ผลประโยชน์ทับซ้อน? จีนอนุมัติเครื่องหมายการค้า 'อีวานกา' เพิ่ม ก่อนทรัมป์ผ่อนปรนให้ ZTE


เพิ่มเพื่อน    

ครหาผลประโยชน์ทับซ้อนตามเล่นงานตระกูลทรัมป์อีกครั้ง กลุ่มนักเคลื่อนไหวพลเมืองที่ตามตรวจสอบจริยธรรมเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเผย ทางการจีนเพิ่งอนุมัติเครื่องหมายการค้าของ "อีวานกา ทรัมป์" เพิ่มอีก 5 ชนิดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นไม่กี่วันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตัดสินใจปุบปับผ่อนปรนการลงโทษบริษัทแซดทีอีของจีน

อีวานกา ทรัมป์ แฟ้มภาพ AFP

    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2561 กล่าวว่า การอนุมัติเครื่องหมายการค้าของบริษัท อีวานกาทรัมป์มาร์กส์ จำกัด ของอีวานกา ทรัมป์ บุตรีคนโตของประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่มเติมในครั้งนี้ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในตระกูลทรัมป์ที่เกี่ยวโยงกับจีน ทำให้กลุ่มพลเมืองเพื่อความรับผิดชอบและจริยธรรมในวอชิงตัน (CREW) ตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ว่าจะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่

    องค์กรตรวจสอบจริยธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐแห่งนี้เปิดเผยว่า การอนุมัติเครื่องหมายการค้า 5 รายการ ลงวันที่ 7 พฤษภาคม หรือ 1 สัปดาห์ก่อนหน้าที่ทรัมป์จะอะลุ่มอล่วยให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากจีนแห่งนี้ ซึ่งถูกสหรัฐลงโทษเนื่องจากฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านและเกาหลีเหนือ

    ข้อมูลของ CREW ระบุว่า บริษัทของอีวานกายื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเหล่านี้ในจีนเมื่อเดือนมีนาคม 2550 ซึ่งจะทำให้บริษัทของเธอได้สิทธิ์ประทับตราเครื่องหมายการค้าบนสินค้าหลากหลายชนิด ตั้งแต่แผ่นรองกันลื่นในห้องน้ำ, สิ่งทอ และผ้าห่มเด็ก

    นักธุรกิจหญิงรายนี้ได้รับการแต่งตั้งโดยพ่อของเธอ ให้เป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดี ธุรกิจของเธอสร้างกำไรจากสินค้าหลากหลายชนิดที่มีจีนเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ โดยบริษัท อีวานกาทรัมป์มาร์กส์ จำกัด ถือสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าที่ขายในจีนอยู่แล้วมากกว่า 12 รายการ  และยังมีอีกหลายรายการที่รอการพิจารณา

    เมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์ได้เสนอให้รัฐบาลออกคำสั่งห้ามขายเทคโนโลยีที่สำคัญของสหรัฐแก่บริษัท แซดทีอี ของจีน คำสั่งห้ามนี้มีเป้าหมายเพื่อลงโทษบริษัทจีนแห่งนี้ กรณีที่แซดทีอีออกคำชี้แจงเท็จเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัทเกี่ยวเนื่องกับการขายสินค้าให้อิหร่านและเกาหลีเหนือที่ละเมิดกฎหมายคว่ำบาตร 2 ประเทศนี้

    บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนแห่งนี้ซึ่งมีลูกจ้างมากถึง 80,000 คนเผยว่า การดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐอาจทำให้บริษัทถึงขั้นล้มละลาย

    ทว่าเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทรัมป์ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า เขากำลังร่วมมือกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เพื่อช่วยให้แซดทีอีดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และส่วนหนึ่งก็จะช่วยรักษาการจ้างงานลูกจ้างชาวจีน

    ท่าทีของทรัมป์ต่างจากช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 ที่เขามักกล่าวหาวิธีทำการค้าของจีนว่ากำลังทำลายการจ้างงานคนอเมริกัน คำประกาศของเขาสร้างความงุนงงแก่หลายคนในวอชิงตัน

    ในปีนี้เองทรัมป์ได้เพิ่มแรงกดดันทางการค้าต่อรัฐบาลจีน โดยเฉพาะหลังจากประกาศขึ้นภาษีศุลกากรนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% เมื่อเดือนมีนาคม ทรัมป์ยังขู่ซ้ำๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนั้นว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์ และทำให้รัฐบาลจีนขู่จะใช้มาตรการตอบโต้แบบเดียวกัน

    วันศุกร์ที่แล้ว ทรัมป์เผยว่าเขาบรรลุข้อตกลงเพื่อจะช่วยให้แซดทีอีดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยจะยกเลิกมาตรการลงโทษบางอย่างเพื่อแลกกับการค้ำประกัน ทำให้สมาชิกพรรคเดโมแครตรวมถึงรีพับลิกันบางส่วนเป็นเดือดเป็นแค้น

    สัปดาห์นี้รัฐบาลทรัมป์เตรียมส่งผู้แทนทางการค้าไปกรุงปักกิ่ง เพื่อเจรจาผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"