.ผลาญงบ
"เศรษฐา" เคี่ยวหนัก รมต.ใหม่ เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมใต้-อีสาน